นาฬิกาอีกคอลเล็กชั่นที่ถือว่ามีประวัติความเป็นมายาวนานสำหรับ Mido ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่สำคัญสำหรับ Ocean Starเพราะถือเป็นการฉลอง 75 ปีนับจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1944
Mido Ocean Star 75 ปีแห่งความสำเร็จ
-
นาฬิการุ่นคลาสสิคที่เกิดมาเมื่อปี 1944
-
การออกแบบของ Ocean Star อ้างอิงจาก ประภาคาร Europa Point
-
ปัจจุบันมีขายด้วยกัน 3 รุ่นคือ Ocean Star Captain 80, Ocean Star 600 และ Ocean Star tribute
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชื่ออย่าง Commander หรือ Baroncelli ที่เป็นคอลเล็กชั่นฮ็อตของแบรนด์นาฦฬิกาเก่าแก่อย่าง Mido แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ยังมีอีกคอลเล็กชั่นที่ถือว่าเก่าแก่และสร้างชื่อเสียงให้กับ Mido มานาน นั่นคือ Ocean Starซึ่งในปัจจุบันต้องบอกว่าเป็นนาฬิกาที่คุ้นเคยกับบรรดาลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดีกับรุ่นOcean Star Captain ด้วยจุดเด่นในเรื่องของรูปลักษณ์ที่สวยสปอร์ต ขนาดที่ลงตัว กลไกชั้นเยี่ยมที่สำรองพลังงานได้ถึง 80 ชั่วโมง และความคุ้มค่าของราคา
ย้อนกลับไปในปี 1944 หรือเมื่อ 75 ปีที่แล้ว Mido ได้เปิดตัวคอลเล็กชั่น Ocean Starออกมาเพื่อเป็นอีกทางเลือกของนาฬิกาในกลุ่มสปอร์ตและรองรับกับการใช้งานใต้น้ำด้วยรูปลักษณ์ที่เด่นและความน่าเชื่อถือในด้านความทนทานในระหว่างการใช้งาน นอกจากนั้นในปี 1959 ยังเปิดตัวรุ่นใหม่ที่มีความโดดเด่นของการออกแบบตัวเรือนแบบชิ้นเดียว Monocoque อันเลื่องชื่อ ผสานด้วยเทคโนโลยีกันน้ำชั้นยอด Aquadura (ซึ่ง Mido คิดค้นขึ้นในปี 1930 กับการปิดซีลเม็ดมะยมแบบจุกคอร์ก และเป็นผู้นำในด้านการทำตัวเรือนนาฬิกาให้กันน้ำได้อย่างแท้จริงซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ในยุคสมัยนั้น) จนทำให้นาฬิกา Mido มีความแข่งแกร่งทนทานในทุกสภาพแวดล้อม
สำหรับปัจจุบันชื่อของ Ocean Starถือเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะรูปลักษณ์ที่ยังยึดคอนเซ็ปต์ในการออกแบบโดยมีการอ้างอิงสถาปัตยกรรมที่โด่งดัง ซึ่งในกรณีของ Ocean Starนั้น ได้รับอิทธิพลในการออกแบบมาจากประภาคาร Europa Point ที่ตั้งอยู่ตรงช่องแคบยิบรอลต้าที่คั่นกลางระหว่างทวีปยุโรปและแอฟริกา
ประภาคารแห่งนี้ได้ทำหน้าที่สอดส่องและนำทางให้กับเรือเดินสมุทรที่แล่นเข้าสู่ช่องแคบยิบรอลตามานานหลายสิบปี แสงอันแรงกล้าของไฟที่ถูกส่งออกมาถือเป็นแสงนำทางที่สำคัญสำหรับนักเดินเรือในแถบนี้ในขณะที่กำลังแล่นเรือเข้าสู่คาบสมุทร Iberian โดยตัวประภาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1944 และ Ocean Starได้นำคุณสมบัติในด้านการให้ความปลอดภัยและความทนทานที่เชื่อใจได้ รูปทรงของสิ่งก่อสร้างที่สวยเพรียวของประภาคารซึ่งเปรียบเสมือนกับแสงนำทางของผู้คนในท้องทะเล มาเป็นส่วนประกอบสำคัญในการออกแบบนาฬิกา
