ผลิต 100 เรือนตามจำนวนปีที่ครบรอบ ทางด้าน Mido เอาใจแฟนๆ ชาวไทยด้วย Limited Edition รุ่นใหม่ที่พัฒนามาเพื่อรองรับกับความต้องการของนักสะสมที่สอดรับกับโอกาสพิเศษ โดยตัวนาฬิกาได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น Commander Big Date ที่เพิ่งเปิดตัวรุ่นธรรมดาออกสู่ตลาดก่อนหน้านี้
Mido Commander Big Date Thaiand LE 100 เรือนเพื่อคนไทย
ในวาระพิเศษของการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ ทาง Mido ส่งมอบความพิเศษให้กับแฟนๆ ชาวไทยด้วยคอลเล็กชั่นพิเศษที่ผลิตมาเพื่อโอกาสนี้โดยเฉพาะกับ Commander Big Date Thaiand Limited Edition ที่มีการผลิตออกสู่ตลาดเพียง 100 เรือนเพื่อคนไทยกับราคา 38,900 บาท
ย้อนกลับไปในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 จอร์จ แชเรนได้ก่อตั้ง Mido ขึ้นมาในวันเดียวกับที่สงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง และนับตั้งแต่ก่อกำเนิดขึ้นมา Mido มองไปข้างหน้าอย่างมั่นใจและยั่งยืนภายใต้การขับเคลื่อนแห่งวิสัยทัศน์ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของผู้ก่อตั้ง และในปี 2018 Mido ได้สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับการฉลองครบรอบ 100 ปี ด้วยการนำเสนอเรือนเวลาที่เปี่ยมไปด้วย DNA ที่สำคัญซึ่งมีอยู่ในแบรนด์มาโดยตลอด 1 ศตวรรษที่ผ่านมา นั่นคือ การออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ และนวัตกรรมทางด้านเทคนิค
เพื่อเป็นการเริ่มต้นของการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษแห่งการครบรอบ 100 ปี Mido ได้เปิดตัวเวอร์ชันพิเศษที่เป็น Limited Edition ของนาฬิกาคอลเล็กชั่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวออกมานั่นคือ Commander Big Date และมีความพิเศษสุดด้วยการเป็นเวอร์ชันสำหรับตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะ นอกเหนือจากความสวยและสะดุดตาของช่องวันที่ขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ตรงบริเวณตำแหน่ง 6 นาฬิกาบนหน้าปัดแล้ว เรือนเวลาที่มีความโดดเด่นรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับกลไกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษโดยอิงอยู่บนพื้นฐานของรุ่น Caliber 80 แต่มีช่องวันที่ขนาดใหญ่
ด้วยการออกแบบช่องวันที่ซึ่งง่ายต่อการมองเห็นที่เหนือจากคู่แข่งในตลาด นาฬิการุ่นนี้ยังได้รับการถ่ายทอดสไตล์และรูปแบบที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เด่นที่ทำให้คอลเล็กชั่น Commander เป็นที่รู้จักมาตลอด ซึ่งก็คือ หน้าปัดแบบ Rhodium ที่ผ่านการขัดลายในแบบซาตินและสามารถเล่นกับแสงเพื่อให้สัมผัสที่สวยสะดุดตา โดยถูกบรรจุอยู่บนตัวเรือนทรงกลมที่ผลิตจาก Stainless Steel ที่ผ่านการขัดลายในแบบซาตินพร้อมกับขอบตัวเรือนแบบขัดเงา สำหรับเรือนเวลา Limited Edition รุ่นนี้จะมีการผลิตออกสู่ตลาดเพียง 100 เรือน และถือเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตเพื่อประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตลาดที่แบรนด์ Mido ได้รับความนิยมอย่างมากนับตั้งแต่เข้ามาทำตลาด
