OMEGA ฉลอง 75 ปีของนาฬิกาดำน้ำยอดนิยมจากคอลเล็กชั่น Seamaster ด้วยการเปิดตัวเซ็ตพิเศษที่มีชื่อว่า Summer Blue ซึ่งประกอบไปด้วยนาฬิกาจำนวน 11 รุ่นจากคอลเล็กชั่นนี้ และจะมากับหน้าปัดสีน้ำเงินที่มีความสวยงามอย่างมาก
OMEGA Seamaster Summer Blue Collection ฉลอง 75 ปีอย่างยิ่งใหญ่
- เปิดตัวเซ็ตนาฬิกา Summer Blue เพื่อฉลอง 75 ปีของ Seamaster
- มีนาฬิกาทั้งหมด 11 รุ่นย่อยจาก 7 รุ่นหลักของ Seamaster
- เริ่มทำตลาดแล้ว ยกเว้น Ploprof จะเริ่มขายในเดือนพฤศจิกายนนี้
เพื่อเฉลิมฉลองให้กับเรือนเวลาระดับไอคอนิกที่รังสรรค์มาเพื่อมหาสมุทรของ OMEGA ผู้ผลิตเรือนเวลาจากสวิสรายนี้จึงรังสรรค์คอลเลคชั่นนาฬิกาใหม่ที่มีชื่อว่า Summer Blue มาพร้อมกับหน้าปัดอันโดดเด่นที่ผสานโทนสีที่สะกดสายตาซึ่งชวนให้นึกถึงผืนสมุทรที่ทอดยาวไร้คลื่นลม
ใน Summer Blue Set จะมีเรือนเวลาระดับไอคอนิกของคอลเล็กชั่นทั้ง 7 แบบแต่มีจำหน่ายทั้งหมด 11 รุ่นย่อย เพื่อแสดงถึงตัวตนที่แตกต่างตั้งแต่นาฬิกาแบบเรียบหรูไปจนถึงนาฬิกาที่รังสรรค์มาเพื่อการดำน้ำโดยแท้จริง สิ่งที่นาฬิกาทุกรุ่นมีร่วมกันคือ สี Summer Blue ของ OMEGA ที่ถูกใช้ในหลายระดับเพื่อสะท้อนถึงคุณสมบัติการกันน้ำของ Seamaster
แต่ละรุ่นและยังบอกถึงความสัมพันธ์กับคุณสมบัติการทนต่อความลึกได้แม้เพียงเหลียวมอง เช่น Aqua Terra สื่อถึงบริเวณผิวน้ำที่แสงแดดส่องถึง ในขณะที่ Ultra Deep ถูกแทนด้วยความมืดอนันตกาล
สี Summer Blue คืออะไร ?
นี่คือสีที่ชวนให้ระลึกถึงมหาสมุทรที่ทอดไกลในวันที่ไร้คลื่นลม นับเป็นตัวเลือกสีที่ไม่อาจเป็นอื่นได้สำหรับนาฬิกาที่เกี่ยวโยงกับการสำรวจ และรังสรรค์โดยแบรนด์ที่มีพันธกิจต่อการอนุรักษ์มหาสมุทร เฉดสีอันงดงามถูกนำมาใช้เป็นพื้นฐานของหน้าปัดทุกแบบในคอลเลคชั่นที่ชวนสะสมนี้ กรรมวิธีเคลือบจะถูกติดตั้งอย่างบรรจงหรืออาจปล่อยให้ไหลแบบอิสระตามแต่ผลลัพธ์ที่ต้องการซึ่งช่วยมอบสัมผัสมิติความลึกได้เป็นอย่างดี
ทุกเรือนในเซ็ตจะมาพร้อมกับฝาหลังที่ระลึกของโอกาสพิเศษนี้ โดยในช่วงทศวรรษที่ 1950 ทาง OMEGA ต้องการสัญลักษณ์ที่จะเป็นตัวแทนของคอลเลคชั่น Seamaster โดยสัญลักษณ์นั้นจะต้องสื่อถึงตัวตนที่เกี่ยวข้องทางทะเลที่สั่งสมของคอลเลคชั่น สไตล์ที่ถูกปรับโฉม และจิตวิญญาณอันแข็งแกร่ง นักออกแบบ Jean-Pierre Borle (ฌอง-ปิแอร์ บอร์ล) ก็ได้แรงบันดาลใจระหว่างที่เขาเดินทางไปเยือนเมืองเวนิส นั่นคือรูปปั้นม้าน้ำของเทพเนปจูนที่ประดับอยู่บนกราบเรือสองข้างของเรือกอนโดลาสุดโด่งดังประจำเมือง
