Mido จัดงานฉลองครบรอบ 100 ปี คราวนี้ใช้พื้นที่ของ ArtScience ประเทศสิงคโปร์ในการจัดงาน พร้อมกับการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่อย่าง Rainflower พร้อมแคมเปญ #CreateYourMido
Mido ฉลอง 100 ปีที่สิงคโปร์ พร้อมแคมเปญ #CreateYourMido
(23 พฤศจิกายน 2018, สิงคโปร์) หลังจากมีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ที่เซี่ยงไฮ้ ไทเป และเม็กซิโก ซิตี้ รวมถึงเมืองอื่นๆ ของโลก
ในตอนนี้ Mido ฉลองการครบรอบ 100 ปีด้วยการจัดงานที่สิงคโปร์ภายใต้ธีมงาน ‘Past, Present, Future’
โดยแนวทางของงานจะมุ่งไปที่โลกแห่งกวีกับผู้หญิง และจะมีการจัดงานในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2018 ที่ ArtScience Museum ใน Marina Bay Sands ด้วยการออกแบบที่เหมือนกับการเดินทาง
ตัวงานจะทำให้แขกผู้ร่วมงานทั้งหลายได้ร่วมเดินทางเป็นครั้งแรกสู่โลกของ Mido ซึ่งบนพื้นที่ของอดีต (Past) มีการนำเสนอประวัติความเป็นมาของนาฬิกาผู้หญิงของพวกเขาที่ได้มีการคัดเลือกรุ่นเด่นๆ ออกมาจัดแสดง โดยบนพื้นที่ของปัจจุบัน (Present) พวกเขาจะร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ของนาฬิกา Baroncelli Lady Day โดยเน้นไปที่ Baroncelli Lady Date&Night ซึ่งรุ่นนี้มีความเด่นอยู่ที่ความสะดวกในการเปลี่ยนสายเพื่อเปลี่ยนบุคลิกของการสวมใส่ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย สำหรับไฮไลท์เด่นของงานในตอนเย็นคตือ การนำเสนอเรื่องราวในอนาคตของ Mido พร้อมการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจในการเปิดเผยคอลเล็กชั่นสำหรับสุภาพสตรีในชื่อ Rainflower และการเปิดตัวแคมเปญใหม่ #CreateYourMido ที่เปิดให้แฟนๆ ของ Mido เข้ามามีส่วนร่วม โดยจะมี Romee Strijd นางแบบชื่อดังเป็นแขกรับเชิญในการเปิดงานนี้ และจะเป็นบุคคลแรกที่เข้ามาสร้างสรรค์คอลเล็กชั่น Rainflower ด้วยตัวของเธอเองผ่านทางเว็บไซต์ www.rainflower.midowatches.com สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Mido จะมีเวลา 2 เดือนในการติดตามผลงานตัวอย่างของ Romee Strijd และสามารถสร้างสรรค์นาฬิกาในคอลเล็กชั่น Rainflower ของพวกเขาเองได้ด้วย โดยจะมีการคัดเลือกผลงาน 4 ชิ้นจากผลงานทั้งหมดที่ส่งเข้ามาจากแฟนๆ ของ Mido เพื่อนำออกเปิดเผยให้ทราบในวันที่ 21 มีนาคม 2019 สำหรับคอลเล็กชั่นนี้ถือว่าได้รับการสร้างสรรค์ตามธรรมเนียมปฏิบัติของ Mido ในการนำแรงบันดาลจากสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของโลกมาใช้ในการออกแบบรายละเอียดบนตัวนาฬิกา และชื่อรุ่นถูกอ้างอิงมาจากพิพิธภัณฑ์ ArtScience โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัดส่วนที่มีความโดดเด่นของอาคารที่มีลักษณะคล้ายกับดอกบัวกำลังบาน ส่วนการเปิดตัวนาฬิกา 4 รุ่นแรกจากคอลเล็กชั่น Rainflower จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2019
ค่ำคืนที่น่าจดจำกับความอลังการ์ของการจัดงาน
ค่ำคืนที่น่าจดจำกับความอลังการ์ของการจัดงาน
