สัมผัสประสบการณ์แห่งเรือนเวลาหรูสุดยอดนวัตกรรมล่าสุดจากแบรนด์ Mido ในงาน “Mido Novelties Presentation 2024” อวดโฉม 6 คอลเลกชั่นน่าสะสมแห่งปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Inspired By New Visions’
Mido เปิดตัวนาฬิกาใหม่ Novelties 2024
Mido แบรนด์นาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์ ในเครือ เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) นำโดย ตุลพร วัฒนาศรมศิริ ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ Mido ประเทศไทย ได้จัดงาน “MIDO Novelties Presentation 2024” อวดโฉมเรือนเวลา 6 คอลเลกชั่นไฮไลท์น่าสะสมประจำปี 2024 มาให้เหล่าคนรักนาฬิกาได้ชมพร้อมกันภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Inspired By New Visions’ ในบรรยากาศบาร์ลับใจกลางเมืองที่ร้าน Kilik Social Club โครงการ Warehouse สุขุมวิท 26 ในค่ำคืนที่ผ่านมา
คอนเซ็ปต์ในการจัดงานถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา ด้วยการนำเอาแนวคิดอันเป็นหัวใจหลักของนาฬิการุ่นยอดนิยมอย่าง Multifort TV Big Date (มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท) มารังสรรค์ใหม่ด้วยเทคนิคการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเทคโนโลยีที่สร้างความกลมกลืนระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือน (Immersive experience) บอกเล่าตัวตนของเรือนเวลาไฮไลท์ประจำปี 2024
ในงานนี้ได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์ตบเท้าเข้าร่วมงาน อาทิ หม่อมหลวงอรรถดิศ ดิศกุล, ธัญวรรณ เทพหัสดิน ณอยุธยา, รินทร์รตา อินทามระ, ณรงค์ฤทธิ์ ศรีตลานนท์ และเฉลิมพล อัครภิญโญสกุล รวมถึงเหล่านักแสดงชื่อดังที่มาร่วมถ่ายทอดสไตล์อันโดดเด่นผ่านเรือนเวลาหรู อาทิ มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร, ณ-ณภัทร วิกัยรุ่งโรจน์ และ มะปราง-อลิสา ขุนแขวง
สำหรับ 6 คอลเลกชั่นเรือนไฮไลท์ประจำปี 2024 ภายในงาน “Mido Novelties Presentation 2024” ประกอบด้วย
Multifort TV Big Date ที่ต่อยอดความสำเร็จหลังจากการเปิดตัวในปี 2023 ที่ผ่านมาครั้งนี้มาพร้อมกับ 2 เฉดสีใหม่ คือ Multifort TV Big Date – Rose Gold PVD ตัวเรือนสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ เข้ากับสายนาฬิกายางสีน้ำตาลเข้มเข้ากันได้เป็นอย่างดี ด้านหน้าปัดมีการไล่เฉดสีน้ำตาลไปจนเป็นสีดำเข้มบริเวณขอบได้อย่างสวยงาม
อีกรุ่น คือ Multifort TV Big Date – Black PVD ที่มีตัวเรือนสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีดำเข้มทั้งกรอบตัวเรือนและสายสแตนเลสสตีล มาพร้อมกับหน้าปัดไล่เฉดสีในโทนสีดำที่ตัดกับสีของหมุดบอกเวลา เข็มนาฬิกา และตัวเลขวันที่ในโทนสีส้มอันเป็นสีเอกลักษณ์ของมิโดได้อย่างงดงาม
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Caliber 80 ที่สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุด 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) ช่วยเสริมกลไกให้แข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็กด้วย ด้านหน้าปัดมีช่องแสดงวันที่ขนาดใหญ่ (Big Date) ตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา
นอกจากนั้น ยังเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับนาฬิกาจากตระกูลคอลเลกชั่น Multifort TV ที่ตอบโจทย์เหล่าหญิงสาว ด้วยขนาดตัวเรือนใหม่กับคอลเลกชั่น Multifort TV 35 มาในตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาดหน้าปัดเส้นผ่านศูนย์กลาง 35 มิลลิเมตร
หน้าปัดตัวเรือนถูกตกแต่งด้วยเปลือกหอยมุกแท้โทนสีขาวสุดหรู (Mother of pearl) พร้อมเพชรน้ำงามจำนวน 6 เม็ด ที่ถูกจัดวางแทนหมุดบอกเวลาตรงตำแหน่ง 1, 2, 4, 5, 7, 8, 10 และ 11 นาฬิกา เพิ่มความหรูหราได้อย่างลงตัว
ด้านบริเวณตำแหน่ง 12 นาฬิกาถูกแทนด้วยช่องแสดงวันที่ ส่วนเข็มนาฬิกาถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา (Super-luminova®) ช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย พร้อมกลไกอัตโนมัติ Caliber 72 ที่มีบาลานซ์สปริงผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) เพิ่มความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก และสามารถสำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง
นอกจากหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวแล้วยังมีรุ่นหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีฟ้าประดับเพชร รุ่นตัวเรือนและสายสีโรสโกลด์ หน้าปัดสีน้ำตาลให้ลุคหรูหรา พร้อมตัวเลือกหน้าปัดสีดำและน้ำเงินไล่เฉด ที่มาพร้อมสายสแตนเลสแท้สีเงินที่ให้ลุคสมาร์ทแต่มีระดับ
- Ocean Star GMT Special Edition นาฬิกาดำน้ำดีไซน์ใหม่ล่าสุดที่ได้เฉลิมฉลองครอบรอบ 80 ปี กับคอลเลกชั่น Ocean Star มาในตัวเรือนที่มีการติดตั้งฟังก์ชัน GMT ที่เหมาะสำหรับนักเดินทาง บนตัวเรือนไซส์ 40.5 มิลลิเมตร สามารถแสดงเวลาสองไทม์โซนที่แตกต่างกัน คือ เวลาของเมืองที่เดินทางมา (Home Time) และเวลาของเมืองที่เดินทางมาถึง (Local Time)
ตัวนาฬิกามาในดีไซน์หน้าปัดสีน้ำเงินเข้มอันเป็นเอกลักษณ์ เสริมด้วยการตกแต่งบริเวณหมุดบอกเวลาในรูปทรงฟันปลาฉลามอันแหลมคม พร้อมกรอบเบเซิลอลูมิเนียมสีน้ำเงินเข้มที่สามารถหมุนได้ 2 ทิศทาง ด้านตัวหมุดบอกเวลาและเข็มนาฬิกาเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา ช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย มีช่องบอกวันที่ (Date)
ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ครอบทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านทรงกลาสบ็อกซ์ ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Caliber 80 สามารถสำรองพลังได้สูงสุด 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงที่ผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสายนาฬิกา 2 สไตล์ ได้แก่ สายแสตนเลสสตีลแบบถักที่มีตัวล็อคแบบพับได้ พร้อมส่วนต่อขยายสำหรับทำกิจกรรมดำน้ำ และสายนาโต้สีน้ำเงินเข้มที่มีความทนทานสามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส และความสามารถในการกันลึก 20 บาร์ / 200 เมตร
- Multifort Patrimony Powerwind นาฬิกาดีไซน์สไตล์วินเทจที่ถูกออกแบบให้มีความโดดเด่นสะดุดตาด้วยตัวเรือนหน้าปัดวงกลมสแตนเลสสตีลขัดซาตินขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร เข้าคู่กับสายสแตนเลสสตีลแบบถักให้ลุคที่ดูคลาสสิกเรียบโก้
