ในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ที่ประเทศสิงคโปร์ จะมีการจัดงานแสดงนาฬิการายการหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือ Singapore Watch Fair ซึ่ง Nelson Lee ถือเป็นหัวเรือใหญ่ และผู้บุกเบิกการจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นเวทีในการจัดแสดงเรือนเวลาอิสระหลากแบรนด์ ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกใหม่ให้กับผู้คนรักและหลงใหลในนาฬิกาได้อย่างแท้จริง
NELSON LEE ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ Singapore Watch Fair
ด้วยมุมมองของผู้ที่คร่ำหวอดในแวดวงสื่อโฆษณามาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และการเล็งเห็นถึงศักยภาพของวงการเรือนเวลาสิงคโปร์ที่แข็งแกร่ง ทำให้ Singapore Watch Fair งานแสดงเรือนเวลาอิสระหลากแบรนด์
ได้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ ถือเป็นงานนาฬิกาที่น่าสนใจและน่าจับตามองอีกงานหนึ่งของภูมิภาคเอเชีย Nelson Lee ผู้ก่อตั้ง A&N Luxury group และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งงาน Singapore Watch Fair ได้เผยถึงแนวคิด ความเป็นมาและการจัดงานในปีนี้ที่จะมีขึ้นระหว่าง 18-22 ตุลาคม 2023 ณ Hotel Equarius, Resorts World Sentosa
 |
 |
Q : อยากให้คุณเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณได้เข้ามาอยู่ในวงการสินค้าระดับหรู?
A : ผมเริ่มต้นอาชีพการงานในสาขาที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์และสื่อโฆษณารูปแบบดิจิตัลก่อน โดยได้ทำงานในสาขานี้มาตั้งแต่เมื่อ 13 ปีก่อน เคยร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ Facebook, Google, Yahoo, Air France รวมถึงแบรนด์สินค้าหรูและแบรนด์นาฬิกาอย่าง TAG Heuer เป็นต้น
แม้ว่าผมจะทำงานในสายงานที่เกี่ยวกับดิจิทัลคอนเทนต์ แต่ผมเล็งเห็นว่าอุตสาหกรรมลักชูรียังมีอะไรอีกมากมายที่สามารถต่อยอดได้ ด้วยประสบการณ์การทำงานด้านเทคโนโลยีที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับโลกของการผลิตนาฬิกา เวลานี้เป็นเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี สิ่งที่ผมสามารถทำได้คือการให้คำแนะนำหรือช่วยเหลือเกี่ยวกับช่องทางการนำเสนอผลงานนาฬิการวมถึงการติดต่อลูกค้า หรือเรื่องของการซื้อขาย ผ่านวิถีแห่งโลกดิจิทัลนั่นเองครับ
Q : จุดเริ่มต้นของการจัดงาน Singapore Watch Fair เริ่มขึ้นได้อย่างไร?
A : ผมก็ได้รับการชักชวนจากหุ้นส่วนของผม Angela Loh ให้มาร่วมทำงานที่เกี่ยวกับอีเวนท์เครื่องประดับอัญมณีด้วยกัน อีเวนท์ดังกล่าวมีชื่อว่า JeweLuxe ในปี 2017 Angela และผมได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นแทนกลุ่มผู้จัดงานเดิม และได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงาน
โดยเราได้มองว่าในอีเวนท์จิวเวรีซึ่งจัดแสดงเพียงเครื่องประดับอัญมณีเพียงอย่างเดียว จะทำให้งานของเรามีผู้เข้าชมเพียงกลุ่มสุภาพสตรีเท่านั้น หรืออาจจะมีกลุ่มผู้ชมผู้ชายที่มีจำนวนน้อยมากๆ เราจึงเริ่มคิดว่าควรที่จะมีส่วนหนึ่งของงานที่รองรับกลุ่มผู้ชมงานผู้ชายด้วย ทำให้ในการจัดงานเมื่อปี 2017 มีพาร์ทของนาฬิกามาเป็นส่วนหนึ่งของงาน JeweLuxe
โดยเราเริ่มจากการเชิญแบรนด์ช่างนาฬิกาอิสระทั้งหมด 4 แบรนด์ ได้แก่ Vianney Halter, Bexie, Konstantin Chaykin และ Ludwig ซึ่งล้วนเป็นช่างนาฬิการะดับอาจารย์ทั้งสิ้น หลังจากนั้นในการจัดงานปี 2018 เราได้เพิ่มจำนวนผู้จัดแสดงนาฬิกามากขึ้นอีก และต่อมาในปี 2019 มีแบรนด์นาฬิกาอิสระที่เข้าร่วมจัดแสดงในงาน JeweLuxe ถึง 25 แบรนด์ เรียกได้ว่าเราเติบโตได้รวดเร็วมาก
Q : ช่วยอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ A&N Luxury Group ซึ่งเป็นบริษัทที่คุณเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง และเป็นผู้จัดงาน Singapore Watch Fair?
A : A&N Luxury Group ซึ่งเป็นบริษัทที่ผมและเพื่อนของผม Ali Nael ร่วมด้วย Angela Loh ซึ่งเราได้ก่อตั้งบริษัทนี้ในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด ซึ่งหลังจากที่นาฬิกาได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน JeweLuxe และค่อนข้างได้รับผลตอบรับที่ดีอย่างที่ได้กล่าวไป โดยเฉพาะในปี 2019 ที่มีช่างนาฬิกาอิสระมาร่วมงานมากกว่าปีก่อนๆ ที่เคยจัดงานมา พวกเราเลยคิดว่าควรที่จะทำให้ภาคส่วนของนาฬิกาจริงจังมากขึ้น
และโดยเฉพาะช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่าเราน่าที่จะต่อยอดอะไรได้มากกว่าการจัดงาน ดังนั้น A&N Luxury Group จึงได้เกิดขึ้น โดยเรามีการดำเนินการในสองส่วน ส่วนแรกคือการจัดงาน Singapore Watch Fair ส่วนที่สองคือ Cultured Watches ซึ่งเป็นธุรกิจด้านรีเทลและการจัดจำหน่าย
โดยเราจะให้ความสนใจเป็นพิเศษที่แบรนด์นาฬิกาอิสระที่มีผลงานยอดเยี่ยม ซึ่งเราให้การดูแลเพียงไม่กี่แบรนด์ในขณะนี้ แต่ทุกแบรนด์ที่ดูแล เราจะให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ ทั้งในเรื่องของการจัดอีเวนท์ หรือการทำแผนการตลาดต่างๆ
Q : ทำไมคุณเลือกที่จะสนใจในแบรนด์นาฬิกาอิสระเป็นส่วนใหญ่ คุณคิดว่าแบรนด์นาฬิกาอิสระมีเสน่ห์อย่างไร?
A : เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงานด้านดิจิทัลที่ผมทำด้วย เราก่อตั้งบริษัทโฆษณาขึ้นซึ่งเป็นบริษัทเอเจนซีอิสระ ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับบริษัทใหญ่ใดๆ ซึ่งผมคิดว่าจุดนี้คือสิ่งที่เชื่อมโยงจิตวิญญาณของเราให้เข้ากับแบรนด์นาฬิกาอิสระที่ไม่ได้ขึ้นกับกลุ่มบริษัทใหญ่โตเช่นกัน
รวมถึงการมีการบริหารงานเอง มีไอเดียและความคิดที่เกิดจากตนเอง เรียกว่าเป็นบุคลิกลักษณะเดียวกับการทำงานของเรา อีกอย่างคือ ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์จากแบรนด์อิสระยังได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งในยุคนี้ เป็นความนิยมที่ผู้คนให้ความสนใจกับเหล่าผู้สร้างสรรค์เรือนเวลาที่มีความเป็นตัวของตัวเอง
Q : การตอบรับจากทั้งผู้เข้าร่วมจัดแสดงนาฬิกาและผู้ร่วมชมงานที่มีให้กับการจัดงาน Singapore Watch Fair ครั้งแรกเป็นอย่างไร?
A : อย่างที่กล่าวไปว่า เราได้เคยเป็นส่วนหนึ่งในการจัดงาน JeweLuxe ในระหว่างปี 2017 – 2021 ดังนั้นอาจจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้จัดงานนี้ แต่สำหรับการเปิดตัวในชื่องาน Singapore Watch Fair เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อผู้คนได้ทราบข่าวเกี่ยวกับการจัดงานนี้
ก็มีหลายแบรนด์ที่สนใจเข้าร่วมจัดแสดงในงานกันมากมาย เช่น สำนักประมูลที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Philips รวมถึงการได้ AHCI Academy กลุ่มช่างนาฬิกาสวิสอิสระ ทั้งยังมีการเปิดตัวแบรนด์นาฬิกาอิสระต่างๆ ที่งานครั้งที่ผ่านมาด้วย กล่าวได้ว่าเราได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากทั้งแบรนด์นาฬิกาที่เข้าร่วมงานนี้และลูกค้าต่างๆ ของเรา และเราก็ได้นำเอาคำแนะนำต่างๆ ที่ได้จากงานครั้งที่แล้วมาปรับปรุงกับการจัดงานในครั้งนี้
นอกจากนี้เรายังได้มีการรวมตัวกันของเหล่านักสะสมที่เป็นผู้หญิงด้วย ซึ่งเราเป็นงานแรกที่มีการเสวนาเกี่ยวกับนักสะสมนาฬิกาสุภาพสตรี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่ผู้ชมได้จากงานของเรา งานครั้งนี้เราจะมีไฮไลต์การมาเยือนของกลุ่มผู้หญิงผู้เป็นนักสะสมจากทั้งดูไบและคูเวตที่จะมาพบปะกันในงานไพร์เวตดินเนอร์ และรับรองว่างานที่จะเกิดขึ้นในปีนี้จะมีเรื่องราวน่าสนใจใหม่ๆ มานำเสนอ อยากให้รอติดตามกัน
Q : แสดงว่านักสะสมในประเทศสิงคโปร์ให้ความสนใจกับแบรนด์นาฬิกาอิสระมากขึ้นในทุกวันนี้ใช่หรือไม่?