ตัวเรือนทรงกลมที่มีรูปทรงที่บางเพรียวและได้รับการขัดลายในแบบซาตินด้วยความประณีตของนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Commander นั้นถือว่าเป็นเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นที่สามารถจดจำได้ทันที ไม่ต่างจากสิ่งที่คนทั่วไปนึกถึงหอไอเฟล และด้วยโครงสร้างที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร แม้ว่ากาลเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนไป แต่เอกลักษณ์และรูปแบบที่เฉพาะเหล่านี้ยังสามารถสะท้อนถึงความเยาว์วัยของการออกแบบได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งนี่คือบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงการได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลายและเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและยาวนานนับตั้งแต่ Commander ได้รับการเปิดตัวออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 1959
แม้ว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึง 5 ทศวรรษ แต่ทว่า DNA ที่สำคัญในการนำนาฬิกาคอลเล็กชั่นนี้ไปสู่ความสำเร็จก็ยังถูกเก็บรักษาและถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และทำให้ Commander ถือเป็นคอลเล็กชั่นที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้ธรรมเนียมปฏิบัติและความเชี่ยวชาญของบริษัทผู้ผลิตนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์อย่างแท้จริง ไม่ต่างจากที่คนทั่วไปสัมผัสและรู้สึกได้จากสถาปัตยกรรมที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงปารีส
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 100 ปีของแบรนด์และเพื่อความพิเศษสำหรับตลาดที่ให้การตอบรับกับ Mido มาโดยตลอดนับตั้งแต่เข้ามาทำตลาด ทางแบรนด์ได้เปิดตัว Limited Edition ที่สร้างสรรค์บนพื้นฐานของนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Commander Big Date เพื่อตลาดเมืองไทยโดยเฉพาะ ซึ่งเรือนเวลาอันสุดคลาสสิครุ่นนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อโอกาสพิเศษโดยเฉพาะ และมาพร้อมกับหน้าปัดที่ช่องวันที่ขนาดใหญ่ที่ผ่านการขัดทรายและติดตั้งตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา ซึ่งขนาดของช่องวันที่ใน Commander Big Date นั้นถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่มีช่วงราคาเดียวกัน การผลิตมีจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือน และความพิเศษนี้จะมากับกลไกที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษโดย Mido เพื่อโอกาสพิเศษและอยู่บนพื้นฐานของรุ่น Caliber 80 แต่มีช่องวันที่ขนาดใหญ่
Commander Big Date Thailand Limited Edition นำเสนอหน้าปัดที่มีความโดดเด่นของช่องวันที่ขนาดใหญ่และขณะเดียวกันก็ยังมาพร้อมกับตัวเรือนที่มีเส้นสายและส่วนโค้งเว้าที่รับการถ่ายทอดจากงานออกแบบอันสุดคลาสสิคของคอลเล็กชั่น Commander และเมื่อมองผ่านกระจกแบบ Sapphire ทรงโดม คุณจะพบกับหน้าปัดแบบ Rhodium ที่ผ่านการขัดลายในแบบซาตินและสามารถเล่นกับแสงเพื่อให้สัมผัสที่สวยสะดุดตา หลักชั่วโมงที่ติดตั้งอยู่บนหน้าปัดจะมาพร้อมกับเคลือบ PVD ด้วยสี Rose Gold และเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาว เช่นเดียวกับเข็มชั่วโมงและนาทีแบบทรงไดมอนด์คัทที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการมองเห็นยามค่ำคืน
