Maurice Lacroix (มอริซ ลาครัวซ์) นำเสนอความลงตัวทั้งในด้านรูปลักษณ์ในสไตล์วินเทจที่ผสานกับความสามารถในการใช้งาน กับนาฬิกาดำน้ำที่ผลิตจากวัสดุอย่างบรอนซ์กับรุ่น Aikon Venturer Bronze43mm Automatic Limited Edition ที่มีการผลิตเพียง 500 เรือนเท่านั้น
Maurice Lacroix Aikon Venturer Bronze ดำน้ำบรอนซ์สไตล์วินเทจผลิต 500 เรือน
ไม่ใช่แค่สีเขียวอินเทรนด์แห่งปี แต่ยังโดดเด่นด้วยตัวเรือนบรอนซ์ สไตล์ วินเทจ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแบบของ Maurice Lacroix Aikon Venturer Bronze43mm Automatic Limited Edition (มอริซ ลาครัวซ์ ไอคอน เวนทูเรอร์ บรอนซ์ 43 มิลลิเมตร ออโตเมติก ลิมิเต็ด อิดิชั่น) จำนวนผลิตเพียง 500 เรือนทั่วโลก
เป็นอีกหนึ่งในคอลเลกชั่นสำคัญนามว่า ‘ไอคอน’ ที่มีการสืบสานในด้านรูปลักษณ์มาจากนาฬิกาตระกูลดังในอดีตของ Maurice Lacroix ในช่วงปี 1990s ที่มีชื่อว่า Calypso (คาลิปโซ) จนมาถึงปัจุบัน
และในปี 2020 นี้ Aikon Venturer Bronze43mm ก็ได้กลายมาเป็นนาฬิกาดำน้ำแนวแฟชั่นสปอร์ตหรูอย่างเต็มตัว สามารถกันน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร พร้อมกลไกอัตโนมัติบอกเวลา 3 เข็ม และสารเรืองแสง ‘Super-LumiNova’ (ซูเปอร์ลูมิโนวา) ทั้งบนเข็มชี้และหลักชั่วโมงเหมือนกัน
ภายในตัวเรือนที่สร้างจากวัสดุบรอนซ์ มีความแตกต่างจากดั้งเดิมด้วยการพัฒนาทางด้านดีไซน์ให้ดูแข็งแรงทนทาน และขนาดใหญ่ขึ้น มาพร้อมโทนสีกลิ่นอายสไตล์ วินเทจ โดยรวมคือ เขียว น้ำตาล และบรอนซ์ ที่ดูอินเทรนด์เพื่อเน้นให้เข้ากับแฟชั่นการแต่งตัวในยุคปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย
ตัวเรือนของ Aikon Venturer Bronze มีขนาด 43.0 มิลลิเมตร หนา 12.0 มิลลิเมตร โดยเป็นงานปัดลายบนพื้นที่ส่วนใหญ่ ร่วมกับงานขัดเงาบริเวณพื้นที่ตัดของขอบสันและวงขอบตัวเรือน พร้อมติดตั้งบ่าป้องกันเม็ดมะยมโดยยึดเข้ากับตัวเรือนอย่างแข็งแรงด้วยสกรู ส่วนดีไซน์ของสันบนขอบตัวเรือนจำนวน 6 ตำแหน่งอันเป็นลักษณะเด่นของตระกูล Aikon ก็ยังคงอยู่ โดยปรับเป็นตำแหน่งสำหรับสลักสเกลนาที
ขณะที่พื้นที่แนวระนาบที่เหลือติดตั้งแผ่นเซรามิกพิมพ์สเกลนาทีสีขาว ซึ่งแน่นอนว่าขอบตัวเรือนนี้เป็นแบบหมุนได้ทิศทางเดียวตามคุณลักษณะของนาฬิกาสำหรับการดำน้ำ ขณะที่ฝาหลังเป็นสเตนเลส สตีล แบบแผ่นทึบปั๊มลายคลื่นและโลโก้ของแบรนด์ ยึดด้วยสกรู และใช้เม็ดมะยมแบบขันเกลียวเพื่อประสิทธิภาพในการกันน้ำ ส่วนกระจกหน้าปัดทำจากแซพไฟร์คริสตัล
การขับเคลื่อนเข็มบอกเวลาทั้ง 3 และฟังก์ชันบอกวันที่ยังคงรับหน้าที่โดยกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ ความถี่การทำงาน 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงานได้ 38 ชั่วโมง ทับทิมกันสึกรวม 26 ชิ้น Cal.ML115 ซึ่งเป็นกลไกที่ปรับแต่งบนพื้นฐานของเครื่อง SW 200-1 ของ Sellita (เซลลิตา) เช่นเดียวกับเวอร์ชั่นแรกไม่เปลี่ยนแปลง
Aikon Venturer Bronze 43mm Automatic Limited Edition ใช้บรอนซ์กับทั้งตัวเรือนและขอบตัวเรือน โดยสีตั้งต้นเป็นโทนทองอร่าม แต่จะเปลี่ยนเฉดไปเป็นเจือโทนสีน้ำตาลกับเขียวชัดเจนมากขึ้นเมื่อผ่านการใช้งานไปในช่วงเวลาหนึ่ง ขณะที่แผ่นเซรามิกบนขอบตัวเรือนจะใช้สีน้ำตาลเข้ม ซึ่งดูเข้าคู่กับโทนสีของตัวเรือนเป็นอย่างยิ่ง แต่สีของแผ่นหน้าปัดลาย ‘Sunbrushed’ (ซันบรัชด์) ใช้สีเขียว พร้อมหลักชั่วโมง กรอบหน้าต่างวันที่ โลโก้ และเข็มเคลือบทอง เพื่อเพิ่มความโดดเด่นในภาพรวม
แถมยังให้สายนาฬิกามาถึง 2 เส้น คือสายยางสีเขียวปั๊มลายบั้ง และสายหนังวัวสีน้ำตาลผิวฟอก เดินตะเข็บด้ายสีเบจให้อารมณ์วินเทจ เพื่อให้คุณเลือกสลับใช้งานได้อย่างสะดวกจากระบบ ‘EasyChange’ ที่ติดมากับสาย สายทั้ง 2 เส้นฝังโลโก้ ‘m’ เคลือบทองมาให้ พร้อมข้อยึดตัวเรือนและตัวล็อกสายที่ทำจากบรอนซ์ ราคาจำหน่าย 92,000 บาท
เชิญชวนคุณมาสัมผัสความสปอร์ตหรู และแฟชั่นกลิ่นอายสไตล์ วินเทจของเรือนจริง พร้อมสอบรายละเอียดและโปรโมชั่นพิเศษได้ที่เคาน์เตอร์ มอริซ ลาครัวซ์ ทั้ง 12 สาขา สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลชิดลม, เซ็นทรัลลาดพร้าว, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัล พลาซา บางนา, เซ็นทรัล เมกาบางนา, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีช, เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
ดูข้อมูลนาฬิการุ่นต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ Maurice Lacriox
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/