โดยคอลเลกชั่นนี้มีสีหน้าปัดที่หลากหลายสามารถเลือกเสริมลุคได้ตามความชอบ ได้แก่ สีเงิน, สีดำแอนทราไซต์, สีน้ำเงิน และสีเขียว บนหน้าปัดตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกาถูกแทนด้วยช่องแสดงวันที่ ตัวเข็มนาฬิกาและหมุดบอกเวลาถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนวา ช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย
ด้านหลังตัวเรือนเผยโชว์กลไกอัตโนมัติ Caliber 80 สามารถสำรองพลังได้สูงสุด 80 ชั่วโมง พร้อมความสามารถในการกันลึก 5 บาร์ / 50 เมตร
- Multifort M Freeze เรือนเวลาดีไซน์สปอร์ตมาในตัวเรือนหน้าปัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง42 มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยหน้าปัดไล่เฉดสีฟ้าที่ชวนให้นึกถึงความเย็นยะเยือกของน้ำแข็งบนพื้นผิวขัดลายซาตินแนวตั้งชวนให้นึกถึงลวดลาย Côtes de Genève ด้านเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมง เข็มนาที และหมุดบอกเวลาถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา ช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย
- ส่วนกระจกหน้าปัดผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน มาพร้อมกระจกใสบริเวณหลังตัวเรือนที่โชว์ให้เห็นถึงกลไกอัตโนมัติ Caliber 80 สามารถสำรองพลังได้สูงสุด 80 ชั่วโมง พร้อมความสามารถในการกันน้ำลึก 10 บาร์/ 100 เมตร
- Commander lady สะท้อนเอกลักษณ์ความเฟมินีน สู่เรือนเวลาดีไซน์เหนือกาลเวลาที่มาในตัวเรือนสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีเหลืองทองที่โดดเด่น มีขนาดหน้าปัดเส้นผ่าศูนย์กลาง 35 มิลลิเมตร พร้อมการตกแต่งหน้าปัดด้วยการขัดซันเรย์ซาตินรูปทรงเกลียวในโทนสีแชมเปญสุดหรู
- โดยมีช่องบอกวันที่ ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ครอบทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Caliber 72 ที่มีบาลานซ์สปริงผลิตจากนิวาครอง (Nivachron™) เพิ่มความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกและสนามแม่เหล็ก และสามารถสำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง พร้อมความสามารถในการกันน้ำลึก 5 บาร์/ 50 เมตร
ถัดมาที่สาวสวย ธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เล่าว่า “ปกติเราจะเลือกนาฬิกาจากดีไซน์ที่ชอบและโทนสีที่เหมาะกับผิว ถ้าใครที่ชอบความคลาสสิกเรียบง่ายอาจจะเลือกเรือนสแตนเลสสตีลหน้าปัดกลม หรือถ้าใครที่ชอบความแปลกใหม่แนะนำให้เลือกหน้าปัดเหลี่ยมเลย
อย่างเราเองก็จะหยิบมาใส่ตามโอกาสถ้าเป็นวันที่แต่งตัวชิลล์ๆ หรือแคชชวลหน่อยก็จะใส่สแตนเลสสตีลหน้าปัดเหลี่ยมสีฟ้า หรือถ้าเป็นวันที่แต่งตัวทางการสไตล์เรียบโก้ก็จะคอมพลีทลุคด้วยนาฬิกาสีทองทั้งเรือนเพื่อให้ได้ลุคที่โดดเด่นไปเลย”
โดยเหล่าแฟนคลับแบรนด์ Mido ต่างร่วมเผยถึงเคล็ดลับการเลือกนาฬิกาและสไตล์ของนาฬิกาเรือนโปรด เริ่มจาก หนุ่มมาดเท่ หม่อมหลวงอรรถดิศ ดิศกุล เผยว่า “ถ้าต้องเลือกนาฬิกาสักเรือน เราแนะนำให้เลือกจากรูปแบบการใช้งานในชีวิตประจำวันถ้าเป็นเรือนสำหรับใช้งานทั่วไป