Mido ไม่เคยคิดอะไรที่เล็กๆ และเมื่อเป็นช่วงเวลาของความพิเศษที่อะไรก็ตามซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้หญิงได้เข้ามามีส่วนกับงานฉลองครบรอบ 100 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นต้องยิ่งใหญ่และมีความพิเศษ โดยอย่างแรกคือ ตัวเลือกของสถานที่จัดงานที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2018 และแน่นอนว่าอาคารบัวบานของพิพิธภัณฑ์ ArtScience ถือว่ามีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมในแง่ของความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยรูปทรงที่บานออกของดอกบัวนั้นนอกจากความสวยงามแล้ว ยังทำหน้าที่รองรับน้ำฝนจากฟ้าและนำน้ำเหล่านี้มารีไซเคิลเพื่อการใช้งานในแต่ละวันของกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายในอาคารแห่งนี้
และด้วยการจัดงานที่มีขึ้นภายในอาคารที่มีความโดดเด่นในแง่โครงสร้างอาคารแห่งนี้ ทางด้าน Franz Linder ซีอีโอของ Mido จะต้อนรับแขกผู้มีเกียรติของเขาในงานเลี้ยงฉลองช่วงเย็นซึ่งจะเป็นการชื่นชมและเชิดชูผู้หญิง พร้อมกับเปิดตัวนาฬิการุ่นต่างๆ ที่เคยสร้างชื่อในประวัติศาสตร์ของแบรนด์นับตั้งแต่ Mido ถือกำเนิดในตลาดเมื่อปี 1918 และมีการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ออกสู่ตลาดนั่นคือ Baroncelli Lady Day สำหรับงานในตอนเย็นจะมีการเปิดตัวแคมเปญที่แฟนๆ ของ Mido ทั่วโลกสามารถเข้ามามีส่วนร่วมผ่านทางเว็บไซต์ www.rainflower.midowatches.com โดยจะมี Romee Strijd นางแบบชื่อดังเป็นบุคคลแรกที่จะเปิดแคมเปญนี้ พร้อมเผยโฉมคอลเล็กชั่นใหม่ที่ชื่อ Rainflower ซึ่งจะเริ่มทำตลาดในปี 2019 และถือเป็นการส่วนหนึ่งในอนาคตของแบรนด์
Mido เพื่อผู้หญิงมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต
Mido เพื่อผู้หญิงมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ด้วยการออกแบบเพื่อให้ผู้ร่วมงานสามารถเดินสัมผัสความงามของพิพิธภัณฑ์ ArtScience ภายในงานครั้งนี้จะมีการเชิญแขกผู้มีเกียรติมากมายเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสัมผัสความยิ่งใหญ่ของ Mido ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และในอนาคต
ตรงพื้นที่รองรับแขกที่เดินทางมาถึง ทุกคนจะได้สามารถสัมผัสกับนาฬิกาผู้หญิงของ Mido ที่โด้งดังในอดีต และเป็นส่วนหนึ่งในการเขียนหน้าประวัติศาสตร์ให้กับ Mido ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา หลังจากเดินผ่านอุโมงค์เรืองแสงสีส้มแล้ว พวกเขาจะได้พบกับคอลเล็กขั่นใหม่ล่าสุดอย่าง Baroncelli Lady Day เพื่อแสดงให้ทราบเป็นนัยยะสำคัญว่าพวกเขากำลังเดินทางมาสู่พื้นที่ในปัจจุบันของ Mido โดยนาฬิกาเรือนนี้ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นโดย Mido เพื่อโอกาสของการฉลองครบรอบ 100 ปี และจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานคืนนี้ โดยถือเป็นหนึ่งในเรือนเวลาของคอลเล็กชั่น Baroncelli ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกับการใช้ชีวิตในหลากหลายสไตล์ของผู้หญิง ตั้งแต่ทำงาน ชอปปิ้ง หรือการออกงานเลี้ยงในตอนกลางคืน ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้สามารถรองรับกับการใช้งานที่แตกต่างสไตล์กันด้วยการเปลี่ยนสายนาฬิกาของ Baroncelli Lady Day&Night