A : แน่นอนครับ สิงคโปร์เรียกได้ว่าเป็นสถานที่หนึ่งที่ก่อให้เกิดกระแสความสนใจในโลกนาฬิกาก็ว่าได้ หากผลิตภัณฑ์ไหนได้เป็นที่สนใจในสิงคโปร์ ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียไปด้วย หรืออาจจะทั่วทั้งโลกก็ว่าได้ เช่น แบรนด์ MB&F ซึ่งได้รับความนิยมเป็นที่แรกๆ ในประเทศสิงคโปร์ รวมถึง Konstantin Chaykin ที่เป็นที่นิยมมากในประเทศสิงคโปร์ด้วย
กล่าวได้ว่าประเทศสิงคโปร์เป็นเสมือนศูนย์กลางใหญ่ของนาฬิกาอิสระ ที่นี่เรามีสาระข้อมูลที่เกี่ยวกับแบรนด์ต่างๆ มากมายให้เรียนรู้ เหล่านักสะสมมีความสนใจและมีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับนาฬิกาที่แน่น และทุกคนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนแบรนด์นาฬิกาอิสระใดๆ ก็ตามที่พวกเขาเห็นว่ามีฝีมือดีจริงๆ กล่าวได้ว่าสิงคโปร์เป็นสถานที่ที่เราสามารถที่จะเติบโตอย่างมั่นคงในแวดวงนาฬิกาได้อย่างยอดเยี่ยม
Q : คุณมองอนาคตของการจัดงาน Singapore Watch Fair ไว้อย่างไรบ้าง?
A : เราต้องการที่จะพัฒนาการจัดงานให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆ ปี เพราะเราต้องการให้เป็นอีเวนท์ที่สำคัญระดับประเทศ และอาจจะในระดับภูมิภาคเอเชียเลย โดยในปีนี้เราวางแผนที่จะจัดงานหนึ่งก่อนที่จะเปิดงาน Singapore Watch Fair ในกรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซียในเดือนกันยายน
ในส่วนของการจัดงาน Singapore Watch Fair เราต้องการให้งานนี้เป็นเหมือนจุดนัดพบที่ยิ่งใหญ่ประจำปีระหว่างแบรนด์ผู้ผลิตอิสระและนักสะสมหรือลูกค้า ที่สามารถมาพบปะกันได้หนึ่งครั้งในหนึ่งปี เป็นงานที่สามารถรวมทุกคนให้พบกันในที่เดียวได้ เป็นการสร้างความสะดวกให้กับหลายๆ แบรนด์ที่ไม่สามารถเดินทางได้บ่อยครั้งในหนึ่งปี
Q : คุณคาดหวังให้ผู้ชมงานได้รับสิ่งใดกลับไปหลังจากที่ได้เข้าร่วมงาน Singapore Watch Fair?
A : ในระยะเวลาการจัดงาน 5 วัน ผมหวังว่า ผู้ชมจะได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับนาฬิกาจากงานของเรา มันเป็นโอกาสที่หาได้ยากนักที่เหล่าช่างนาฬิกาจะสละเวลาลุกจากม้านั่งจากโต๊ะประกอบนาฬิกาเพื่อมาพบปะกับผู้คนได้ง่ายๆ มันเป็นโอกาสดีที่คุณจะได้พบกับช่างนาฬิกาที่ประดิษฐ์นาฬิกาทุกขั้นตอนด้วยมือของเขาเอง ดังนั้น หากใครก็ตามที่ได้มาชมงานนี้แล้วได้รับความรู้หรือเรื่องราวที่น่าสนใจจากงานของเราไป นั่นก็เป็นสิ่งที่ดีมากแล้ว ดังนั้นเราจึงอยากให้ทุกคนที่มีโอกาสได้มาร่วมชมงาน Singapore Watch Fair กันครับ
Singapore Watch Fair 2023 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 21 ตุลาคม 2023 ณ Hotel Equarius, Resorts World Sentosaประเทศสิงค์โปร์
สามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ โดยลงทะเบียนเข้างานได้ที่ https://singaporewatchfair.com/
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
