นอกจากจะใจรักแล้วเงินต้องถึงด้วยสำหรับแฟนๆ ของ James Bondกับ โอเมก้า รุ่น Seamaster Diver 300M “James Bond” Platinum-Gold Numbered Editionที่ใช้วัสดุเทพอย่าง Platinum-Gold ในการผลิตตัวเรือนและส่วนต่างๆ ของนาฬิกา
Omega Seamaster Diver 300M “James Bond” Platinum-Gold Numbered Edition วัสดุสุดเทพ ค่าตัวแพงขึ้น 10 เท่า
-
การผลิตรุ่นใหม่ที่ถือว่ามีความพิเศษสำหรับแฟนๆ James Bond
-
ใช้วัสดุระดับเทพอย่าง Platinum-Gold ในการผลิตตัวเรือนและส่วนต่างๆ ของนาฬิกา
-
ไม่มีการผลิตจำกัด แต่ราคาอยู่ที่ 48,800 ยูโร หรือแพงกว่า Sea Pro300m รุ่นธรรดมาเกือบ 10 เท่า
แม้ว่าหนังจะโดนเลื่อนฉายเพราะ COVID-19 แต่งานขายก็ต้องดำเนินต่อไป ทางด้าน โอเมก้า เปิดตัวคอลเล็กชั่นที่ 2 ของ James Bondสำหรับปีนี้ออกมาแล้วต่อจากที่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเพิ่งเปิดตัวรุ่น 007 Edition เพื่อรับกับตอนใหม่อย่าง No Time To Die โดยคราวนี้นาฬิกาที่ถูกนำมาเป็นรุ่นพิเศษยังเป็น Seamaster Professional 300 หรือ Sea Pro300 กับชื่อรุ่นยาวเหยียด Omega Seamaster Diver 300M “James Bond” Platinum-Gold Numbered Editionแต่ไม่มีการจำกัดจำนวนการผลิตเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้
ความพิเศษของนาฬิการุ่นนี้คือ การใช้วัสดุไฮเอนด์อย่าง Platinum-Gold ในการผลิตตัวเรือน ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจที่ทำไมราคาถึงกระโดดขึ้นมาอยู่ในระดับ 48,800 ยูโร ทั้งที่ Seamaster Professional 300 รุ่นธรรมดาอยู่แค่ 3,000-4,000 ยูโรโดยประมาณ สำหรับตัวเรือนมีการขัดเงาสลับด้าน พร้อมกับสายหนังจระเข้สีดำเดินด้วยด้ายสีเทา และบานพับที่ผลิตจากวัสดุเดียวกับตัวเรือน โดยจะมีสายยางแถมมาให้ในเซ็ต
ขนาดตัวเรือนของ Seamaster Diver 300M “James Bond” Platinum-Gold Numbered Editionอยู่ที่ 42 มิลลิเมตร มาพร้อม 60-Minute Insert บนขอบตัวเรือนที่ผลิตจากเซรามิก และมีการใช้แพล็ตตินัมในการผลิคตสเกลตัวเลขที่อยู่บน Insert ส่วน Helium Valve Escapement จะอยู่ที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกาตามเอกลักษณ์ของนาฬิการุ่นนี้
ตัวหน้าปัดเป็นลายเกลียวลำกล้องปืนเหมือนกับ James Editionหลายๆ รุ่น แต่ที่พิเศษคือ ตัวเกลียวที่เห็นนี้เป็นการใช้ White Gold ฝังลงไป และตัวหลักชั่วโมงรวมถึงเข็มนาฬิกาผลิตจากทองคำ 18k ส่วนฝาหลังเป็นแบบใสและมีการพิมพ์ลายสัญลักษณ์ประจำตระกูลของ Bondเอาไว้ โดยคุณสามารถมองเห็นความงามของกลไก 8807 ที่มาพร้อมความเที่ยงในระดับ Master Chronometer เดินด้วยความถี่ 25,500 ครั้งต่อชั่วโมง และสามารถสำรองพลังงานได้ 55 ชั่วโมง มีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร
Omega Seamaster Diver 300M “James Bond” Platinum-Gold Numbered Editionมากับรหัสประจำรุ่น Ref. 210.93.42.20.01.001 ไม่มีการจำกัดจำนวนในการผลิต แต่ราคาถือว่าดุเดือดเอาเรื่อง เพราะขยับขึ้นสูงถึง 48,800 ยูโร ซึ่งนั่นเป็นเพราะความพิเศษของวัสดุที่ถูกนำมาใช้ในการผลิตตัวนาฬิกา
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/