แบรนด์ดี ตัวเรือนไทเทเนียม กลไกระดับ 80 ชั่วโมงแต่ค่าตัวหลังหักส่วนลดแล้วน่าจะได้ในระดับ 28,000-29,000 บาท นื่ทำให้ Mido Ocean Star Captain Titanium กลายเป็นนาฬิกา Swiss Made ที่น่าสนใจและมีความคุ้มค่าอย่างมาก
Mido Ocean Star Captain Titanium กับเหตุผลที่เราเชื่อว่าคุ้มค่ามาก
มาตั้งหลักกับคำถามง่ายๆ ก่อน อารมณ์ประมาณว่าอยากได้งานดีแต่งบฯ แค่นี้เหมือนตามหน้า Feed ใน Facebook ของพวก AE หรือ Creative ที่ชอบบ่นแบบน้อยใจ ซึ่งกับการเลือกซื้อนาฬิกาสักเรือน ถ้าคุณมีข้อเรียกร้องหลายๆ มากมาย เช่น งานดี แบรนด์มี Heritage กลไกที่ดีทั้งในแง่ของความเที่ยงตรงและพลังงานสำรอง บวกกับตัวเรือนที่ไม่ใช่ Stainless Steel แต่เป็น Titanium โดยที่ตั้งวงเงินไม่เยอะมาก เอาแค่บวกลบ 30,000 บาทนิดๆ แล้วบอกให้เราช่วยหาสักหน่อย..คิดว่าจะเจอคำตอบไหม ?
ไม่ต้องคิดให้เยอะเลย เพราะตัวเลือกที่มีออยู่สำหรับคำถามนี้เท่าที่เรานึกออกมีเพียงรุ่นเดียว คือ Mido Ocean Star Captain Titanium เพราะมีราคาตามป้ายอยู่แค่ 36,500 บาท แต่มีสเปกครบตามความต้องการที่เกริ่นมาข้างต้นจนทำให้ Mido Ocean Star Captain Titanium กลายเป็นตัวเลือกใหม่ที่ไม่น่ามองข้าม และตรงตามคุณสมบัติที่ว่ามา
งานดี ? : เชื่อว่าหลายคนผ่าน Mido มาคงทราบดีว่า เนื้องานของนาฬิกาแบรนด์นี้อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับราคา ส่วนในเรื่องการออกแบบ เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆ เพราะชื่อของ Mido สำหรับใครหลายคนอาจจะบอกว่าแก่ไปหน่อย ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะถ้ายังจำกันได้กับบทความของเราก่อนหน้านี้ เราได้เขียนถึงเรื่องนี้ไปแล้ว โดยเฉพาะในแง่ของความคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยคนรุ่นพ่อ แต่กับในปัจจุบัน เราคิดว่า Mido มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เริ่มมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ด้วยดีไซน์ที่ร่วมสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะคอลเล็กชั่นใหม่ๆ ของพวกเขาทั้ง Multifort และ Ocean Star Captain
มี Heritage ? : ปีหน้าพวกเขาจะมีอายุครบ 100 ปี คิดว่าจะต้องผ่านอะไรมาบ้างหละ และถ้าอยากรู้ตามไปที่ Link นี้ได้เลย โดยตัว Ocean Star เองก็ถือเป็นคอลเล็กชั่นที่เก่าแก่ ซี่งทาง Mido ผลิตขายครั้งแรกในปี 1944แค่นี้ก็น่าจะเป็นตำนานที่พอเล่าสู่กันฟังได้
กลไกที่ดีทั้งในแง่ความเที่ยงตรงและพลังงานสำรอง ? : ประเด็นหลังคงไม่ใช่ของที่ต้องสงสัย เพราะกับตัวเลขในระดับ 80 ชั่วโมงหรือ 3 วันกว่าๆ น่าจะเพียงพอแล้วในการพิสูจน์ถึงเรื่องนี้ ซึ่งนาฬิการะดับเดียวกันบางรุ่นยังทำได้ไม่ถึงครึ่งของ Ocean Star Captain Titanium เลย คาลิเบอร์ 80 ของ Mido (พัฒนาจากเครื่อง ETA C07.621) มีขนาด 11½’’’ เส้นผ่าศูนย์กลาง 25.60 มม. หนา 5.22 มม. มีทับทิม 25 เม็ด เดินด้วยความความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง ตัวเครื่องขัดแต่งสวยงาม สกรูว์ทำเป็นสีฟ้า โรเตอร์ขึ้นลานขัดลายเจนีวาสไตรปส์และแกะสลักเป็นโลโก้ Mido เพียงแต่ด้วยฝาหลังทึบก็เลยมองไม่เห็นตรงนี้ นอกจากนั้นการใช้ เมนสปริง NIVAFLEX NM แบบยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความฝืดที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานของชิ้นส่วนต่างๆ
ตัวเรือนที่ไม่ใช่ Stainless Steel แต่เป็น Titanium : คำว่า Titanium มักจะมีแรงดึงดูดอยู่เสมอว่ามันเป็นวัสดุที่พิเศษ ซึ่งก็แน่นอนว่ามันพิเศษจริงทั้งในเรื่องของน้ำหนักที่เบา และสีสันที่ดูแล้วสวยแบบดิบๆ ไม่เงาจนแวววาวเหมือนกับพวก Stainless Steel ซึ่ง Ocean Star Captain Titanium มากับตัวเรือนและสายที่ผลิตจากไทเทเนียมขัดซาตินและขัดเงา ยกเว้นในรุ่นสายยาง ส่วนขนาดก็อยู่ในระดับที่เหมาะสม มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.5 มิลลิเมตร และหนา 11 มิลลิเมตร ถือว่าเหมาะทั้งการใส่ในวันลำลอง หรือวันที่เน้นอะไรที่เป็นทางการ ส่วนน้ำหนักของตัวนาฬิกาอยู่ที่ 123 กรัม ส่วนกระจกเป็นแบบ Sapphire พร้อมเคลือบสารกันแสดงสะท้อนทั้งด้านในและด้านนอก
ราคา ? : ตามป้ายอยู่ที่ 36,500 บาท ซึ่งถ้าคุณเจอในช่วงเทศกาลงานนาฬิกา เชื่อว่าดีลที่ดีหน้าเคาน์เตอร์อย่างน้อยต้องมี 15-20% ยังไม่บวกพวก On Top ต่างๆ นานๆ หรือไม่เช่นนั้น ก็อาจจะลองมองหาตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Mido ซึ่งมีหลายร้านเปิดขายผ่านทางออนไลน์ พร้อมกับดีลที่น่าสนใจด้วยส่วนลดที่เชิญชวน ดังนั้น ราคาที่ได้น่าจะอยู่ราวๆ 28,000-29,000 บาท ซึ่งกับสเปก แบรนด์ และคุณภาพถือว่าเชิญชวนให้เสียเงินอย่างมาก
สิ่งที่ประทับใจ : นอกจากขนาดโดยรวมที่ค่อนข้างโอเคแล้ว ในรุ่นที่เป็นไทเทเนียมยังมีการเล่นสีสันที่ดูสวยและโดดเด่นโดยเฉพาะการใช้หน้าปัดสีเทาแอนธราไซท์แบบลานเกรนพื้นผิวหยาบซึ่งช่วยทำให้หน้าตาดูโดดเด่นขึ้น แถมยังมีการใช้สีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำตัวของ Mido มาช่วยเพิ่มความสวยสปอร์ตได้อย่างโดดเด่น ส่วนขอบ Bezel มาพร้อมวงแหวนอลูมิเนียมพ่นทรายสีแอนธราไซท์ และตัวเข็มมีการขัดแต่งและเล่นระดับดูสวยงาม โดยเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีเป็นแบบสเกเลตั้นขัดซาตินและขัดเงา เคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่าสีขาวพร้อมสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่าสีส้มที่ปลายเข็มวินาที โดยรวมทั้งหมดเมื่อบวกกับเหตุผลที่เกริ่นมาก่อนหน้านี้ถือว่านี่คือ จุดที่ทำให้เราประทับใจกับ Ocean Star Captain Titanium อย่างมาก
สิ่งที่ไม่ประทับใจ : การใช้น็อตสกรูยึดฝาหลัง จริงอยู่ที่แม้ว่าเราคงไม่ได้มีโอกาสเปิดฝาหลังกันบ่อยๆ แต่เมื่อดูจากภาพลักษณ์ที่ต้องการสื่อให้เห็นถึงการเป็นนาฬิกาสำหรับการใช้งานในน้ำ รวมถึงระดับการกันน้ำ 200 เมตร ดูเหมือนการใช้วิธีนี้แทนที่จะเป็นฝาหลังขันเกลียว อาจจะไม่เหมาะสมเท่าไร และกลายเป็นจุดเสียเปรียบเมื่อเทียบกับพวกใช้แบบฝาหลังขันเกลียว ยกเว้นคุณจะไม่แคร์กับเรื่องนี้ ซึ่งส่วนตัว สำหรับผมถือว่าเป็นประเด็นเล็กน้อยมาก
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/