นาฬิกาทุกรุ่นที่กล่าวข้างต้นต่างมีฝาหลังที่ชวนให้สะกดสายตาที่ประดับด้วยตราสัญลักษณ์ของ Seamaster ที่เป็นรูปเทพโพไซดอนที่ถือตรีศูลพร้อมม้าน้ำสองตัว ซึ่งเป็นการออกแบบดั้งเดิมของ OMEGA จากปี 1956 และเป็นการออกแบบในปัจจุบันของแบรนด์
ไม่ใช่เฉพาะนาฬิกาเท่านั้น แต่ในเซ็ตนี้ยังมีชุดเครื่องประดับที่เข้าชุดกัน เพื่อเติมเต็มให้กับนาฬิกา Seamaster รุ่นใหม่ OMEGA ได้ผลิตเครื่องประดับหลากหลายแบบที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณของคอลเลคชั่นรวมถึงหน้าปัด Summer Blue พวงกุญแจลายคลื่นม สร้อยข้อมือเซลลิ่งในโทนสีน้ำเงิน, คัฟลิงค์ตราม้าน้ำ และสายรัดข้อมือสีน้ำเงินที่ประดับด้วยสามง่ามของโพไซดอนจากสแตนเลสสตีลอันวิจิตร
สำหรับนาฬิกาที่อยู่ในเซ็ตนี้ประกอบด้วย
-
Aqua Terra : มีระดับและพร้อมผจญสมุทร
หลังจากเปิดตัวเมื่อปี 2002 นาฬิกา Seamaster Aqua Terra คือการฉีกออกเส้นทางดั้งเดิมของนาฬิกา Seamaster 300 ที่มีมาตั้งแต่ปี 1957 ตลอดหลายปีที่ผ่านมา OMEGA ได้เผยโฉมสัมผัสแห่งการออกแบบหลายด้านที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมหาสมุทร ไม่ว่าจะเป็นลวดลายพื้นไม้สักที่ชวนให้นึกถึงดาดฟ้าเรือใบหรู – หรือหลักชั่วโมงทรงลำเรือใบ
คอลเลคชั่น Aqua Terra ของ OMEGA ในปัจจุบันประกอบไปด้วยนาฬิกา 3 รุ่นใหม่ที่ใช้ตัวเรือนแบบสมมาตรและเม็ดมะยมสแตนเลสสตีล สำหรับรุ่นขนาด 38 มม. ที่ขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer 8800
จะมาพร้อมกับสายนาฬิกาโลหะขัดเงาสลับด้าน ข้อสายแบบโค้งและหลักชั่วโมงทรงลำเรือใบ ในขณะที่นาฬิการุ่นขนาด 41 มม. นำเสนอตัวเลือกให้เจ้าของเรือนเวลาสามารถจับคู่กับสายโลหะหรือสายนาฬิกายางสีน้ำเงิน และติดตั้งด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer 8900
นาฬิกาทุกรุ่นจะได้รับหน้าปัดซันบรัชสีซัมเมอร์บลู (Summer Blue) วาวแบบใหม่ที่ไล่เฉดสีเพื่อสะท้อนถึงคุณสมบัติการกันน้ำของ Aqua Terra ที่สามารถกันน้ำได้อย่างน่าชื่นชมที่ 150 เมตร ก่อนที่จะเติมเต็มด้วยชุดเข็มและหลักชั่วโมงชุบโรเดียมบรรจุสารเรืองแสง Super-LumiNova ที่มอบแสงสีน้ำเงินอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์
-
Aqua Terra Worldtimer : หน้าปัดที่ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
เพียงสองปีหลังจากการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2017 ทาง OMEGA ได้นำเทคโนโลยีเลเซอร์มาประยุกต์ใช้เพื่อให้สามารถรังสรรค์หน้าปัดที่มีผิวสัมผัสและเฉดสีแบบพิเศษ ภาพทิวทัศน์อันงดงามของโลกที่มองลงมาจากเบื้องบนและสวมใส่บนข้อมือได้
ด้วยระบบบอกกลางวันและกลางคืนกับจุดหมายรอบโลกที่รายล้อมบนเรือนเวลา นาฬิกา Aqua Terra Worldtimer เปรียบได้ดั่งเสียงที่เรียกร้องถึงการผจญภัย นับเป็นนาฬิกา Seamaster ที่พิเศษถึงกระทั่งมีมหาสมุทรของตนเอง
