Omega Seamaster 300 Bronze Gold ทางเลือกใหม่ด้วยตัวเรือนบรอนซ์

0

โอเมก้า เสริมทัพให้กับนาฬิกาวินเทจอย่าง Seamaster 300 โดยคราวนี้โดดเด่นด้วยวัสดุใหม่อย่างบรอนซ์ และมาพร้อมกับกลไก Calibre 8912

- Advertisement -

Omega Seamaster 300

Omega Seamaster 300 Bronze Gold ทางเลือกใหม่ด้วยตัวเรือนบรอนซ์

นับเป็นโมงยามแห่งการริเริ่มโดยแท้จริง ปีนี้คอลเลคชั่น Seamaster 300 ใหม่ของ โอเมก้า จะต้อนรับนาฬิกาขนาด 41 มม. ที่ผลิตจากบรอนซ์โกลด์แบบพิเศษของ โอเมก้า และเป็นนาฬิการุ่นแรกๆ ของแบรนด์ที่ผลิตด้วยอัลลอยที่กำลังอยู่ในขั้นตอนจดสิทธิบัตรชนิดนี้

บรอนซ์มีความเกี่ยวพันธ์กับประวัติศาสตร์การสำรวจท้องทะเลมาอย่างยาวนานโดยถูกใช้งานในการผลิตอุปกรณ์ทางทะเลหลายชนิด อาทิ ใบจักรเรือและหมวกดำน้ำ นอกจากนี้ยังตัวอย่างการใช้งานทองแดงในหน้าประวัติศาสตร์ซึ่งถูกนพผสมกับทองคำหรือเงินเพื่อสร้างอัลลอยที่เรียกกันว่า Corinthian Bronze แม้เราจะไม่ทราบถึงอัตราส่วนของโลหะชัดเจนนัก แต่บันทึกของอารยธรรมกรีกกล่าวขานถึง Corinthian Bronze ว่าเป็นโลหะมีค่าที่ถูกนำไปใช้ในการสร้างอนุสาวรีย์, แจกัน, เรือ ฯลฯ โอเมก้า จึงปรารถนาที่จะร่วมขับขานนามที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอารยธรรมกรีกด้วยการชุบชีวิตศาสตร์จากยุคคลาสสิกในแบบฉบับของตนเอง!

Omega Seamaster 300

บรอนซ์โกลด์ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อมอบโทนสีและความงามสะกดสายตา อีกทั้งด้วยส่วนผสมพิเศษก็ยังทำให้บรอนซ์อัลลอยด์ชนิดนี้สามารถสัมผัสกับผิวหนังได้โดยตรง อัลลอยพิเศษถูกใช้ในการผลิตตัวเรือนและหัวสาย ส่วนประกอบอัดแน่นไปด้วยโลหะมีค่าเช่น ทอง 37.5% หรือที่เรียกกันว่าทอง 9K เช่นเดียวกับพัลลาเดียมและเงิน ก่อให้เกิดสีที่พิเศษซึ่งอยู่ระหว่างทอง Moonshine™ 18K และทอง Sedna™ 18K

Omega Seamaster 300

นอกจากโทนสีชมพูอ่อน ระหว่างการสวมใส่โลหะชนิดนี้จะไม่เกิดการออกซิเดชันให้มีคราบสีเขียวน้ำเงินแต่อย่างใด และพาทิน่าจะค่อยๆ พัฒนาอย่างเป็นธรรมชาติไปตามระยะเวลา นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่หลงใหลในนาฬิกาบรอนซ์และวัสดุนำสมัยอย่างยิ่ง!

 

Omega Seamaster 300เติมเต็มความพิเศษของบรอนซ์โกลด์ด้วยขอบตัวเรือนที่ผลิตจากเซรามิกสีน้ำตาลที่บรรจุสารเรืองแสง Super-LumiNova แบบวินเทจในสเกลดำน้ำ และหน้าปัดซึ่งเป็นชิ้นส่วนภายใน แบรนด์ โอเมก้า จึงสามารถใช้บรอนซ์อัลลอยด์ปกติ (CuSn8) เพื่อสร้างสีน้ำเงินเข้มอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวพร้อมกับพาทิน่าที่สร้างขึ้นจากกรรมวิธีทำเก่าแบบพิเศษ ความงามที่เกิดจากสีที่ตัดกับบรอนซ์โกลด์นั้นกล่าวได้ว่าไม่อาจละสายตา!

Omega Seamaster 300

นาฬิกามาพร้อมกับการรับประกันถึง 5 ปีเต็มและขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 8912 สามารถสำรองกำลังงานได้ 60 ชั่วโมง โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 375,000 บาท และจะเริ่มจำหน่ายในเดือนมิถุนายนนี้

Omega Seamaster 300Omega Seamaster 300

รายละเอียดทางเทคนิค : Omega Seamaster 300 Bronze Gold

  • รหัสรุ่น : Ref. 234.92.41.21.10.001

ตัวเรือน

  • ขนาด: 41 มม. หนา: 14.4 มม.
  • คุณสมบัติในการกันน้ำ: 3 บาร์ (30 เมตร/ 1,000 ฟุต)
  • ตัวเรือน: ขัดเงา-ขัดด้าน
  • ขอบตัวเรือน: สามารถหมุนได้ทิศทางเดียว ทำจากเซรามิกสีน้ำตาลขัดเงา สเกลดำน้ำบรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova แบบ “วินเทจ”; สารเรืองแสง Super-LumiNova บนดอท ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกาเรืองแสงสีเขียว
  • เม็ดมะยมแบบใหม่: เม็ดมะยมขันเกลียวขัดเงาประดับด้วยตรา Ω
  • กระจกหน้าปัด: กระจกแซฟไฟร์ทรงโดมป้องกันรอยขีดข่วนและเคลือบด้วยสารกันสะท้อนทั้งด้านในและด้านนอก
  • าหลัง: เป็นแบบขันเกลียว ขัดเงา-ขัดด้าน; ฝาหลังขอบลายคลื่นสลักด้วยคำว่า “CO-AXIAL MASTER CHRONOMETER” และคุณสมบัติการกันน้ำ; ติดตั้งด้วยกระจกแซฟไฟร์แบบโดม

หน้าปัด

  • การตกแต่ง: โอแพล์ลิน
  • สี: หน้าปัดออกซิไดซ์บรอนซ์ [CuSn8]

ประกอบจาก 2 ชั้น:

  • ชั้นแรกบรรจุสารเรืองแสง Super-LumiNova แบบวินเทจ “ให้แสงสีน้ำเงิน”
  • ชั้นที่สองฉลุเปิดเป็นหลักชั่วโมงและตัวเลข

ชุดเข็ม

  • ชุดเข็มชั่วโมง-นาที และวินาทีทำจาก PVD บรอนซ์-ทองทรงดาบขัดเงา บรรจุสารเรืองแสง Super-LumiNova แบบวินเทจ
  • เรืองแสงสีน้ำเงิน: เข็มชั่วโมงและวินาที (รวมถึงหลักชั่วโมง)
  • เรืองแสงสีเขียว: เข็มนาที (เหมือนกับดอทบนสเกลดำน้ำบนขอบตัวเรือน)

กลไก

  • OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 8912
  • ผ่านการรับรองมาตรฐาน METAS
  • สามารถขึ้นลานได้สองทิศทาง
  • ได้รับการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์
  • จำนวนทับทิม: 38 เม็ด
  • ความถี่: 25’200 A/h (3.5 Hz)
  • พลังงานสำรอง: 60 ชั่วโมง
  • คุณสมบัติพิเศษ: สามารถทนทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์