ในปัจจุบัน คอลเล็กชั่น Ocean Starที่ขายอยู่ในเมืองไทยนั้นจะมีด้วยกัน 3 รุ่นหลัก คือOcean Star Captain 80, Ocean Star 600 และล่าสุดคือOcean Star Tribute
นอกจากนั้น Mido เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของการแข่งขัน Red Bull Cliff Diving World Series 2019 ซึ่งถือเป็นการแข่งขันกระโดดน้ำจากหน้าผารายการสำคัญของโลก โดยได้เลือกนาฬิการุ่น Ocean Star Diver 600 มาเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นพันธมิตรในการแข่งขันกีฬาที่ต้องการความแม่นยำอย่างถึงที่สุดรายการนี้
-Ocean Star Captain 80 : มีจำหน่ายทั้งหมด 8 รุ่นย่อยทั้งตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และไทเทเนียม โดยในรุ่นสแตนเลสสตีลเองมีทั้งแบบสีเงินตามชนิดของวัสดุและเคลือบ PVD สี Rose Gold เช่นเดียวกับสายที่มีทั้งสาย Stainless Steel สายไทเทเนียม สายยาง สายหนัง และผ้าไนลอน โดยราคาของ Ocean Star Captain อยู่ระหว่าง 32,500-36,500 บาท ถือเป็นนาฬิกาทางเลือกที่มีหน้าตาสปอร์ตและสเป็กน่าสนใจ
สำหรับตัวเรือนมากับขนาด 42.5 มิลลิเมตรที่ผ่านการขัดลายอย่างสวยงาม ขอบ Bezel ที่ผลิตจากอะลูมิเนียมซึ่งหมุนได้ทิศทางเดียว และมีสีให้เลือกตามรุ่นย่อย ตัวนาฬิกาสามารถกันน้ำได้ในระดับ 20 บาร์ (200 เมตร/660ฟุต) และข้างในมีการบรรจุกลไกที่ถือว่ามีความโดดเด่นอย่างมากในโลกแห่งเรือนเวลา นั่นคือ Caliber 80 โดยเป็นกลไกยุคใหม่ที่ถูกพัฒนาให้มีกำลังงานสำรองสูงสุดถึง 80 ชั่วโมง
กลไก Caliber 80 พัฒนาจากเครื่อง ETA C07.651 มีขนาด 11½’’’ เส้นผ่าศูนย์กลาง 25.60 มม. หนา 5.22 มม. มี 25 จิวเวล ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง โดยเครื่องขัดแต่งสวยงามในเกรด Elabore โรเตอร์ขึ้นลานขัดลายเจนีวาสไตรปส์และแกะสลักเป็นโลโก้ Mido
ส่วนฝาหลังถือเป็นอีกสิ่งที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์โดยรวมและชวนระลึกถึงสัมผัสแห่งท้องทะเล โดยจะมีการสลักเป็นลวดลายของปลาดาว ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Ocean Star
ข้อมูลทางเทคนิค : Mido Ocean Star Captain 80
กลไก : เครื่องแบบขึ้นลานอัตโนมัติ Caliber 80 (พัฒนาจากเครื่อง ETA C07.651) / ขนาด 11½’’’ เส้นผ่าศูนย์กลาง 25.60 มม. หนา 5.22 มม. มี 25 จิวเวล ทางานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง / เมนสปริง NIVAFLEX NM / บาลานซ์สปริง ELINCHRON II / เครื่องขัดแต่งสวยงามในเกรด Elabore / โรเตอร์ขึ้นลานขัดลายเจนีวาสไตรปส์และแกะสลักเป็นโลโก้ Mido / บอกชั่วโมง นาที วินาที พร้อมช่องแสดงวันในสัปดาห์และวันที่ / ปรับตั้งเพื่อความเที่ยงตรงสูงใน 3 ตำแหน่ง / กำลังลานสำรองสูงถึง 80 ชั่วโมง