อาจจะเลือกจากดีไซน์ที่มีความเรียบง่าย คลาสสิก แต่ถ้าใครเป็นสายกิจกรรมก็ควรเลือกนาฬิกาที่มีความทนทาน กันกระแทกได้ดี มีฟังก์ชั่นการจับเวลาที่เที่ยงตรง รวมถึงฟังก์ชั่นการกันน้ำลึก อ่านค่าในที่แสงน้อยที่สามารถตอบโจทย์สายดำน้ำได้
ซึ่งเราจะเลือกนาฬิกาที่สามารถใช้ได้บ่อย ในดีไซน์ที่มีความโมเดิร์นคลาสสิก ส่วนตัวจะชอบสีดำสแตนเลสสตีลและเรือนที่มีหน้าปัดทรงเหลี่ยม เพราะจะช่วยเสริมให้การแต่งตัวดูสนุกขึ้น หรือเรือนที่หน้าปัดไม่ใช่โทนสีคลาสสิก อย่างสีฟ้า สีน้ำเงินหรือสีเขียว ก็ได้เช่นกัน”
คนต่อมาดีไซน์เนอร์สาว รินทร์รตา อินทามระ เผยว่า “ถ้าใครกำลังจะเลือกนาฬิกาเรือนแรกเราแนะนำให้เลือกจากแบรนด์ที่น่าสนใจอย่างแบรนด์ Swiss made เพราะจะเป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีประสิทธิภาพด้านนวัตกรรมและดีไซน์ที่ไทม์เลส ถ้าเลือกแบรนด์ได้แล้วก็ลองศึกษาดูรุ่นที่ชอบ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์
ซึ่งแนะนำว่าควรไปลองสวมใส่เรือนจริงก่อนว่าสบายไหม ขนาดหน้าปัดพอดีกับข้อมือเราหรือเปล่า ส่วนตัวเราจะชอบนาฬิกาดีไซน์เรียบหรูเพราะใส่ได้บ่อย เรือนที่ชอบจะเป็นสแตนเลสสตีลสีโรสโกลด์หน้าปัดทรงเหลี่ยมสีน้ำตาล”
ด้านนักแสดงหนุ่ม มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิตสถาพร เล่าว่า “ถ้าเลือกนาฬิกาดีๆ สักเรือนสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน นอกจากเลือกจากแบรนด์ที่ชอบแล้ว แนะนำให้เลือกจากดีไซน์ที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส อย่างเรือนที่ใส่วันนี้เป็นรุ่น
Multifort TV Big Date – Rose Gold PVD กรอบตัวเรือนเป็นสแตนเลสสตีลสีโรสโกลด์ หน้าปัดไล่เฉดสีน้ำตาลไปจนเป็นสีดำเข้มเป็นเรือนที่เรียบหรูแต่ดูคล่องแคล่วด้วยการใช้สายนาฬิกาแบบยางสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งเป็นเรือนที่เราชอบมาก เพราะค่อนข้างเป็นตัวเองเลย เป็นดีไซน์ที่เรียบหรูแต่ไม่มากเกินไปเพราะสายนาฬิกาที่มาช่วยเพิ่มความสนุกให้กับลุคดูทะมัดทะแมงขึ้น”
เตรียมพบกับเรือนเวลาหรูหลากคอลเลกชั่นจากงาน “MIDO Novelties Presentation 2024” จากแบรนด์ ”มิโด” (MIDO) นาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (MIDO) เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ MIDO Official Store ใน Shopee และ Lazada และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์ www.midowatches.com Facebook: Mido Watches และ LINE Official Account: @midothailand หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0200
ปิดท้ายที่นักแสดงสาว มะปราง-อลิสา ขุนแขวง เผยว่า “เทคนิคการเลือกนาฬิกาแนะนำให้เลือกจากแบรนด์ที่ชอบและเรือนที่เป็นตัวเราสามารถสะท้อนคาแรคเตอร์ของเราได้ดีในขณะที่สวมใส่และตัวเรือนต้องพอดีกับข้อมือ วันนี้เราใส่ Multifort TV 35 เป็นตัวเรือนสแตนเลสสตีล หน้าปัดตกแต่งด้วยเปลือกหอยมุกประดับเพชรที่ให้ความเรียบหรู แต่ในขณะเดียวกันก็มีความโมเดิร์นด้วยรูปทรงหน้าปัดแบบสี่เหลี่ยม ประกอบกับวัสดุที่แข็งแรงทนทานสามารถใส่ทำกิจกรรมได้ ซึ่งตอบโจทย์เรามากๆ”
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline