Mido Commander Big Date Deep Blue Dial เพิ่มทางเลือกกับสีสันใหม่

0

Mido เพิ่มสีสันและความน่าสนใจให้กับรุ่น Commander Big Date ด้วยหน้าปัดใหม่ที่เรียกว่า Deep Blue Dial พร้อมกับขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre80 ที่มีกำลังสำรอง 80 ชั่วโมง

- Advertisement -

Mido Commander Big Date Deep Blue Dial

Mido Commander Big Date Deep Blue Dial เพิ่มทางเลือกกับสีสันใหม่

  • การเพิ่มสีสันใหม่ให้กับหน้าปัดของรุ่น Commander Big Date

  • หน้าปัดสี Deep Blue มีการขัดลายแบบซันเรย์ช่วยทำให้เพิ่มความสวยงามในขณะที่แสงส่องกระทบ

  • ขับเคลื่อนด้วยกลไก Calibre80 ที่มีกำลังสำรอง 80 ชั่วโมง

หลังปล่อยให้คอลเล็กชั่น Ocean Star ชิงความโดดเด่นด้วยการเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ ออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้ Mido กลับมาขยับความน่าสนใจให้กับคอลเล็กชั่น Commander Big Date ด้วยนาฬิการุ่นใหม่กับหน้าปัดสีฟ้าแบบไล่เฉดและเล่นแสง พร้อมกับสายผ้าแบบสปอร์ต ซึ่งช่วยเพิ่มความทะมัดทะแมงให้กับนาฬิกาใหม่เรือนนี้ได้เป็นอย่างดี

Mido Commander Big Date Deep Blue Dial

Commander Big Date ผลิตขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ที่มีขึ้นในปี 2018 ตัวนาฬิกามาพร้อมกับช่องบอกวันที่ขนาดใหญ่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ตามปกติแล้วเราจะคุ้นเคยกับ คอลเล็กชั่น Commander Big Date ด้วยหน้าปัดที่มาพร้อมกับสีสันแบบเรียบๆ เช่น เทา เงิน ขาว หรือดำ แต่สำหรับปีที่แล้วหลังจากที่เปิดตัวหน้าปัดสีเขียวออกสู่ตลาด และได้รับการตอนรับที่ดี จึงทำให้ Mido เริ่มเติมสีสันให้กับคอลเล็กชั่นนี้มากขึ้น และสีฟ้าแบบ Deep Blue Dial คือ รุ่นใหม่ล่าสุด

Mido Commander Big Date Deep Blue Dial Mido Commander Big Date Deep Blue Dial

แน่นอนว่าตัวนาฬิกายังคงใช้พื้นฐานของรุ่น Commander Big Date  มากับตัวเรือนทรงกลมที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตรเป็นนาฬิกาที่ไม่มีขอบตัวเรือนหนาและแยกชิ้นเหมือนกับนาฬิกาสปอร์ต ดังนั้นหน้าปัดจึงขยายได้อย่างเต็มที่

Mido Commander Big Date Deep Blue Dial Mido Commander Big Date Deep Blue Dial

ตัวเรือนทรงกลมที่มีรูปทรงที่บางเพรียวและได้รับการขัดลายในแบบซาตินด้วยความประณีตของนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Commander นั้นถือว่าเป็นเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นที่สามารถจดจำได้ทันที ไม่ต่างจากสิ่งที่คนทั่วไปนึกถึงหอไอเฟล และด้วยโครงสร้างที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร แม้ว่ากาลเวลาจะหมุนเวียนเปลี่ยนไป แต่เอกลักษณ์และรูปแบบที่เฉพาะเหล่านี้ยังสามารถสะท้อนถึงความเยาว์วัยของการออกแบบได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งนี่คือบทพิสูจน์ที่แสดงให้เห็นถึงการได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลายและเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและยาวนานนับตั้งแต่ Commander ได้รับการเปิดตัวออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 1959

ตัวหน้าปัดสี Deep Blue มากับรูปแบบซันเรย์ที่มีการขัดบนพื้นผิวเพื่อสร้างลายเส้นให้สามารถสร้างโทนสีที่แตกต่างกันเมื่อกระทบเข้ากับแสง ขณะที่หลักชั่วโมงทรง Diamond Cut ที่คุ้นตาก็มีการแต้มพรายน้ำสีไข่ไก่ รวมถึงพรายน้ำบนเข็มชั่วโมงและนาที เพื่อให้สัมผัสที่วินเทจ

Mido Commander Big Date Deep Blue Dial

ขณะที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาจะเป็นช่องหน้าต่างวันที่ขนาดใหญ่ และมีการแยกตำแหน่งของตัวเลขออกจากกัน หรือ Big Date ซึ่งจะใช้จานหลักวันที่ 2 ชุดในการแสดงวันที่ 2 ตำแหน่ง ขณะที่ฝาหลังแบบใสสามารถมองห็นรายละเอียดของกลไก Calibre80 ที่มีกำลังสำรอง 80 ชั่วโมง ซึ่งมาพร้อมกับจักรกรอกที่มีการใช้วัสดุอย่าง Nivachron ในการผลิต Balance Spring ช่วยเรื่องความแม่นยำ โลหะผสมไทเทเนียมชนิดใหม่นี้ช่วยลดผลกระทบของสนามแม่เหล็ก ในขณะเดียวกันก็ทนทานต่อแรงกระแทกและสิ่งรอบตัวที่มีผลต่อความเที่ยงตรงของเวลาด้วย

               เปิดตัวและมีจำหน่ายแล้ว โดยในเมืองไทยมีราคาอยู่ที่ 33,200 บาท

รายละเอียดทางเทคนิค : Mido Commander Big Date Deep Blue Dial

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42 มิลลิเมตร
  • ความหนา: 12 มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
  • วัสดุตัวเรือน: สแตนเลสสตีล 316L
  • กระจก: Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
  • กลไก: อัตโนมัติรหัส Calibre 80
  • ความถี่: 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
  • กำลังสำรอง: 80 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ: 50 เมตร