ช่วงนี้ Mido กระหน่ำตลาดอย่างต่อเนื่องด้วยคอลเล็กชั่นใหม่ที่สอดคล้องกับช่วงเวลาของการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ โดยล่าสุดได้เปิดตัวคอลเล็กชั่น Trilogy ของ Baroncelli ออกมาเพื่อสื่อถึงคอนเซ็ปต์ อดีต ปัจจุบัน อนาคต Past, Present and Future
Mido Baroncelli A Triolgy ไตรภาคแห่งกาลเวลา
Mido ผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดตัว Limited Edition รุ่นใหม่ที่เป็นไตรภาคออกมา โดยอ้างอิงคอนเซ็ปต์ของการสร้างสรรค์ที่เรียกว่า ‘อดีต ปัจจุบัน และอนาคต’ (‘Past, Present and Future) ของคอลเล็กชั่น Baroncelli ออกสู่ตลาด เพื่อแสดงถึงการเป็นนาฬิกาที่ได้รับการออกแบบอยู่เหนือกาลเวลาและเพื่อเป็นเกียรติประวัติที่ระลึกถึงความสำเร็จและอดีตอันรุ่งเรืองของ Mido โดยในปี 2018 ถือเป็นปีที่สำคัญสำหรับ Mido เพราะเป็นช่วงเวลาของการฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้ง และ Mido เฉลิมฉลองความสำเร็จนี้ด้วยคุณค่าที่มีอยู่ในเรือนเวลาของพวกเขาและถูกฝังอยู่ใน DNA มาโดยตลอดศตวรรษที่ผ่านมา นั่นคือ การออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลา การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง และนวัตกรรมทางด้านเทคนิค
สำหรับคอลเล็กชั่น Baroncelli เป็นชื่อที่มีการผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และถูกสร้างสรรค์งานออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Rennes Opera House และการสร้างสรรค์ด้วยรูปลักษณ์ที่สวย และเทคนิคการผลิตในระดับสูง ซึ่งในรุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมาถือเป็นตัวแทนที่แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่นของคอลเล็กชั่นนี้ในช่วง 3 เวลาที่แตกต่างกันออกไปในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ เช่นเดียวกับการมองไปข้างหน้า โดยเวลาทั้ง 3 ช่วงนั้นคือ ปี 1918, 2018 และ 2118
สำหรับ Rennes Opera House ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบเฉพาะตัว โดยเฉพาะส่วนโครงสร้างที่มีความโค้งเว้าอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยความกลมกลืนของเส้นสายและแนวโค้งต่างๆ ที่อยู่บนสถาปัตยกรรมแห่งนี้ บวกกับการสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้รูปแบบของสถาปัตยกรรมในแบบ Neoclassical ต่างเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น คงต้องบอกว่ารูปแบบที่สวยสะดุดตาซึ่งอยู่บนตัวเรือนของนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Baroncelli นั้นเป็นผลมาจากการสร้างสรรค์ที่อยู่บนพื้นฐานของแนวคิดในการแสดงให้เห็นถึงความชื่นชมที่มีต่อความหรูหราของงานออกแบบที่อยู่เหนือกาลเวลาของอาคารแห่งนี้
ตัวเรือนของนาฬิกาในคอลเล็กชั่น Baroncelli ได้รับการผลิตจากสแตนเลสสตีล 316L และทั้ง 3 เรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 38 มิลลิเมตร และประกอบไปด้วยชิ้นส่วน 3 ชิ้นและข้างในมีการวางกลไกอัตโนมัติชั้นเยี่ยมที่ได้รับการตกแต่งในเกรด Elabore โดยเรือนเวลาทั้งหมดมีสัญลักษณ์ครบรอบ 100 ปีวางอยู่บนหน้าปัด และมีการผลิตจำกัดโดยมีตัวเลขตามจำนวนที่ต่อท้ายชื่อรุ่น
Baroncelli 1918 : สอดคล้องกับปีของการก่อกำเนิดแบรนด์ Mido และเรือนเวลารุ่นนี้มีรูปทรงที่ดั้งเดิมที่สุดคลาสสิคและมีการผลิตออกมาเพียง 1,918 เรือน โดยตัวเรือนผลิตจากสตีล มีการขัดแต่งพร้อมเคลือบ PVD สี Rose Gold ซึ่งช่วยทำให้หน้าปัดสีงาช้างที่ผ่านการขัดละเอียดและเคลือบแลคเกอร์มีความโดดเด่นขึ้นมา ขณะเดียวกันเข็มนาทีและเข็มชั่วโมงแบบปั๊มขึ้นรูปโดยมีรูปทรงเรียวและนูนกลางคล้ายกับใบไม้ทรงโค้งกลม สำหรับสายเป็นหนังปั๊มขึ้นลายจระเข้สีน้ำตาลเงา เข้ากับตัวเรือนได้เป็นอย่างดี และช่วยทำให้ตัวเรือนเวลารุ่นนี้สามารถสะท้อนและระลึกถึงความยอดเยี่ยมของ Mido ที่เคยสร้างความสำเร็จให้กับโลกนาฬิกา สิ่งที่ถือเป็นความซับซ้อนในระดับหนึ่งสำหรับ Baroncelli 1918 คือ เรื่องของกลไกที่มาพร้อมกับเข็มวินาทีแยกที่เรียกว่า Small Second ซึ่งแนวคิดการออกแบบเข็มวินาทีในลักษณะนี้ถูกนำมาใช้ในนาฬิกาของ Mido ตั้งแต่ช่วงปี 1934 แล้ว ซึ่งการอยู่เหนือกาลเวลสาและความหรูหราที่สะท้อนถึงความรุ่มรวยในอดีตซึ่งสามาราถสัมผัสได้จากเรือนเวลารุ่นนี้ถือเป็นสิ่งที่ลงตัวและเหมาะสมกับช่วงโอกาสพิเศษของการฉลองครบรอบ 1 ศตวรรษของ Mido ได้เป็นอย่างดี
Baroncelli 2018 : ในช่วงเวลาพิเศษของการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ เรือนเวลารุ่นใหมที่ชื่อว่า Baroncelli 2018 จึงถือเป็นความสมดุลและความลงตัวของการออกแบบที่สอดคล้องกับช่วงเวลาที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ด้วยภาพรวมของนาฬิกาที่ดูเรียบง่ายแต่มีรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัย และตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีลที่ผ่านการขัดแต่งอย่างลงตัว และหน้าปัดเคลือบแล็คเกอร์ เรือนเวลารุ่นนี้สามารถสะท้อนถึงตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์และคุณค่าที่มีอยู่ภายในผ่านทางการออกแบบในส่วนของรูปทรงตัวเรือนและเข็มต่างๆ ที่อยู่บนพื้นฐานของความคลาสสิคที่มีอยู่ในคอลเล็กชั่นนี้ สำหรับสายที่ผลิตจากสแตนเลสตีลและผ่านการขัดแต่งอย่างสวยงามนั้นมาพร้อมกับบานพับที่แน่นหนาและทนทานเหมือนกับบานพับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เรือนเวลาที่ได้รับการผลิตอย่างประณีตรุ่นนี้จึงถือว่ามีความเหมาะสมและสอดคล้องกับโลกยุคปัจจุบันอย่างมาก
Baroncelli 2118 : Mido กำลังมองไปข้างหน้า…สู่โลกแห่งอนาคตอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยมเหมือนอย่างที่แสดงออกผ่านทางนาฬิกาในคอลเล็กชั่นนี้อย่างรุ่น 2118 ทุกรายละเอียดถูกสร้างสรรค์ด้วยแนวทางและเอกลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความทันสมัยผ่านทางตัวเรือนที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล มีขนาดที่เพรียวและลงตัว พร้อมการขัดแต่งอย่างประณีตและเคลือบตัวเรือนสีดำด้วย PVD ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยงามและสะดุดตาได้เป็นอย่างดี อีกความโดดเด่นของนาฬิกาเรือนนี้คือหน้าปัดขัดซาตินเป็นลายซันเรย์ ซึ่งจะเล่นกับแสงแดดที่สามารถสะท้อนความเงางามได้อย่างลงตัว ยิ่งไปกว่านั้น นาฬิการุ่นนี้ยังสะท้อนถึงพลังและความทันสมัยออกมาพร้อมกับเข็มวินาทีแบบแยกหรือ Small Second ที่โดดเด่นกับสีแดง Bordeaux ส่วนสายผ้าได้รับการผลิตจากเส้นใย Corduba และได้รับการออกแบบให้มีความทนทานในการใช้งานจึงมั่นใจได้ว่านาฬิการุ่นนี้จะสามารถยืนหยัดท้าทายกาลเวลาตลอดศตวรรษที่รออยู่ข้างหน้า นอกจากนั้น อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ สัญลักษณ์ 100th Anniversary ซึ่งเป็นป้ายเหล็กเคลือบสีดำติดตั้งอยู่บนสาย
