ML หรือ Maurice Lacroix ฉลองอายุครบ 20 ปีให้กับคอลเล็กชั่น Pontos ด้วยการเปิดตัวนาฬิกาใหม่ 5 รุ่น โดยที่ไฮไลท์ของคอลเล็กชั่นนี้อยู่ที่ Pontos Chronograph Monopusher ที่มีการผลิตออกมาเพียง 500 เรือน
Maurice Lacroix Pontos ฉลอง 20 ปีด้วยหลากรุ่นพิเศษ
-
ฉลอง 20 ปีของคอลเล็กชั่น Pontos ด้วยนาฬิกา 5 รุ่นใหม่
-
รุ่นพิเศษคือ Pontos Chronograph Monopusher ที่ผลิตเพียง 500 เรือน
-
ราคาของคอลเล็กชั่นนี้จะอยู่ระหว่าง 1,490-3,890 ยูโร
ถือว่าเร็วเหมือนกันสำหรับคอลเล็กชั่น Pontos จากค่าย Maurice Lacroix(มอริซ ลาครัวซ์) ที่มีอายุครบ 20 ปี และเมื่อมีโอกาสพิเศษเช่นนี้ทางแบรนด์จึงได้เปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษสำหรับการฉลองครบรอบ 20 ปีทั้งรุ่นธรรมดาแบบ 3 เข็ม และรุ่นที่มาพร้อมกับระบบจับเวลา Chronograph
สำหรับ Pontos ถือเป็นนาฬิการุ่นยอดนิยมของ มอริซ ลาครัวซ์ โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2000 และในช่วงที่ทำตลาดคอลเล็กชั่นนี้เน้นความสวยสปอร์ตของนาฬิกาทั้งแบบดำน้ำ เดรสส์ และจับเวลา Chronograph ซึ่งในรุ่นใหม่ของการฉลองวาระพิเศษไม่ได้มาแค่หนึ่งแต่มาทีเดียวถึง 5 แบบด้วยกัน คือรุ่น Lacroix Pontos Day-Date ซึ่งจะมีด้วยกัน 2 รุ่น ตามด้วย รุ่น Lacroix Pontos Chronographอีก 2 รุ่น และอีก 1 รุ่นเป็นรุ่น Pontos Chronograph Monopusherที่มีการผลิตจำนวนจำกัด
รุ่นพิเศษอย่าง Maurice Lacroix Pontos Chronograph Monopusher จะมีการผลิตออกมาเพียง 500 เรือนเท่านั้น บนตัวเรือนสตีลขนาด 41 มิลลิเมตรเคลือบ PVD สีดำ และใช้ระบบจับเวลาแบบ Single Pusher ซึ่งจะมีปุ่มกดอยู่ในตำแหน่ง 2 นาฬิกา พร้อมรูปลักษณ์ที่ดูสวยสปอร์ตกับหน้าปัดแบบ 2 วงพร้อมกับดีไซน์ที่ชวนให้นึกถึงนาฬิกาจับเวลาแบบ Chronograph ในยุคสมัย 1940 และ 1950 ส่วนด้านหลังสามารถสัมผัสกับความงามของกลไกผ่านทางฝาหลังแบบใส และบนฝาหลังมีการสลักคำว่า 20th Anniversary เอาไว้ด้วย และมาพร้อมกับสายหนังสีดำพร้อมบานพับปีกผีเสื้อ ส่วนกลไกเป็นรุ่นใหม่ในรหัส ML166 เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง สามารถสำรองพลังงานได้ 58 ชั่วโมง และมีการตกแต่งอย่างสวยงาม โดยเฉพาะโรเตอร์ที่มีการขัดแต่งด้วยลาย Geneva Stripes มีราคา 3,890 ยูโร
เหลืออีก 4 รุ่นก็จะมีหน้าปัดใหม่ 2 รุ่นสำหรับนาฬิกาในกลุ่ม Pontos Chronograph บนตัวเรือนขนาด 43 มิลลิเมตร ทั้งหน้าเงินตัวเลขบนหลักชั่วโมงและเข็มสีทอง รวมถึงหน้าขาวและตัวเลขหลักชั่วโมงพร้อมชุดเข็มสีน้ำเงิน ซึ่ง 2 หน้าปัดรุ่นนี้จะมีการสลักคำว่า 20th Anniversary เอาไว้บนฝาหลัง และขับเคลื่อนด้วยกลไก ML112 ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานของ Valjoux7750 เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และสามารถสำรองพลังงานได้ 42 ชั่วโมง โดยจะมีให้เลือกทั้งแบบสายหนังจระเข้และสายโลหะ มีราคา 2,690 ยูโร
และสุดท้ายกับรุ่น 3 เข็มที่มีให้เลือกทั้งแบบตัวเรือนเคลือบ PVD สี Rose Gold หน้าปัดสีเขียว และแบบสตีลหน้าปัดสีขาวหลักสีทอง โดยทั้ง 2 รุ่นมากับตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตรเท่ากัน ซึ่งในรุ่นหน้าปัดเขียวที่เคลือบ PVD สี Rose Gold จะมากับสายหนังจระเข้ และรุ่นหน้าปัดเงินจะมากับสายสตีล โดยทั้ง 2 รุ่นใช้กลไกML143 ที่ปรับปรุงมาจากพื้นฐานของ Sellita SW200 เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมงและสามารถสำรองพลังงานได้ 38 ชั่วโมง มีราคา 1,490 ยูโร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
