Laco Ulm & Wurzburg นักบินไขลานสำหรับนักธุรกิจ

0

สำหรับคนที่ชอบนาฬิกานักบินที่มีเรื่องราวแต่ยังติดที่ความหนาของมันทำให้ไม่สามารถสวมใส่กับเสื้อเชิร์ตได้ ตอนนี้ Laco มีการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่เพื่อรองรับกับความต้องการตรงนี้ และขจัดเรื่องความหนาของตัวเรือนออกไป และมากับชื่อรุ่น Laco Ulm &Wurzburg

- Advertisement -

Laco Ulm & Wurzburg

Laco Ulm & Wurzburg นักบินไขลานสำหรับนักธุรกิจ

  • ปรับปรุงขนาดตัวเรือนของรุ่น Laco Ulm & Wurzburgให้บางลงเพื่อให้สามารถสวมใส่กับเสื้อเชิร์ตแขนยาวได้

  • ขนาด 42.5 มิลลิเมตร และมีความหนาเพียง 10.5 มิลลิเมตร พร้อมใช้กลไกแบบไขลานที่สำรองพลังงานได้ 46 ชั่วโมง

  • ทั้ง 2 รุ่นต่างกันแค่หน้าปัด และถูกตั้งราคาเท่ากันที่ 1,190 เหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 35,700 บาท

เดี๋ยวนี้นาฬิกาสักเรือนไม่จำเป็นจะต้องเกิดมาเพื่อการใช้งานเฉพาะด้านเหมือนอย่างที่เคยเป็น แต่ยังถูกปรับปรุงและออกแบบมาเพื่อการใช้งานในด้านอื่นๆ อีกด้วย โดยเฉพาะความลงตัวสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันเหมือนอย่างที่ Laco พัฒนาคอลเล็กชั่นใหม่ที่ชื่อวา Ulm & Wurzburg. 2 นาฬิกานักบินคู่หน้าหน้า Type A และ Type B ที่ถูกลดความหนาเพื่อให้สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะบรรดานักธุรกิจทั้งหลายที่ชอบนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์

สิ่งที่ Laco จัดการกับตัวเรือนขนาด 42.5 มิลลิเมตรที่ผลิตจาก Stainless Steel ของ Ulm & Wurzburgคือ การลดความหนาของตัวเรือนเพื่อให้สามารถรอดผ่านแขนเสื้อเชิร์ตเวลาที่ผู้สวมใส่ใส่สูทด้วยตัวเลขเพียง 10.7 มิลลิเมตร รวมถึงการออกแบบตัวเรือนและขาสายให้ตัวนาฬิกามีความเป็นทางการมากขึ้นภายใต้แนวคิด Pilot watches with a business look ขณะที่ Lug to Lug จะอยู่ที่ 49 มิลลิเมตร และมีความกว้างขาสาย 22 มิลลิเมตร

สำหรับ Ulm เป็นนาฬิกาที่มากับหน้าปัดแบบ Type A และ Wurzburgมากับหน้าปัดแบบ Type B ซึ่งนั่นคือความต่างของทั้ง 2 รุ่น และทาง Laco มีการปรับรูปแบบของหน้าปัดให้เหมาะกับการใช้งานและดูสวยเด่นขึ้น โดยมีการเจาะช่อง Small Second หรือเข็มวินาทีแยก ซึ่งถูกติดตั้งยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมกระจกแบบ Sapphire

Laco Ulm & Wurzburg

Laco Ulm & Wurzburg Laco Ulm & Wurzburg

Laco Ulm & Wurzburg

Laco Ulm & Wurzburg Laco Ulm & Wurzburg

กลไกที่ใช้เป็นแบบไขลานในรหัส Laco 98 ที่พัฒนามาจากพื้นฐานของกลไก ETA 6498.1 เกรด Elabore และมีทับทิมจำนวน 17 เม็ด เดินด้วยความถี่ 18,000 ครั้งต่อชั่วโมง สามารถสำรองพลังงานได้ราวๆ 46 ชั่วโมง

ใครที่สนใจก็เตรียมเงินเอาไว้ที่ 1,190 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 35,700 บาทเอาไว้ได้เลย โดยทั้ง 2 รุ่นถูกตั้งราคาเท่ากัน