บนพื้นที่ของอนาคต ไฮไลท์เด่นของงาน คือ การนำเสนอความอลังการ์และความน่าอัศจรรย์ใจบนลานตรงกลางของอาคารภายใต้คอนเซ็ปต์แห่งน้ำ และกับบทกวีและการแสดงที่สามารถสะกดความสนใจของผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ บรรดานักเต้นจะปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับการร่ายรำท่ามกลางสายน้ำที่ไหลลงมาจากด้านบนพร้อมกับการเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่อย่าง Rainflower
Rainflower : คอลเล็กใหม่ที่แสดงถึงอนาคตอันสดใสของ Mido
หลังการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว ทาง Franz Linder จะขึ้นมากล่าวถึงสิ่งที่ Mido วางเอาไว้ในอนาคต เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมองการณ์ไกลและวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมของ Georges Schaeren ผู้ก่อตั้งแบรนด์เมื่อปี 1918 ‘เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะไม่มองเรื่องอนาคตในช่วงปีที่สำคัญซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่สุดพิเศษ อนาคตของเรา ซึ่งเริ่มต้นจากการเปิดตัวนาฬิกาจักรกลสำหรับผู้หญิงที่เป็นคอลเล็กชั่นใหม่ที่ผมรู้สึกยินดีที่จะแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบในงานที่เราจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ในครั้งนี้ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของ Mido อย่างแท้จริงในการยึดถือเส้นสายและโครงสร้างของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมาเป็นแรงบันดาลใจ และนาฬิกาเรือนนี้มีชื่อว่า Rainflower ที่สะท้อนถึงความยอดเยี่ยมของพื้นที่แห่งนี้ พิพิธภัณฑ์ ArtScience โดยเฉพาะรูปทรงของอาคารที่มาในลักษณะดอกบัวบาน สำหรับรุ่นแรกของคอลเล็กชั่นหลักนี้จะเปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม 2019
สร้างสรรค์ Mido Rainflower ในสไตล์คุณ : กับแคมเปญที่คนทั่วโลกสามารถมีส่วนร่วมได้ #CreateYourMido
สำหรับ Mido Rainflower เรือนแรกที่นำมาจัดแสดงนั้นจะเป็น ‘นาฬิกาต้นแบบ’ ที่ทาง Mido นำมาให้แขกผู้มีเกียรติซึ่งเข้าร่วมงานนี้ได้สัมผัส โดยจะมี Romee Strijd นางแบบชื่อดังที่เป็น Angle ของ Victoria’s Secret มาตั้งแต่ปี 2014 จะเป็นแขกคนแรกที่เข้าร่วมแคมเปญ #CreateYourMido โดยในวันนั้น เธอจะเชิญแฟนๆ ของ Mido ทั่วโลก ให้เข้ามาร่วมแคมเปญนี้ผ่านทางเว็บไซต์ www.rainflower.midowatches.com เพื่อเลือกตัวเรือน ในการจับคู่กับสาย หน้าปัด และสีของอัญมณีอันมีค่า ที่มีหลากหลายแบบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์ Rainflower ที่สะท้อนตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง และจากเว็บไซต์แห่งนี้ ผู้ที่เข้าร่วมสร้างสรรค์นาฬิกา Rainflower ของตัวเองสามารถแชร์สิ่งที่ตัวเองได้ออกแบบขึ้นมาให้คนทั่วโลกได้รับทราบผ่านทางโซเชี่ยล มีเดีย เพื่อโอกาสในการเป็นผู้ชนะ เพื่อเลือกคว้ารางวัลการเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์สำหรับ 2 ท่าน หรือการเลือกนาฬิกา Rainflower 1 ใน 10 แบบที่มีการเปิดตัวขายในตลาด โดยนาฬิกาที่ถูกออกแบบและผ่านการคัดเลือกทั้ง 4 เรือนนี้จะถูกนำมาเปิดเผยในวันที่ 21 มีนาคม 2019 ส่วนรุ่นขายจริงของ Rainflower ซึ่งจะเป็นคอลเล็กชั่นหลักของ Mido จะเริ่มทำตลาดในเดือนพฤษภาคม 2019
