Omega (โอเมก้า) เปิดตลาดเมืองไทยครั้งใหม่ด้วย Seamaster Aqua Terra Worldtimerที่มาพร้อมกับความหรูและฟังก์ชั่นในการบอกเวลาที่ 2 สำหรับนักเดินทางตัวจริง
Omega Seamaster Aqua Terra Worldtimer ความหรูสำหรับนักเดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว
สำหรับแฟนๆ ของ โอเมก้า ที่ต้องเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา และต้องการความหรูที่มาพร้อมความสามารถในการบอกเวลาที่ 2 ของนาฬิกาเรือนนี้ ครั้งนี้ต้องไม่พลาด Seamaster Aqua Terra Worldtimer ที่มาพร้อมความสวยงามและฟังก์ชั่นสำหรับนักเดินทางตัวจริง โดยมากับรหัส 220.12.43.22.03.001 และจำหน่ายในเมืองไทยที่ราคา 308,000 บาท
เรือนเวลา Seamaster Aqua Terra Worldtimer ยังคงความประณีตในการผลิตและความใส่ใจในทุกรายละเอียด หลังการเผยโฉมครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนซึ่งได้เสียงตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง อีกทั้งยังอัดแน่นไว้ด้วยเทคโนโลยีอันโดดเด่น สำหรับผู้ที่หลงใหลในการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์แล้วย่อมไม่ควรพลาดเรือนเวลารุ่นนี้ด้วยประการทั้งปวง
สไตล์แห่ง Aqua Terra
ตัวเรือนสแตนเลสสตีลที่ได้รับการขัดตกแต่งทั้งแบบขัดเงาและขัดด้านขนาด 43 มม. นั้นเข้ากันได้อย่างลงตัวกับสายยางสีน้ำเงินด้วยข้อโลหะขัดเงาซึ่งนับได้ว่าเป็นการหวนย้อนคืนสู่ตัวตนของคอลเลคชั่น Aqua Terra
หน้าปัดวงนอก
หน้าปัดซันบรัชสีน้ำเงินประกอบไปด้วยลวดลายพื้นไม้แนวดิ่งตามแบบฉบับของเรือนเวลา Aqua Terra และแผ่นจานวงใน หน้าปัดล้อมรอบด้วยรายชื่อเมืองสำคัญรอบโลกและที่สำคัญคือเมืองเบียนน์ (Bienne) ซึ่งเป็นบ้านของแบรนด์ โอเมก้า ณ ตำแหน่ง GMT+1
ทิวาและราตรี
วงแหวนคริสตัลพร้อมหลักชั่วโมงครบทั้ง 24 หลักถูกติดตั้งบริเวณกึ่งกลางหน้าปัด โดยครึ่งที่มีสีน้ำเงินอ่อนนั้นแสดงเวลาช่วงกลางวัน ในขณะที่สีน้ำเงินเข้มแสดงเวลาช่วงกลางคืน
ผิวโลก
โอเมก้า ได้จำลองภาพของโลกเมื่อมองลงมาจากขั้วโลกเหนือไว้บนแผ่นไทเทเนียมเกรด 5 โดยใช้กรรมวิธีการระเหยด้วยเลเซอร์ในส่วนที่เป็นพื้นมหาสมุทร พื้นที่เป็นส่วนของทวีปจึงมีความสูงมากกว่า สีที่แตกต่างกันของบริเวณแผ่นดินนั้นเกิดจากปฏิกิริยาทางธรรมชาติระหว่างสารเคมีกับเลเซอร์
กลไกและสายนาฬิกา
พื้นผิวของสายยางสีน้ำเงินมีลักษณะเดียวกับผืนผ้าซึ่งตัดกันกับการเย็บด้วยด้ายสีฟ้า ส่วนเรือนเวลา Worldtimer ขับเคลื่อนด้วยกลไก Master Chronometer Calibre 8938
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