ตัวเรือน : ตัวเรือนสเตนเลสสตีล หรือไทเทเนียม / Bezel ผลิตจากอะลูมิเนียมหรือไทเทเนียมหมุนได้ทางเดียวและมีสีทั้งสีเขียวและน้ำเงิน โดยมีปุ่มเคลือบสารเรืองแสงสีขาว Super-LimuNova ติดเอาไว้ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา / ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 42.5 มม. / ประกอบด้วย 2 ชิ้นส่วน / กระจกแซฟไฟร์คริสตอลพร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้ง 2 ฝั่ง / เม็ดมะยมขันเกลียว / ฝาหลังทึบแบบขันสกรูว์พร้อมสลักสัญลักษณ์ปลาดาว / สลักหมายเลข Serial Number / กันน้ำถึงระดับ 20 บาร์ (200 เมตร / 660 ฟุต)
– Ocean Star 600 : ถือเป็นที่สุดของนาฬิกาดำน้ำจาก Mido ในยุคนี้ ได้รับการสร้างสรรค์จากสุดยอดเทคโนโลยีของโลกแห่งเรือนเวลา และกับการที่ผ่านการทดสอบของนาฬิกาดำน้ำตามมาตรฐานการรับรอง ISO6425 ทำให้ Ocean Star Diver 600 ใหม่มีความสามารถในการกันน้ำในระดับ 60 บาร์ (600 เมตร/1,968 ฟุต) และทำงานร่วมกับวาล์วระบายก๊าซฮีเลียม หรือ Helium Valve
สำหรับตัวเรือนผลิตจากสตีลมีการขัดสลับซาตินและขัดเงา โดยมีทั้งรุ่นที่มาพร้อมกับรุ่นตัวเรือนสีเงินปกติ และเคลือบ DLC สีดำ ซึ่งเป็นกรรมวิธีที่ทันสมัยซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้สีสันบนตัวเรือนที่โดดเด่น เช่นเดียวกับความทนทานต่อการใช้งานชนิดที่ไม่มีใครเทียบได้ สำหรับขอบตัวเรือนมาพร้อมกับขอบเซรามิกซึ่งมีตัวเลขที่ชัดเจนและยังเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova Grade X ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านการเรืองแสงที่ยอดเยี่ยมในการช่วยทำให้นักดำน้ำสามารถอ่านค่าของการใช้เวลาใต้น้ำได้อย่างเที่ยงตรงและแม่นยำ
นาฬิการุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานใต้ท้องทะเลและถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยนวัตกรรมอันล้ำหน้าของโลกแห่งเรือนเวลาในทุกส่วนที่เป็นหัวใจหลักของตัวนาฬิกา โดย Ocean Star Diver 600 ได้รับการติดตั้งกลไกCaliber 80 ที่มาพร้อมกับความเที่ยงตรงในการทำงาน โดยผ่านมาตรฐานการทดสอบของ COSC จนได้รับรองให้เป็นนาฬิกาแบบ Chronometer แถมตัวใยลานยังผลิตจากซิลิคอน มีความสามารถในการสำรองพลังงานได้ถึง 80 ชั่วโมง โดยที่มีความโดดเด่นในเรื่องความเที่ยงตรง และความทนทานต่อการกระแทก ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ใยลานแบบซิลิคอน
ส่วนราคาขายในบ้านเราอยู่ที่ 61,250 บาท
ข้อมูลทางเทคนิค : Mido Ocean Star 600
