Mido Multifort Patrimony ความหรูพร้อมฟังก์ชั่นวัดชีพจร

โดย

MP4/4

25/05/2019

มิโด้ เปิดตลาดครั้งใหม่กับนาฬิกาแนววินเทจจากคอลเล็กชั่น Multifort พร้อมสเกล Pulsometer สำหรับวัดชีพจร โดยจะจำหน่ายในชื่อ Mido Multifort Patrimony ด้วย 3 รุ่นย่อยในราคา 30,800-34,900 บาท

Mido Multifort Patrimony ความหรูพร้อมฟังก์ชั่นวัดชีพจร

ทางเลือกใหม่จากคอลเล็กชั่น Multifort ด้วยสเกล Pulsometer
ตัวเรือน 40 มิลลิเมตรมีให้เลือก 3 สีของหน้าปัดกับ 2 สีของตัวเรือน
กลไก Caliber 80 สามารถสำรองพลังงานได้ 80 ชั่วโมง

- Advertisement -

คุณอาจจะเคยได้ยินนาฬิกาที่มาพร้อมกับสเกลอย่าง Tachymeter ที่ใช้ในการจับเวลาหรือจับระยะเวลาในการผลิตสินค้า ซึ่งเอาเข้าจริงๆ แล้วในโลกของนาฬิกาจักร พวกเขายังมีการคิดค้นและประดิษฐ์สเกลสำหรับใช้ในด่านอื่นๆ อีก และที่เห็นบ่อยครั้งมากรองลงมาคือพวก Pulsometer ที่เกิดมาสำหรับบรรดาคุณหมอ เพราะสเกลถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการจัดอัตราการเต้นของชีพจร และในตอนนี้ทาง Mido ได้เปิดตัวทางเลือกนี้ออกมากับรุ่น Mido Multifort Patrimony ที่มีฟังก์ชั่น Pulsometer อยู่บนตัวเรือนที่แฝงด้วยกลิ่นอายของความเป็นวินเทจ

นาฬิการุ่นนี้มีจำหน่ายด้วยกัน 3 ทางเลือกบนตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตรที่ผลิตจาก Stainless Steel โดย 2 รุ่นมากับตัวเรือนสีเงิน โดยถ้าเป็นหน้าปัดสีน้ำเงินจะมี Ref. M040.407.16.040.00 และหน้าปัดสีเทาเข้มจะใช้ Ref. M040.407.16.060.00 ส่วนอีกรุ่นเป็นตัวเรือนเคลือบ PVD สี Rose Gold ใช้รหัส Ref. M040.407.36.060.00

โดยทุกรุ่นมากับสายหนังวัวสีคอนยัก ที่เดินด้ายในแบบวินเทจซึ่งมีการเย็บด้ายตรงด้านบนของตัวหัวสายเพื่อเพิ่มความสวยงามและความลงตัวพร้อมตัวรัดสายแบบหัวเข็มขัดที่มีการออกแบบให้สอดคล้องกับความคลาสสิคของนาฬิการุ่นนี้

หน้าปัดของนาฬิการุ่นนี้เป็นแบบทรง Dome โค้งที่ผ่านการตกแต่งในแบบซาติน ซันเรย์ที่มีความประณีตและให้ความสวยงามเมื่อสัมผัสกับแสง และบนหน้าปัดถูกออกแบบให้มีสเกลแบบ Pulsometer อยู่ตรงขอบนอก และมีกระจกแบบ Sapphire ติดตั้งอยู่บนตัวเรือน ขณะที่เข็มทั้งชั่วโมง นาที และวินาทีได้รับการออกแบบให้สามารถรับรู้ถึงกลิ่นอายในสไตล์วินเทจ และมีการเคลือบสารสะท้อนแสง Super-Luminova สีขาว ทั้งบนเข็มและหลักชั่วโมงบนหน้าปัด

สิ่งที่อยู่ภายในเรือนเวลาซึ่งสวยและอยู่เหนือกาลเวลารุ่นนี้คือ การที่ Multifort-Patrimonyได้รับการติดตั้งนวัตกรรมที่ถือว่าเป็นสุดยอดในโลกของนาฬิกา โดย Mido ได้ติดตั้งกลไกอัตโนมัติ Caliber 80 ซึ่งถือเป็นกลไกอัตโนมัติรุ่นล่าสุด ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นกลไกที่มีความเที่ยงตรง และมีการสำรองพลังงานถึง 80 ชั่วโมง โดยตัวกลไกใช้พื้นฐานของ ETA C07.621 เดินด้วยความถี่ 21,600 ครั้งต่อนาที และมีจำนวนทับทิม 25 เม็ด

นอกจากจะมีความล้ำสมัยแล้วกลไกชุดนี้ยังได้รับการขัดแต่งอย่างประณีตด้วยชุดโรเตอร์ที่มีการขัดลายตามสไตล์เจนีวา สไตรป์ และมีการสลักสัญลักษณ์ของ Mido เอาไว้ โดยคุณสามารถมองเห็นความงามเหล่านี้ได้ผ่านทางฝาหลังแบบใส และมีความสามารถในการกันน้ำอยู่ที่ 5 บาร์ (50 เมตร/165 ฟุต)

สำหรับคอลเล็กชั่น Multifort ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1934 หรือ 2 ปีหลังจากที่สะพานข้ามอ่าวซิดนีย์ ในประเทศออสเตรเลียเสร็จสิ้นการก่อสร้าง โดยนาฬิกาคอลเล็กชั่นนี้ได้นำเสนอคุณภาพที่โดดเด่น โดยเฉพาะในเรื่องของการผสมผสานฟังก์ชั่นใช้งานและความสวยงามเชิงศิลป์ได้อย่างสอดประสานกัน คุณภาพและความยอดเยี่ยมที่มีอยู่ใน Multifort ถูกพิสูจน์ด้วยกาลเวลาและจากการได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานทั่วโลก โดยในปีนี้ Mido ได้มีฉลองโอกาสครบรอบ 85 ปีของคอลเล็กชั่นนี้ และถือว่า Multifort เป็นหนึ่งคอลเล็กชั่นที่ถูกผลิตและทำตลาดอย่างต่อเนื่องและยาวนานที่สุดรุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาของสวิตเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้

จากรากฐานที่มีความมั่นคงและได้หยั่งรากลึกอยู่ในโลกแห่งเรือนเวลาและได้นำไปสู่อนาคตMultifort Patrimony คือนาฬิกาอีกรุ่นที่แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้เชี่ยวชาญอยู่ในโลกแห่งเวลาของ Mido ที่มีมากกว่า 100 ปี

สำหรับราคาของทั้ง 3 รุ่นที่ขายในบ้านเรา รุ่น Ref. M040.407.16.040.00 และ Ref. M040.407.16.060.00 ตัวเรือนสีเงินจะมีราคาเท่ากันที่ 30,800 บาท และรุ่น Ref. M040.407.36.060.00 ตัวเรือนเคลือบ PVD จะมีราคา 34,900 บาท