MB&F Legacy Machine Sequential EVO โครโนกราฟเรือนแรกของแบรนด์ที่ไม่ธรรมดา

0

ความไม่ธรรมดาของ MB&F ถ้าไม่มาจากรูปทรงที่สวยล้ำก็จะต้องมีความพิเศษอยู่ที่กลไก ซึ่งในครั้งนี้ พวกเขาเปิดตัวรุ่น Legacy Machine Sequential EVO กับกลไกรุ่นใหม่ซึ่งเป็นรุ่นที่ 20 ของแบรนด์ที่มาพร้อมความสามารถในการจับเวลาแบบแยกส่วนและแยกหน้าปัดได้

- Advertisement -

MB&F Legacy Machine Sequential EVO

MB&F Legacy Machine Sequential EVO โครโนกราฟเรือนแรกของแบรนด์ที่ไม่ธรรมดา

  • นาฬิกาจับเวลาโครโนกราฟเรือนแรกของบริษัทในรอบ 17 ปี

  • มาพร้อมกลไกรุ่นที่ 20 ที่มีความพิเศษสามารถจับเวลาแยก 2 ส่วนด้วยหน้าปัดที่แยกกัน

  • ตัวเรือนผลิตจากเซอร์โคเนียม และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มิลลิเมตร

หลังจากที่สร้างสรรค์นาฬิกาที่ไม่ซ้ำใครและเหนือจินตนาการออกมาจำหน่ายมากมายหลายรุ่น ในที่สุด MB&F ก็กลับมาสู่โลกของนาฬิกาจักรกลด้วยการเปิดตัวนาฬิกาจับเวลาเรือนแรกในรอบ 17 ปีนับจากการก่อตั้งบริษัทขึ้นมา และ MB&F Legacy Machine Sequential EVO มาพร้อมกับกลไกรุ่นใหม่ล่าสุดที่นับเป็นกลไกลำดับที่ 20 ของแบรนด์ ที่สำคัญ เป็นกลไกจับเวลาที่ไม่ธรรมดา เพราะมีหลากหลายโหมดของการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ Legacy Machine Sequential EVO คือ การเป็นนาฬิกาโครโนกราฟ หรือจับเวลาเรือนแรกที่ Maximilian Büsser (แม็กซิมิเลียน บูซเซอร์) และทีมงานของเขาสร้างสรรค์ขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่าในเมื่อมาทั้งที ทุกอย่างที่เกิดขึ้นย่อมไม่ธรรมดา โดยเฉพาะกลไกจับเวลาของพวกเขา

กลไกรุ่นนี้เป็นจักรกลโครโนกราฟคู่แบบผสานอย่างสมบูรณ์และพัฒนาขึ้นสำหรับ MB&F โดย Stephen McDonnel (สตีเฟน แมคดอนเนลล์) มาพร้อมสวิตช์ Twinverter (ทวินเวอร์เตอร์) ที่ช่วยให้สามารถสับโหมดการจับเวลาได้หลากหลาย สามารถไขลานด้วยมือ พร้อมด้วยเมนสปริงคู่ และการสำรองพลังงานถึง 72 ชั่วโมง

MB&F Legacy Machine Sequential EVO

สำหรับแผ่นหน้าปัดของนาฬิกามาพร้อมการแสดงโครโนกราฟ 2 ชุด ชุดหนึ่งประกอบด้วยการแสดงการจับเวลาวินาทีชุดที่ 1 ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และแสดงการจับเวลานาที ณ ตำแหน่ง 11 นาฬิกา ส่วนอีกชุดนั้นแสดงการจับเวลาวินาทีชุดที่ 2 ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และแสดงการจับเวลานาที ณ ตำแหน่ง 1 นาฬิกา แต่ละชุดการแสดงโครโนกราฟเหล่านี้สามารถเริ่มต้น หยุด และรีเซ็ตใหม่ได้อย่างอิสระสมบูรณ์สำหรับแต่ละการแสดง โดยการใช้ปุ่มกดเริ่มต้น/หยุด และรีเซ็ต บนด้านข้างของตัวเรือนที่สอดคล้องกับตำแหน่งโครโนกราฟแต่ละชุดตามลำดับ ซึ่งนั่นทำให้มีปุ่มกดโครโนกราฟสี่ปุ่ม ที่คุณจะใช้งานเชื่อมโยงกับจักรกลโครโนกราฟสองชุดในนาฬิกาเรือนเดียวนี้เสมอ

MB&F Legacy Machine Sequential EVO MB&F Legacy Machine Sequential EVO MB&F Legacy Machine Sequential EVO

นอกจากนั้น ยังมีปุ่มกดที่ห้าซึ่งติดตั้ง ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา นั่นคือ “Twinverter” โดยปุ่มกดนี้นับเป็นเคล็ดลับที่ช่วยยกระดับด้านฟังก์ชันการใช้งานให้อยู่เหนือกว่านาฬิกาข้อมือโครโนกราฟทั่วไป กับการทำหน้าที่ควบคุมระบบโครโนกราฟทั้งคู่ โดยผ่านการทำงานเสมือนสวิตช์ 2 สถานะ (binary switch) ที่สับเปลี่ยนระหว่างสถานะเริ่มต้น/หยุด ณ ปัจจุบันของแต่ละโครโนกราฟ และนั่นหมายความว่า

  • หากการแสดงโครโนกราฟทั้ง 2 ชุดนี้ถูกหยุด (ณ ตำแหน่งศูนย์หรือไม่ก็ตาม) การกดทวินเวอร์เตอร์จะทำให้โครโนกราฟทั้งคู่เริ่มต้นการทำงานโดยทันที
  • หากโครโนกราฟทั้งคู่กำลังทำงานอยู่ ทวินเวอร์เตอร์จะทำให้หยุดทั้งคู่
  • หากโครโนกราฟชุดหนึ่งกำลังทำงานและอีกชุดถูกหยุด ทวินเวอร์เตอร์จะหยุดโครโนกราฟชุดที่กำลังทำงาน และเริ่มต้นการทำงานของโครโนกราฟชุดที่ถูกหยุด

สำหรับตัวเรือนของ Legacy Machine Sequential EVO ผลิตจากเซอร์โคเนียมมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มม. และหนา 18.2 มม. โดยภายในจะมีอุปกรณ์ซับแรงสะเทือนแบบวงแหวน เฟล็กซ์ริง ที่ติดตั้งระหว่างตัวเรือนและกลไก, มอบการปกป้องแรงสะเทือนทั้งตามแกนแนวตั้งและแนวขนาน เม็ดมะยมเป็นแบบขันเกลียวสามารถกันน้ำได้ 80 เมตร และมีกระจกแซฟไฟร์ด้านบนนาฬิกา และฝาหลังกระจกแบบโปร่งใส พร้อมด้วยการเคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน

MB&F Legacy Machine Sequential EVO MB&F Legacy Machine Sequential EVO
MB&F Legacy Machine Sequential EVO MB&F Legacy Machine Sequential EVO
MB&F Legacy Machine Sequential EVO MB&F Legacy Machine Sequential EVO

ทาง MB&F เปิดตัวในสองเอดิชันของตัวเรือนเซอร์โคเนียม ระหว่างรุ่นแผ่นหน้าปัดสีส้มอะตอมมิค (atomic orange) เคลือบ ซีวีดี (CVD) สีส้ม และรุ่นแผ่นหน้าปัดสีดำโคล coal black) เคลือบ พีวีดี (PVD) สีดำ  และมีราคาอยู่ที่ 180,000 เหรียญสหรัฐฯ

ข้อมูลทางเทคนิค : MB&F Legacy Machine Sequential EVO

  • กลไก

    • จักรกลโครโนกราฟคู่แบบผสานอย่างสมบูรณ์ พัฒนาขึ้นสำหรับ เอ็มบีแอนด์เอฟ โดย สตีเฟน แมคดอนเนลล์,
    • มาพร้อมสวิตช์ ทวินเวอร์เตอร์ ที่ช่วยให้สามารถสับโหมดการจับเวลาได้หลากหลาย
    • ไขลานด้วยมือ พร้อมด้วยเมนสปริงคู่
    • สำรองพลังงาน 72 ชั่วโมง (3 วัน)
    • ฟลายอิ้งบาลานซ์วีล พร้อมสกรูปรับตั้ง ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา, บาลานซ์สปริงปลายโค้ง เบรเกต์ (Breguet)
    • ตกแต่งด้วยงานฝีมือชั้นยอด; ขัดลบมุมด้านในโดดเด่นด้วยงานฝีมือ; ขัดขอบมุมและขัดเงา; ลายเจนีวาเวฟ (Geneva waves); งานแกะสลักด้วยมือ, สะพานจักรสีเข้ม (ตกแต่งด้วย เอ็นเอซี (NAC))
    • หน้าปัดกัลวานิคสีดำ พร้อมด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova) บนตัวเลขและเข็มชี้
    • ความถี่บาลานซ์: 3 เฮิรตซ์ (21,600 ครั้งต่อชั่วโมง)
    • จำนวนชิ้นส่วนกลไก: 585 ชิ้น
    • จำนวนทับทิม: 59 เม็ด
  • ฟังก์ชัน

    • แสดงเวลา (ชั่วโมง/นาที) ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
    • โครโนกราฟด้านซ้าย : แสดงการจับเวลาวินาที ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และแสดงการจับเวลานาที ณ ตำแหน่ง 11 นาฬิกา; ปุ่มกด เริ่มต้น/หยุด ณ ตำแหน่ง 10 นาฬิกา และรีเซ็ต ณ ตำแหน่ง 8 นาฬิกา
    • โครโนกราฟด้านขวา : แสดงการจับเวลาวินาที ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และแสดงการจับเวลานาที ณ ตำแหน่ง 1 นาฬิกา; ปุ่มกด เริ่มต้น/หยุด ณ ตำแหน่ง 2 นาฬิกา และรีเซ็ต ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกา
    • ปุ่มกด ทวินเวอร์เตอร์ ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา: สวิตช์สองสถานะ ที่สับระหว่างสถานะ เริ่มต้น/หยุด ปัจจุบันของโครโนกราฟทั้งสองชุด
    • แสดงพลังงานสำรอง ณ ด้านหลังของกลไก
  • ตัวเรือน

    • วัสดุ: เซอร์โคเนียม
    • สัดส่วน: ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 44 มม. x หนา 2 มม.
    • จำนวนชิ้นส่วน: 74 ชิ้น
    • การกันน้ำ: 80 เมตร / 8 เอทีเอ็ม / 270 ฟุต
    • เม็ดมะยมหมุนเกลียวลง
    • อุปกรณ์ซับแรงสะเทือนแบบวงแหวน เฟล็กซ์ริง ที่ติดตั้งระหว่างตัวเรือนและกลไก, มอบการปกป้องแรงสะเทือนทั้งตามแกนแนวตั้งและแนวขนาน
    • กระจกแซฟไฟร์ด้านบนนาฬิกา และฝาหลังกระจกแบบโปร่งใส พร้อมด้วยการเคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน
  • สายและหัวเข็มขัดสาย

    • สายยางแบบผสาน พร้อมหัวเข็มขัดแบบบานพับไทเทเนียม