นาฬิกา Aqua Terra Worldtimer ขนาด 43 มม. นำเสนอทิวทัศน์ของโลกผ่านสีสันรุ่นนี้ถูกรังสรรค์จากสแตนเลสสตีลและมาพร้อมกับสายนาฬิกาโลหะที่เข้าคู่กันหรือสายนาฬิกายางสีน้ำเงิน ประดับรอบหน้าปัดด้วยรายชื่อจุดหมายปลายทางรอบโลกที่พิมพ์ด้วยสีเงิน หน้าปัดด้านในและด้านนอกถูกคั่นด้วยกระจกเฮซาไลต์ที่แสดงการบอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง โดยสีน้ำเงินอ่อนจะบอกถึงกลางวันและสีน้ำเงินเข้มหมายถึงเวลาช่วงกลางคืน
พื้นผิวของโลกถูกจำลองลงบนไทเทเนียมเกรด 5 ที่ผ่านการระเหยด้วยเลเซอร์และลงสี เผยให้เห็นถึงมหาสมุทรสีน้ำเงินและผืนทวีปที่นูนต่ำ เช่นเดียวกับเทคโนโลยีของ Aqua Terra นาฬิกา Worldtimer นั้นพร้อมที่จะบอกเวลาแม้อยู่ในโลกใต้เกลียวคลื่นได้ลึกถึง 150 เมตร และส่งมอบความเที่ยงตรงด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer 8938
-
Seamaster 300 : เรือนเวลาชาญสมุทร
เปิดตัวรุ่นแรกเมื่อปี 1957 ในฐานะส่วนหนึ่งของสามเรือนเวลา “สำหรับมืออาชีพ” (ร่วมกับ Speedmaster และ Railmaster) นาฬิกา Seamaster 300 รุ่นดั้งเดิมส่งมอบหน้าปัดที่สามารถอ่านเวลาได้อย่างสะดวกรวมถึงคุณสมบัติการกันน้ำที่เหนือชั้นให้กับเจ้าของเรือนเวลา
ยืนยันด้วยดาว “Naiad” ที่ประดับไว้ด้านในตราบนเม็ดมะยม โดยเรือนเวลารุ่นใหม่ยังคงสืบทอดตัวตนดังกล่าวด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer calibre 8912 ที่ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานระดับสูงสุดในอุตสาหกรรมโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS)
นาฬิกา Seamaster 300 ขนาด 41 มม. มีตัวเรือนแบบสมมาตรและเม็ดมะยมสแตนเลสสตีลขัดเงาสลับด้านที่เข้าคู่กับสายนาฬิกา เช่นเดียวกับชื่อ นาฬิกามีคุณสมบัติการกันน้ำที่ 300 เมตรอีกทั้งยังแสดงผ่านหน้าปัดสีซัมเมอร์บลูเคลือบเงาที่สะท้อนถึงระดับความลึกของน้ำที่สามารถทนทานได้มากกว่า
เพื่อให้เข้ากับสีหลัก เรือนเวลาจาก OMEGA รุ่นนี้ถูกติดตั้งด้วยชุดเข็มชุบโรเดียม, หลักชั่วโมงแบบร่อง และตัวเลขที่บรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova ที่มอบแสงสีน้ำเงินอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์
-
Diver 300M : สัญลักษณ์แห่งห้วงสมุทร
ด้วยสเกลดำน้ำที่โดดเด่น, ชุดเข็มแบบฉลุ, หลักชั่วโมงที่ยกนูนโดดเด่น และฮีเลียมวาล์ว นาฬิกา Diver 300M ถูกเปิดตัวในปี 1993 ได้มอบตัวเลือกที่เปี่ยมด้วยสไตล์กับเหล่านักผจญภัยใต้สมุทรลึกใช้จับเวลาที่พวกเขาอยู่ใต้น้ำ นาฬิกา Seamaster Diver 300M สแตนเลสสตีลขนาด 42 มม.
มาพร้อมกับสายนาฬิกาในวัสดุเดียวกันหรือสายนาฬิกายางสีน้ำเงิน คู่ควรกับการเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่นนาฬิกาดำน้ำอันแสนคลาสสิกของ OMEGA และเช่นเดียวกับเรือนเวลาที่ระลึกรุ่นอื่นๆ หน้าปัดของนาฬิกาถูกรังสรรค์จากเซรามิกลวดลายคลื่นสีซัมเมอร์บลูเคลือบเงาไล่เฉดสีเพื่อสะท้อนถึงระดับการกันน้ำ
ล้อมรอบหน้าปัดด้วยขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินมาพร้อมกับสเกลดำน้ำจากอีนาเมลสีซัมเมอร์บลู (กรรมวิธีแบบกรองด์ เฟอ) ชุดเข็มฉลุชุบโรเดียมและหลักชั่วโมงยกนูนบรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova สีน้ำเงินอ่อนที่ไม่เหมือนใคร กลไกที่ขับเคลื่อนนาฬิกาดำน้ำรุ่นนี้อยู่ภายในคือ OMEGA Co-Axial Master Chronometer 8800
-
Planet Ocean 600M : สมดั่งฉายา
แนวทางการออกแบบของ Seamaster 300 ถูกหยิบนำมาใช้กับเรือนเวลา Planet Ocean ที่เผยโฉมเมื่อปี 2005 ซึ่งมาพร้อมกับขอบตัวเรือนสีส้มและฮีเลียมวาล์วที่เป็นเอกลักษณ์ เครื่องบอกเวลายังเปิดตัวพร้อมกับระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial อันโด่งดังของ OMEGA ซึ่งเผยโฉมครั้งแรกในกลไก Calibre 2500
ผู้ที่มองหานาฬิกาดำน้ำเพื่อใช้งานจริงต่างเลือกสรร OMEGA Seamaster Planet Ocean 600M
นาฬิกานั้นทั้งลงตัวและเหมาะสมกับมหาสมุทรแท้จริงสมชื่อ เครื่องบอกเวลาทำงานได้อย่างไร้ที่ติได้ถึงความลึก 600 เมตรใต้เกลียวคลื่นและขับเคลื่อนด้วยขุมกำลังกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer 8800 นาฬิกาขนาด 39.5 มม.
รุ่นนี้มีตัวเรือนและสายนาฬิกาที่รังสรรค์จากสแตนเลสสตีล ขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินและสเกลดำน้ำสีน้ำเงินอ่อนล้อมรอบหน้าปัดเซรามิกสีซัมเมอร์บลูที่ผลิตด้วยกรรมวิธีเคลือบ PVD และเคลือบเงาตกแต่งแบบไล่ระดับสี อีกทั้งยังเติมเต็มด้วยชุดเข็มบลูและหลักชั่วโมงที่บรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova ที่มอบแสงสีน้ำเงินอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์
-
Ploprof : นาฬิกาดำน้ำที่โดดเด่นที่สุดในโลก
ด้วยความสามารถที่ทนทานแรงดันที่รุนแรงที่สุดในมหาสมุทร นาฬิกา Seamaster Professional 600 ที่ไม่เหมือนใครนี้ถูกรู้จักในอีกชื่อว่า “Ploprof” (มาจาก PLOngeur PROfessionnel – ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า “นักดำน้ำระดับอาชีพ”)
นับเป็นหนึ่งในนาฬิกาข้อมือที่แข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยนวัตกรรมมากที่สุดเท่าที่มีมา OMEGA มีกรรมวิธีอันชาญฉลาดในการติดตั้งกระจกนาฬิกาเข้ากับตัวเรือนแบบโมโนบลอคอันทนทานทำให้ไม่ต้องติดตั้งฮีเลียมวาล์ว นักสำรวจมหาสมุทร ฌาคส์ กุสโต (Jacques Cousteau)
และบริษัทวิจัยใต้น้ำ COMEX ต่างใช้งานนาฬิกา Ploprof ระหว่างการทดลองใต้ทะเลของพวกเขาตั้งแต่ช่วงแรกที่นาฬิกาถูกเผยโฉม
นาฬิกา Ploprof 2023 ผลิตจากวัสดุ O-MEGASTEEL และติดตั้งด้วยหน้าปัดซันบรัชสีซัมเมอร์บลู แนวทางการออกแบบถูกหยิบนำมาจากนาฬิกา OMEGA
รุ่นดั้งเดิมที่วางจำหน่ายในปี 1971 วงขอบตัวเรือนผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์เพื่อเลียนแบบโมโนไลติกคริสตัลเสริมความแข็งแรงด้วยเคมีที่ถูกใช้ในนาฬิกายุคแรก คริสตัลโปร่งใสที่เคลือบด้วยสีน้ำเงินด้านหลังยังเผยให้เห็นสเกลดำน้ำสีน้ำเงินอ่อนที่ด้านใต้
ตัวเรือนโมโนบลอคระดับไอคอนิคยังรวมถึงเม็ดมะยมขันเกลียวอันโด่งดังและระบบป้องกันปุ่มกดที่เป็นเอกลักษณ์ ณ ตำแหน่ง 2 นาฬิกาซึ่งในรุ่นนี้จะประดับด้วยวงแหวนเซรามิกสีน้ำเงิน สายนาฬิกายางสีน้ำเงินแบบฉลุช่วยเติมเต็มสัมผัสแบบยุค 70 ในขณะที่ขุมกำลังที่อยู่เบื้องหลังคือกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer 8912
ประวัติของ Seamaster
เรื่องราวของ Seamaster เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ 16 ปีก่อนหน้าที่เรือนเวลาจะถือกำเนิดขึ้นเสียอีก ด้วยการเผยโฉมนาฬิกา OMEGA “Marine” เมื่อปี 1932 – นาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกในโลกที่จำหน่ายให้นักดำน้ำพลเรือน เรือนเวลาอันชาญฉลาดสามารถผ่านการทดสอบที่ความลึก 73 เมตรใต้ทะเลสาบเจนีวาได้สำเร็จ
อีกทั้งยังผ่านการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำได้สูงสุดถึง 135 เมตรระหว่างการทดสอบความดันภายในห้องปฏิบัติการสำหรับวิจัยการผลิตเครื่องบอกเวลาที่เมืองนอยชาเตล (Neuchatel) นับเป็นจุดเริ่มต้นอันยอดเยี่ยมที่ขีดเส้นทางให้ OMEGA รุดหน้าในการออกแบบนาฬิกาสำหรับใต้น้ำ
ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แบรนด์ OMEGA ได้ส่งมอบนาฬิกามากกว่า 110,000 เรือนให้กับเหล่านักบิน, พลนำร่อง และทหารแห่งกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรเพื่อสนับสนุนเหล่านักบินของกองทัพอากาศและราชนาวีระหว่างที่พวกเขารับใช้ชาติ
ประสบการณ์ที่หาเปรียบได้ยากนี้ทำให้ OMEGA สามารถพัฒนาคุณสมบัติด้านการกันน้ำ, การต้านทานสนามแม่เหล็กและทนทานได้อย่างรวดเร็ว และรังสรรค์เรือนเวลาที่ทนทานสภาพแวดล้อมที่สุดขั้วได้อีกหลายหลายรุ่น นอกจากนี้กระทรวงกลาโหมอังกฤษยังได้สลักข้อความ W.W.W อันโด่งดังบนฝาหลังของนาฬิกาแต่ละเรือนซึ่งมีความหมายว่า “Waterproof Wrist Watch”
-
Ultra Deep : แด่การดำดิ่งที่ทุบสถิติโลกของ OMEGA
ในปี 2019 นาฬิกา Ultra Deep เรือนแรกๆ ถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์หลังสามารถลงไปยังจุดที่ที่ลึกที่สุดในโลกได้ หลังจากการดำไปยังร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนาที่ทุบสถิติโลก OMEGA ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีไปยังคอลเลคชั่น 6000m ที่สะเทือนวงการเครื่องบอกเวลาสำหรับจำหน่ายให้กับสาธารณะ ระหว่างการพัฒนา
นาฬิกาถูกทดสอบในสภาพของมหาสมุทรจริงซึ่งกันน้ำได้ถึง 6,000 เมตร (20,000 ฟุต) และผ่านข้อกำหนดของ ISO 6425:2018 ที่เป็นมาตรฐานของนาฬิกาสำหรับการดำน้ำแบบอิ่มตัว เช่นเดียวกับได้รับการรับรองจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS)
นาฬิกาขนาด 45.5 มม. รุ่นนี้มาพร้อมกับตัวเรือนและสายนาฬิกาที่รังสรรค์จากวัสดุสุดแข็งแกร่งอย่าง O-MEGASTEEL และมีหน้าปัดพร้อมลวดลายแบบพิเศษที่น้อมคารวะให้กับปริศนาแห่งห้วงสมุทรอย่างแชลเลนเจอร์ดีป (Challenger Deep)
ตามแผนที่ที่ทางทีม Five Deeps สร้างขึ้นจากการกำหนดพิกัดโซนาร์เกือบหนึ่งล้านจุด แลคเกอร์ถูกเคลือบด้วยการปล่อยให้ไหลอาบไปจนทั่วหน้าปัดซึ่งช่วยมอบสัมผัสแห่งความลึกได้อย่างวิจิตร บนหน้าปัดยังซ่อนรายละเอียดด้วยเช่นกัน
เมื่อถูกฉายด้วยแสง UV ก็จะพบกับข้อความซ่อนอยู่อย่าง OMEGA WAS HERE (OMEGA เคยมาที่นี่) ชี้ไปยังเลขสถิติการดำที่ทำลายสถิติโลกที่ 10,935 m และเผยให้เห็นแอ่งตะวันตก, แอ่งกลางและแอ่งตะวันออก (Western, Central และ Eastern Pool) สิ่งเดียวที่ไม่อาจเห็นได้คือกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer 8912 กลไกรุ่นเดียวกับในนาฬิกา Ploprof ระดับตำนาน
คอลเลคชั่นถูกเปิดตัวในปี 1948 ตรงกับวาระเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของ OMEGA โดยมีการผสานรวมเทคโนโลยีที่ผ่านการพิสูจน์จากสนามรบเข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกที่สง่างามเพื่อรังสรรค์เรือนเวลาสำหรับ “เมือง, ทะเล และชนบท”
ไม่นานนัก ก็เป็นที่ประจักษ์ว่าจะมีหนึ่งในสามคำนั้นที่ได้นิยามอนาคตของนาฬิกา ในห้วงเวลาที่เต็มไปด้วยพลวัต ทศวรรษแห่งความเบิกบานและการสำรวจ Seamaster ก็ได้รับการยอมรับในฐานะตัวเลือกของเหล่านักสำรวจใต้ทะเล และจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายใหม่นี้คือนาฬิกา Seamaster 300 ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 1957
เครื่องบอกเวลาชั้นเลิศถูกผลิตขึ้นรุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่ละรุ่นล้วนนำเสนอการออกแบบที่สดใหม่, นวัตกรรม และกระทั่งระดับคุณสมบัติการกันน้ำที่สูงขึ้นกว่าเดิม ตลอดเส้นทางดังกล่าว เรือนเวลาประดับตราม้าน้ำอันที่แสนโดดเด่นมากมายจะร่วมมีบทบาทสำคัญทั้งในการสำรวจมหาสมุทรและการอนุรักษ์ นี่คือเครื่องบอกเวลาที่เป็นตัวเลือกของผู้ที่เปี่ยมด้วยความหลงใหลและผู้ที่มีหัวใจตระหนักรู้
ในปัจจุบัน OMEGA สามารถทำการทดสอบให้ทุกคนประจักษ์ถึงคุณภาพของนาฬิกากันน้ำของตนในสภาวะใต้น้ำจริงได้ ด้วยโรงทดสอบระดับชั้นนำในอุตสาหกรรมของแบรนด์และเป็นไปตามมาตรฐานการรับรองที่กำหนดโดย METAS (สถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส)
เรือนเวลาที่เปิดตัวในโอกาสครบรอบ 75 ปีของนาฬิกากลุ่ม Seamaster คือการยกย่องถึงประวัติศาสตร์แห่งนวัตกรรม, การสำรวจ, การทดสอบประสิทธิภาพในทะเลและการออกแบบอันน่าทึ่ง
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline