Ultra-Chron นาฬิกาดำน้ำพร้อมกลไกความถี่สูงของ Longines กลับมาสู่ตลาดอีกครั้งด้วยความพิเศษ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของแบรนด์ นั่นคือ การใช้คาร์บอนในการผลิตตัวเรือน กับรุ่น Longines Ultra-Chron Carbon โดยตัวเรือนทรง Cushion มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มิลลิเมตรขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติในรหัส L836.6 เดินด้วยความถี่สูงระดับ 5Hz หรือ 36,600 ครั้งต่อชั่วโมง
Longines Ultra-Chron Carbon ครั้งแรกกับตัวเรือนคาร์บอน
-
Longines เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับ Ultra-Chron ด้วยตัวเรือนที่ผลิตจากคาร์บอน
-
ตัวเรือนทรง Cushion มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 43 มิลลิเมตร
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติในรหัส L836.6 เดินด้วยความถี่สูง
หลังจากที่นำชื่อของ Ultra-Chron กลับมาสู่ตลาดอีกครั้งเมื่อปี 2022 กับการเป็นนาฬิกาดำน้ำที่มาพร้อมกับกลไกที่เดินด้วยความถี่สูง ในตอนนี้ทาง Longines ขยับตัวอีกครั้งในช่วงต้นปี 2025 พร้อมกับความเปลี่ยนแปลงที่มีต่อคอลเล็กชั่นนี้ด้วยการทำในสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเวอร์ชันตัวเรือนคาร์บอนกับรุ่น Longines Ultra-Chron Carbon
Ultra-Chron ถือเป็นนาฬิกาดำน้ำในยุคแรกๆ ของ Longines ซึ่งเปิดตัวในปี 1968 และได้รับความนิยมอย่างมากด้วยการใช้กลไกความถี่สูงนั่นคือ กลไกอัตโนมัติ 431 ส่วนชื่อ Ultra-Chron ย่อมาจาก Ultra-Chronometer ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความเที่ยงตรงของกลไกในยุคนั้นที่มีค่าความคลาดเคลื่อนในระดับ 1 นาทีต่อวัน
จากนั้นในปี 2022 Longines นำ Ultra-Chron กลับมาสู่ตลาดอีกครั้งด้วยผลงานรีเมคที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้น โดยที่ตัวเรือนยังคงเป็นทรง Cushion เหมือนเดิม และคงรายละเอียดหลายอย่างจากรุ่นดั้งเดิม แต่เพิ่มความสามารถในการกันน้ำที่ขยับจาก 200 เมตรในรุ่นแรกมาเป็น 300 เมตร และนาฬิการุ่นนี้ทำตลาดอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนที่ Longines จะเพิ่มทางเลือกใหม่ออกสู่ตลาด นั่นคือ Ultra-Chron Carbon
นับเป็นครั้งแรกสำหรับ Longines ในการนำคาร์บอนมาใช้ในการผลิตตัวเรือน และตัวนาฬิกาจะมากับรหัส Ref. L2.839.4.52.2 มีจำหน่ายรุ่นเดียวในช่วงแรก นั่นคือ สายแบบไฮบริดซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างหนังกับไนลอน โดยที่ตัวเรือนยังเหมือนเดิมเป็นทาง Cushio ที่มีขนาด 43 มิลลิเมตร และหนา 14 มิลลิเมตร
จากการที่ใช้คาร์บอนในการผลิตตัวเรือน และใช้วัสดุที่มีความเบาอย่างไทเทเนียมในการผลิตขอบตัวเรือน (อินเสิร์ตผลิตจากอะลูมิเนียม) รวมถึงฝาหลังผลิตจากไทเทเนียม เมื่อบวกกับการใช้สายหนังและหุ้มด้วยผ้าไนลอน บวกกับบัคเคิลที่ผลิตจากไทเทเนียม ทำให้ตัวนาฬิกามีน้ำหนักรวมเพียงแค่ 80 กรัมเท่านั้น
เช่นเดียวกับรุ่นที่แล้วในรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติในรหัส L836.6 เดินด้วยความถี่สูง และมีมาตรฐานความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer โดย TimeLab Geneva พร้อมกำลังสำรอง 52 ชั่วโมง โดบที่ความสามารถในการกันน้ำอยู่ที่ 300 เมตรมาพร้อมกับความสามารถในการต้านทานสนามแม่เหล็กโดยผ่านมาตรฐาน ISO 764
ราคาในไทยยังไม่เปิดเผยออกมา แต่ในต่างประเทศอยู่ที่ 4,900 เหรียญสหรัฐฯ
รายละเอียดทางเทคนิค Longines Ultra-Chron Carbon
- เส้นผ่านศูนย์กลาง: 43 มิลลิเมตร
- ความหนา: 14 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน: คาร์บอน
- กระจก: Sapphire แบบ Boxed-Shape
- กลไก :อัตโนมัติ L836.6 มีความเที่ยงตรงระดับ Chronometer
- ความถี่ :36,000 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง: 52 ชั่วโมง
- การกันน้ำ: 300 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline