Maranez Karon Brass อยากจะใส่ ถ้าแขนไม่ใหญ่ ก็ต้องใจถึง

0

นอกจากภาพในเว็บและสเป็กที่คุณต้องดูแล้ว บางครั้งก่อนที่สั่งนาฬิกาสักเรือนการดูรายละเอียดให้ครบถือว่าสำคัญมากถ้าหากคุณมีข้อมือที่คุณสมบัติจำกัดในการรองรับกับขนาดของนาฬิกา ซึ่งผมไม่มีปัญหาเรื่องนี้จนกระทั่งมาเจอกับ Maranez Karon ที่ใส่แล้วเกือบจะไม่สวย

Maranez Karon Brass
Maranez Karon Brass

Maranez Karon Brass อยากจะใส่ ถ้าแขนไม่ใหญ่ ก็ต้องใจถึง

  • นาฬิกาดำน้ำรุ่นคลาสสิคของรุ่นของ Maranez ที่มากับ Lug to Lug ยาวมาก

  • ตัวเรือนมีทั้งแบบ Steel และ Brass เช่นเดียวกับหน้าปัดทั้งแบบตัวเลข และ California Dial

  • ราคาในเว็บ 279 เหรียญสหรัฐฯ

- Advertisement -

ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มของคนเล่นนาฬิกา Microbrand ที่มีฐานทัพอยู่ที่ฮ่องกงอย่าง Maranez ชื่ออย่าง Bangla และ Rawai คือ สิ่งที่คุ้นเคยและคงไม่น่าแปลกใจ เพราะว่านั่นคือนาฬิการุ่นดังของพวกเขาเนื่องจากการออกแบบที่อ้างอิงแรงบันดาลใจมาจากนาฬิกาดำน้ำตัวคลาสสิค แต่สำหรับ Karon แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ … หา…ชื่ออะไรนะ ? แต่บอกเลยว่า นี่คือ นาฬิการุ่นหนึ่งที่ถูกใจผมมากๆ แต่เงื่อนไขในการใช้งานมันก็ต้องบอกเลยว่า มีค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะในแง่กายภาพของคนใส่

Maranez Karon Brass

แค่ชื่อคนคงคุ้นเคยกันแล้ว เพราะ Karon คือ ชื่อของหาดกะรน ในเกาะภูเก็ต ซึ่งถูกนำมาใช้ในการตั้งชื่อตามสไตล์ของ Maranez ที่นาฬิกาส่วนใหญ่ของพวกเขาจะใช้ชื่อที่อ้างอิงจากสถานที่ท่องเที่ยวในภูเก็ต โดย Karon ถือเป็นนาฬิการุ่นเก่าแก่อีกรุ่นของ Maranez เพราะอยู่ในคอลเล็กชั่นของพวกเขามาตั้งแต่ยุคก่อตั้งสมัยต้นทศวรรษที่ 2010 และในปัจจุบันก็ยังอยู่ในคอลเล็กชั่นเหมือนกับ Bangla และ Rawai ซึ่งรุ่นหลังมีการนำกลับมาผลิตใหม่อีกครั้ง โดยรุ่นที่ขายมีทั้งแบบสตีล และ Brass ซึ่งมีราคาตั้งในรุ่นเริ่มต้นเท่ากันที่ 279 เหรียญสหรัฐฯ

สิ่งที่ผมกำลังจะบอกสำหรับคนที่เล็งๆ Karon เอาไว้คือ มองไปที่ข้อมือข้างที่คุณใช้ในการสวมใส่นาฬิกาสักหน่อยว่ามีขนาดเท่าไร และถ้าต่ำกว่า 7 นิ้ว ผมคงต้องบอกว่า ‘ให้ลืมมันไปซะ’

เพราะ Karon มากับเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือนระดับ 47 มิลลิเมตรบวกกับอีก 5 มิลลิเมตรสำหรับเม็ดมะยมที่ยาวยื่นออกมา แต่นั่นยังไม่น่าหนักใจเท่ากับ Lug to Lug ที่ยาวถึง 58 มิลลิเมตร และดันเป็น 58 มิลลิเมตรแบบขาสายตรงแด่วไม่ได้โค้งงอลงมาเพื่อรับกับความโค้งของขอบทั้ง 2 ข้างของข้อมือ เพราะฉะนั้น มันคือ การวัดกันระหว่างพื้นที่บนข้อมือของคุณกับ Lug to Lug ของนาฬิกาว่าฝ่ายไหนจะชนะ…ส่วนของผมหนะหรือ บอกเลยว่า ‘เฉียด’ และมีเสียว

Maranez Karon Brass

นั่นเป็นเพราะแม้ว่าตัวเลข 58 มิลลิเมตรจะดูเยอะ แต่ส่วนตัวแล้ว ผมผ่านการใส่นาฬิกาที่มีตัวเลขระดับนี้มาเยอะ โดยเฉพาะพวก G-Shock แต่ด้วยเหตุที่ยังไม่เคยเห็นตัวจริงของ Karon มาก่อนนอกจากในภาพที่อยู่ในเว็บของ Maranez เลยไม่ได้รับรู้ถึงรูปทรงของขาสาย และมั่นใจกับข้อมือของตัวเองมาก สรุปว่าเมื่อนาฬิกามาถึงมือ และเปิดกล่องดูแล้วเจอกับตัวจริง ถึงกับตะลึงพร้อมกับรำพันว่าเราจะไปด้วยกันได้ไหมเนี่ย ?

ดังนั้นก่อนคลิ๊ก Add Cart ช่วยทำตามที่บอกก่อนนะครับ

ถ้าไม่นับเรื่องขนาดแล้ว ยอมรับว่า Karon เป็นนาฬิกาที่สวยและมีเอกลักษณ์ในการออกแบบรุ่นหนึ่งของ Maranez ผมเลือกรุ่นตัวเรือน Brass ที่ผ่านการขัดแบบด้านหรือ Blasted มา สิ่งที่เห็นจึงแตกต่างจากนาฬิกา Brass เรือนอื่นๆ ของ Maranez เพราะมันมากับพื้นผิวที่ด้าน ต่างจากรุ่นอื่นๆ ที่เป็นแบบ Brushed Brass ที่ขัดเงา

Maranez Karon Brass

ส่วนตัวผมยังไม่เคยสั่งพวก Brass ที่ขัดด้านแบบนี้มาใช้ แต่สิ่งที่เจอกับ Karon คือ ความยากในการขึ้น Patina และใช้เวลาในการขึ้น Patina มากกว่าแบบ Brushed มาก…อันนี้เป็นการสังเกตผ่านทางการใช้งานของตัวเองนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่าในเชิงเทคนิคการขัดแล้วมันจะมีผลตามที่ผมตั้งข้อสังเกตหรือเปล่า

หน้าปัดจะเป็นทรงกลม แต่ด้วยด้านข้างของตัวเรือนตรงบริเวณขาสายทั้ง 4 มุมก็มีพื้นที่ยาวยื่นออกไปอีกเล็กน้อย ทำให้ตัวนาฬิกาดูแล้วเหมือนกับทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกับพวก Seiko Samurai หรือ Alpina Extreme Diver และ Seastrong ดังนั้นในแง่ของการดูเต็มข้อนั้นมีมากกว่านาฬิกาทรงกลมอย่างแน่นอน

Maranez Karon Brass

กระจกแบบ Sapphire และมีการเคลือบสารกันการสะท้อนแสงด้านใน โดยมีรูปสูงและนูนขึ้นมาเหนือจากขอบตัวเรือนราวๆ 2 มิลลิเมตร แม้ว่า Sapphire จะแข็งและพ่ายแพ้แก่วัตถุอื่นๆ ในโลกไม่กี่ชนิด แต่ถ้าเดินแกว่งมือแล้วไปกระแทกกันอะไรสักอย่าง ด้วยแรงที่มาจากการแกว่งแขนและความแข็งของวัตถุที่เข้ามากระแทกน่าจะทำให้เกิดรอยหรือแตกได้ไม่ยาก

และด้วยดีไซน์อย่างที่บอกไปนั้น ขอบตัวเรือนไม่ได้ทำหน้าที่ในการช่วยปกป้องกระจกเลยนอกเหนือไปจากการใช้หมุนเพื่อจับเวลาแบบคร่าวๆ (เพราะบนขอบตัวเรือนไม่มีสเกลอะไรนอกจากปุ่มเรืองแสงสำหรับเป็นหลักเอาไว้ใช้อ้างอิงได้ระดับหนึ่ง) ดังนั้น ใช้งานกันอย่างระมัดระวัง

Maranez Karon Brass

อีกจุดที่หลายคนอาจจะไม่ชอบในฐานะที่เป็นนาฬิกาดำน้ำแถมยังกันน้ำในระดับ 300 เมตรก็คือ การใช้ฝาหลังแบบไขน็อตผ่านทางน็อต 6 ตัว ซึ่งอย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้หลายครั้งว่า ผมไม่ค่อยกังวลในเรื่องของฝาหลังว่าจะเป็นแบบไขน็อตหรือขันเกลียวสักเท่าไร แต่การไขน็อตเพื่อเซอร์วิสหรือทำอะไร มักจะเกิดร่องรอยบนน็อตซึ่งทำให้เกิดตำหนิหรือรอยขึ้นมาเท่านั้นเอง….นี่คือสิ่งเดียวที่ผมไม่ค่อยแฮปปี้กับฝาหลังแบบไขน็อต

สำหรับรุ่นปัจจุบันของ Karon ที่วางขายอยู่ในตลาด ณ ตอนนี้ มีให้เลือกหน้าปัด 2 แบบคือ แบบมีตัวเลขบนหลัก 3-6-9-12 ในสไตล์นาฬิกาดำน้ำวินเทจ และอีกแบบคือ California Dial ส่วนสีสันนั้นมีหลากหลาย และราคาก็แตกต่างออกไปตามวัสดุที่เอามาผลิต แต่ถ้าเป็นแบบสีหลักก็มีแค่ดำ น้ำเงิน และเขียว พร้อมกับเคลือบสารเรืองแสง SuperLuminova C3 ซึ่งผมต้องบอกว่าไวต่อการเก็บแสงและให้ความสว่างที่ไม่แพ้เทพแห่งสารเรืองแสงอย่างนาฬิกาดำน้ำของ Seiko เลย

ความกว้างขาสาย 24 มิลลิเมตรทำให้เลือกจับคู่กับสายหนังสวยๆ ได้เพียบ และในเซ็ตที่ทำตลาด นอกจากสายยางติดตัวเรือนที่เป็นไซส์ 24/22 แล้ว เขาก็มีสายหนังขนาด 24/24 พร้อมบัคเคิล Brass และไขควงสำหรับเปลี่ยนสายมาให้ด้วย ถือว่ากับราคา 279 เหรียญสหรัฐฯ Maranez ให้ความคุ้มค่ากับลูกค้าอย่างมาก

Maranez Karon Brass

Maranez Karon Brass

อีกประเด็นที่ผมชอบในตัว Karon คือการเป็นนาฬิกาแบบไม่มีเข็มวินาที ซึ่งอาจจะดูยากในแง่ที่ว่าจะทราบได้อย่างไรว่านาฬิกาเดินแล้วในกรณีที่คุณหยิบขึ้นมาตั้งเวลาและสวมใส่ครั้งแรก ซึ่งส่วนตัวผมไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องนี้ เพราะเท่าที่ลองใช้ หลังจากหมุนปรับเวลาแล้ว ผมมักจะขึ้นลานมืออีกสัก 3-4 รอบ และเขย่าอีกนิดเท่านี้ก็จบแล้ว ซึ่งบางครั้งการมีนาฬิกาที่ไม่มีเข็มวินาทีอยู่ในกรุบ้างทำให้มีความพิเศษและแตกต่างไม่จำเจดี และก็ไม่ได้ใช้งานอะไรยุ่งยากอย่างที่คิด

สรุปแล้ว Maranez Karon ถือเป็นนาฬิกาดำน้ำที่น่าสนใจและคุ้มค่ากับราคารุ่นหนึ่งที่มีอยู่ในตลาด เพียงแต่การที่คุณจะครอบครองได้นอกจากจะต้องมีเงินแล้ว ยังจะต้องมีข้อแขนที่ใหญ่ด้วย ถึงจะใส่แล้วสวย ประเด็นหลังนี่แหละที่ทำให้หลายคนอาจจะต้องผิดหวัง แต่ถ้าไม่แคร์เรื่องล้นข้อ ก็จัดไปได้เลย

ในวงเงินไม่เกิน 10,000 บาท ถ้าคุณเบื่อนาฬิกามีแบรนด์แล้วอยากหาอะไรที่แปลกและแตกต่าง สเป็กดี คุณภาพแจ่ม กลไกเชื่อใจได้ NH35 จาก Seiko และคุณภาพเจ๋ง ผมว่าผลผลิตจาก Maranez ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก อีกทั้งพวกเขาชอบจัดโปรโมชั่นลดราคา 20% อยู่เป็นประจำ…ตรงนี้แหละที่ทำให้ผมเป็นลูกค้าขาประจำของพวกเขา

ข้อมูลทางเทคนิค : Maranez Karon Brass

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 47 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 58 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 15 มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 24 มิลลิเมตร
  • วัสดุฝาหลัง/รูปแบบ : Stainless Steel/ไขน็อต
  • กระจก : Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสงด้านใน
  • กลไก : NH35 อัตโนมัติ ขึ้นลานมือ Hacking เข็มวินาที (ที่ไม่มีมาให้)
  • กำลังลานสำรอง : 42 ชั่วโมง
  • ระดับการกันน้ำ : 300 เมตร
  • ประทับใจ : ดีไซน์ / ความคุ้มค่าต่อราคา
  • ไม่ประทับใจ : Lug to Lug ที่ยาวมาก