Romee Strijd นางแบบสาวสุดสวยซึ่งเป็นผู้ร่วมแคมเปญนี้เป็นคนแรกนั้นจะจ่ายเงินให้กับ Mido เพื่อสร้างสรรค์นาฬิกาเรือนพิเศษจากคอลเล็กชั่น Rainflower ตามแบบฉบับของเธอเอง และจะสวมนาฬิกาเรือนนี้เป็นครั้งแรกในระหว่างร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วย สำหรับรุ่นพิเศษของ Rainflower ถือเป็นนาฬิกาที่มาพร้อมกับความสวยและลงตัวของการออกแบบและเป็นคอลเล็กชั่นที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างประณีต โดยบนหน้าปัดจะมีการตกแต่งด้วยอัญมณีที่ล้ำค่าอย่างโกเมนสีเขียวที่ถูกประดับอยู่ในหลักชั่วโมง 3, 9 และ 12 บนหน้าปัดที่ตกแต่งให้มีลวดลายแบบ Grained-Finish พื้นขาว ส่วนตัวเรือนเป็นแบบสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ และจะมีการผลิตออกมาเพียง 500 เรือนเท่านั้น และจะเริ่มจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม 2019 พร้อมกับๆ รุ่นย่อยอื่นๆ ในคอลเล็กชั่นนี้ และจากการที่เธอมีส่วนในการสร้างสรรค์การออกแบบนาฬิกาสำหรับสวมบนข้อมือด้วยตัวเอง Romee Strijd ยังจะแสดงให้ทราบถึงวิธีในการสร้างสรรค์นาฬิกาด้วยตัวของคุณเอง ขณะที่เธอกำลังเปิดตัวแคมเปญที่คนทั่วโลกสามารถมีส่วนร่วมได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.rainflower.midowatches.com
วนในการสร้างสรรค์การออกแบบนาฬิกาสำหรับสวมบนข้อมือด้วยตัวเอง Romee Strijd ยังจะแสดงให้ทราบถึงวิธีในการสร้างสรรค์นาฬิกาด้วยตัวของคุณเอง ขณะที่เธอกำลังเปิดตัวแคมเปญที่คนทั่วโลกสามารถมีส่วนร่วมได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.rainflower.midowatches.com
RainFlower แรงบันดาลใจจากพิพิธภัณฑ์ ArtScience
ด้วยรูปทรงของอาคารที่เหมือนดอกบัวบานสีขาวเพื่อทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าของสิงคโปร์นั้น พิพิธภัณฑ์ ArtScience ดูเหมือนกับลอยอยู่บนผืนน้ำ รูปทรงที่เป็นดอกบัวได้รับการปรับแปต่งให้ดูมีความทันสมัย และเป็นการออกแบบที่บริสุทธิ์จนทำให้เกิดแรงบันดาลใจและนำไปสู่การออกแบบคอลเล็กชั่น Rainflower ของ Mido สำหรับตัวอาคารมีการออกแบบให้ด้านบนสามารถรองรับน้ำฝนที่ตกจากฟ้าจากนั้นก็จะต่อท่อลงไปสู่พื้นที่กักเก็บและมีการนำมาใช้อีกครั้ง ดังนั้นในเรื่องของความยั่งยืนจึงถือเป็นหัวใจหลักของอาคารแห่งนี้ และเป็นการออกแบบเพื่อที่ท้าทายกาลเวลา และเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงเรือนเวลาของ Mido ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสถาปัตยกรรมแห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่ทาง Mido เองได้รับแรงบันดาลใจในการนำมาตั้งเป็นชื่อคอลเล็กชั่นหลักที่เป็นนาฬิกาสำหรับผู้หญิงของตนเอง เส้นสายที่สมบูรณ์ ความโค้งมนอ่อนช้อย และการเป็นดอกไม้ชนิดหนึ่งที่สวยและโดดเด่นมากที่สุดในโลกแห่งพืชพรรณ นี่คือสิ่งที่คอลเล็กชั่น Rainflower ได้นำมาใช้ในการออกแบบเช่นเดียวกับที่อาคารแห่งนี้เป็นอยู่
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/