หน้าปัดที่สวยสุดคลาสสิคนี้จะถูกติดตั้งอยู่ในตัวเรือนทรงกลมที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตรซึ่งผลิตจาก Stainless Steel และผ่านการขัดลายในแบบซาตินพร้อมกับขอบตัวเรือนแบบขัดเงา สำหรับ Limited Edition รุ่นนี้จะมาพร้อมกับสาย 2 เส้นที่ลูกค้าสามารถเลือกเปลี่ยนเพื่อสลับอารมณ์ที่ได้จากตัวนาฬิกา โดยมีทั้งสาย Stainless Steel ที่ผ่านการขัดลายแบบซาติน และสายหนังสีดำคุณภาพดีปั๊มลายจระเข้ที่ผ่านการตัดเย็บอย่างประณีต ซึ่งสายทั้ง 2 เส้นจะมาพร้อมกับบานพับที่ผลิตจาก Stainless Steel ที่มีขนาดบางเฉียบและให้ความสะดวกสบายสูงสุดกับผู้ที่สวมใส่
นอกเหนือจากความงดงามแล้ว Commander Big Date Thailand Limited Edition ยังให้สัมผัสที่ดดดเด่นของช่องวันที่ขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับกลไกอัตโนมัติที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งกลไก Caliber 80 ได้รับการปรับแต่งช่องวันที่แบบเดิมมาเป็นช่องวันที่ขนาดใหญ่โดยที่ยังคงคุณสมบัติอันโดดเด่นเอาไว้ นั่นคือการสำรองพลังงานสูงสุดถึง 80 ชั่วโมงคุณสามารถมองเห็นชิ้นส่วนของกลไกผ่านทางฝาหลังแบบใสและจะพบกับการขัดแต่งที่ประณีตด้วยโรเตอร์ขึ้นลานขัดลายเจนวีาสไตรปส์ และแกะสลักเป็นโลโก้ Mido ส่วนความสามารถในการกันน้ำของนาฬิการุ่นนี้จะอยู่ที่ 5 บาร์ (50 เมตร/165 ฟุต)
ความพิเศษเพื่อลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะของ Mido Commander Big Date Thailand Limited Edition จะมาพร้อมกับแพ็คเกจที่ออกแบบอย่างสุดพิเศษและข้างในบรรจุสาย 2 เส้นเพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของได้เลือกเปลี่ยนอารมณ์ในการสวมใส่
รายละเอียดทางด้านเทคนิค
กลไก : เครื่องแบบขึ้นลานอัตโนมัติ Caliber 80 (พัฒนาจากเครื่อง ETA C07.651) / ขนาด 11½’’’ เส้นผ่าศูนย์กลาง 29.40 มม. หนา 5.77 มม. มี 25 จิวเวล ทางานที่ความถี่ 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง / เมนสปริง ELINFLEX / บาลานซ์สปริง ELINCHRON II / เครื่องขัดแต่งสวยงาม / โรเตอร์ขึ้นลานขัดลายเจนีวาสไตรปส์และแกะสลักเป็นโลโก้ Mido / บอกชั่วโมง นาที วินาทีและจานวันที่ขนาดใหญ่แบบเปลี่ยนตัวเลขทันทีเมื่อข้ามวัน / ปรับตั้งเพื่อความเที่ยงตรงสูงใน 3 ตำแหน่ง / กำลังลานสำรองสูงถึง 80 ชั่วโมง
ตัวเรือน : ตัวเรือนสเตนเลสสตีล 316L ขัดซาติน ขอบตัวเรือนขัดเงา ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 42 มม. / ประกอบด้วย 3 ชิ้นส่วน / แซฟไฟร์คริสตอลทรงโค้งและลบเหลี่ยม / ฝาหลังใสแบบขันสกรูว์เพื่อเผยความงามของเครื่องนาฬิกาที่ขัดแต่งมาเป็นอย่างดี / สลักหมายเลข Limited Edition XXX/100 บนขอบฝาหลังแบบใส / กันน้ำถึงระดับ 5 บาร์ (50 เมตร / 165 ฟุต)
สาย : สายโลหะและบานพับผลิตจากสเตนเลสสตีลเกรด 316L ขัดซาติน / สายหนังสีดำคุณภาพดีปั๊มลายจระเข้ที่ผ่านการตัดเย็บอย่างประณีต พร้อมบานพับผลิตจากสเตนเลสสตีลเกรด 316L ขัดซาติน
หน้าปัด : หน้าปัดขัดซาตินเป็นลายซันเรย์ หลักชั่วโมงขัดเงาเคลือบสารเรืองแสง SuperLuminova สีขาว หน้าต่างวันที่ขนาดใหญ่ขัดเงาและพ่นทรายที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
เข็ม : เข็มชั่วโมงและนาทีไดมอนด์คัทแบบแบน เคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่าสีขาวเพื่อความสะดวกในการอ่านค่าเวลากลางคืน
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/