กลไก : กลไกอัตโนมัติ Mido Caliber 80 Si (พื้นฐานจาก ETA C07.821) มีความเที่ยงตรงระดับ Chronometer ตามมาตรฐาน COSC ขนาด 11½’’’ เส้นผ่าศูนย์กลาง 25.60 มม. หนา 5.22 มม. มี 25 จิวเวล ทำงานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง / ขัดแต่งสวยงามตามเกรด Elabore /เมนสปริง ELINFLEX, ใยลานซิลิคอน,ตกแต่งชิ้นส่วนจักรกรอกแบบสะพานด้วยสัญลักษณ์ Si, ตกแต่งชิ้นส่วนเพื่อความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์และใช้น็อตยึดชิ้นส่วนสีฟ้า/ โรเตอร์ขึ้นลานขัดลายเจนีวาสไตรปส์และแกะสลักเป็นโลโก้ Mido / บอกชั่วโมง นาที วินาที และวันที่ / ปรับตั้งเพื่อความเที่ยงตรงสูงใน 5 ตำแหน่ง / กำลังลานสำรองสูงถึง 80 ชั่วโมง
ตัวเรือน : ตัวเรือนสเตนเลสสตีล 316L ขัดลายซาตินสลับเงา /เคลือบสีดำด้วยกรรมวิธี DLC / Bezel ขัดเงาสลับกับขัดลายซาตินพร้อมกับขอบเซรามิกซึ่งมีตัวเลขที่ชัดเจนและยังเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova Grade X / หมุนทางเดียว / ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 43.5 มม. / ประกอบด้วย 2 ชิ้นส่วน / แซฟไฟร์คริสตอล เคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้งด้านนอกและด้านใน / เม็ดมะยมแบบขันเกลียว / ฝาหลังขันเกลียว / ฝาหลังสลักรูปปลาดาว / มี Helium Valve / ขัดแต่งกลไก Si ที่มีความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์/ กันน้ำถึงระดับ 60 บาร์ (600 เมตร/1968 ฟุต)
-Ocean Star Tribute : Mido แสดงการยกย่องสำหรับการครบรอบ 75 ปีของคอลเลคชัน Ocean Star เพื่อรำลึกถึงอดีต Ocean Star Tribute ทำการแปลรหัสสุนทรียภาพของนาฬิการุ่นดำน้ำในช่วงทศวรรษที่ 1960 ซึ่งเป็นการผสมผสานของคุณลักษณะทั้งหมด
ตัวเรือนมากับขนาด 40.5 มิลลิเมตร ความกว้างขาสาย 21 มิลลิเมตร ส่วนสายที่อยู่ในเซ็ตจะมีทั้งสาย Stainless ลายใหม่ และสายผ้า พร้อมหน้าปัดที่มีให้เลือก 2 สี คือ ดำพร้อมพรายน้ำแบบสีเหลืองอ่อนที่ดูคล้ายกับนาฬิกาในสไตล์วินเทจ และสีฟ้าเข้ม พร้อมกระจก Sapphire ทรงโดม และแน่นอนว่านาฬิการุ่นนี้ใช้กลไกอัตโนมัติรุ่น Calibre 80 ที่สำรองพลังงานได้ถึง 80 ชั่วโมง และตัวนาฬิกาสามารถกันน้ำได้จนถึงระดับความดัน 20 บาร์ (200 ม.)
สำหรับราคาในเมืองไทยจำหน่ายที่ 35,900 บาท
ข้อมูลทางเทคนิค : Mido Ocean Star Tribute
วัสดุ: สแตนเลสสตีล
ขนาดหน้าปัด: 40.50 mm
ความหนาตัวเรือน: 13.43 mm
ความกว้างขาสาย : 21.00 mm
การกันน้ำ: 20 บาร์ (200 เมตร/660 ฟุต) พร้อมเม็ดมะยมขันเกลียว
หน้าปัด: กระจกแซฟไฟร์
ความหนาตัวเรือน: 13.43 mm
กลไก : ออโตเมติก Mido Caliber 80 (เครื่อง ETA C07.621)
สำรองพลังงาน : 80 ชั่วโมง
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/