การเปิดตัวของนาฬิกาทั้ง 3 รุ่นจากคอลเล็กชั่นนี้จะมีขึ้นในเดือนเมษายน 2018 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ ที่จะมีการจัดงานขึ้นตลอดทั้งปีนี้ สำหรับแพ็คเกจของคอลเล็กชั่นนี้จะมากับกล่องที่ได้รับการออกแบบอย่างเป็พิเศษพร้อมใบรับรองหมายเลขในการผลิต ซึ่งทั้ง 3 รุ่นจะมีการผลิตตามจำนวนปีที่อยู่ในชื่อรุ่น คือ 1,918 เรือน 2,018 เรือน และ 2,118 เรือนตามลำดับ
รายละเอียดทางด้านเทคนิค
กลไก : กลไกอัตโนมัติ ETA 2825-2 / ขนาด 11½’’’ เส้นผ่าศูนย์กลาง 25.60 มม. หนา 6.60 มม. มี 25 จิวเวล ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง / เมนสปริง NIVACHOC และ NIVACOUBRE, NIVAFLEX NO / บาลานซ์สปริง NIVAROX II / เครื่องขัดแต่งสวยงามตามเกรดรุ่นย่อย Elabore / โรเตอร์ขึ้นลานขัดลายเจนีวาสไตรปส์และแกะสลักเป็นโลโก้ Mido ฟังก์ชั่นทำงาน : บอกชั่วโมง นาที วินาที วันที่ และวันประจำสัปดาห์ โดยมีการแยกเข็มวินาทีออกมาและเป็นวงย่อยอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา / ปรับตั้งเพื่อความเที่ยงตรงสูงใน 3 ตำแหน่ง / กำลังลานสำรอง 38 ชั่วโมง
ตัวเรือน : ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 37 มม. / ประกอบด้วย 2 ชิ้นส่วน / กระจก Sapphire Crystal พร้อมเคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ฝั่ง สามารถมองเห็นการตกแต่งของกลไกในระดับ Elabore ผ่านทางฝาหลังแบบใส / กันน้ำถึงระดับ 5 บาร์ (50 เมตร / 165 ฟุต)
M8608.3.26.8 : ตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีล 316L ขัดแต่งอย่างสวยงามและเคลือบ PVD สี Rose Gold / แสดงหมายเลขเรือนที่ผลิตในแบบ xxxx/1918 พร้อมหมายเลข Serial
M8608.4.26.1 : ตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีล 316L ขัดแต่งอย่างสวยงาม / แสดงหมายเลขเรือนที่ผลิตในแบบ xxxx/2018 พร้อมหมายเลข Serial
M8608.3.18.9: ตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีล 316L ขัดแต่งอย่างสวยงามและเคลือบ PVD สีดำ / แสดงหมายเลขเรือนที่ผลิตในแบบ xxxx/2118 พร้อมหมายเลข Serial
สาย : สายโลหะถักแบบ Milanese ผลิตจากสเตนเลสสตีลเกรด 316L ขัดซาติน / รวมเป็นชิ้นเดียวกับตัวเรือน / ตัวปรับสายสามารถเลื่อนได้เพื่อรัดกระชับกับข้อมือทุกขนาด
M8608.3.26.8 : หนังแท้สีน้ำตาลเงาปั๊มลายจระเข้ พร้อมบานพับที่ผลิตจากสแตนเลส สตีล 316L และเคลือบ PVD สี Rose Gold
M8608.4.26.1 : สายสแตนเลสสตีลพร้อมกับบานพับผลิตจากสแตนเลสสตีล 316L พร้อมขัดแต่งอย่างสวยงาม
M8608.3.18.9 : สายผ้าผลิตจากใบ Cordura พร้อมบานพับที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล 316L พร้อมเคลือบ PVD สีดำ และป้ายเหล็กเคลือบ PVD สีดำและโลโก้ 100th Anniversary
หน้าปัด : M8608.3.26.8 : สีงาช้าง ขัดแต่งแลแคลือบแลคเกอร์ พร้อมหลักชั่วโมงที่ผ่านการขัดแต่งและเคลือบ PVD สี Rose Gold
M8608.4.26.1 : สีขาว ขัดแต่งแลแคลือบแลคเกอร์ พร้อมหลักชั่วโมงที่ผ่านการขัดแต่ง
M8608.3.18.9 : หน้าปัดแบบแอนธราไซต์ ขัดซาตินเป็นลายซันเรย์โดยเริ่มตั้งแต่วงย่อยของเข็มวินาทีแยก พร้อมหลักชั่วโมงที่ผ่านการขัดแต่ง
เข็ม : เข็มนาทีและเข็มชั่วโมงแบบปั๊มขึ้นรูปโดยมีรูปทรงเรียวและนูนกลางคล้ายกับใบไม้ทรงโค้งกลม
M8608.3.26.8 : เข็มวินาทีย่อยสีแบบ Blue Steel และผ่านการขัดแต่ง
M8608.4.26.1 : : เข็มวินาทีย่อยสีแบบ Blue Steel และผ่านการขัดแต่ง
M8608.3.18.9 : เข็มวินาทีย่อยเคลือบด้วยสีแดง Bordeaux
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/