Hublot (อูโบลท์) นำเสนอนาฬิกา 6 รุ่นจากคอลเลกชัน Classic Fusion (คลาสสิค ฟิวชั่น), Big Bang (บิ๊ก แบง) และ Spirit of Big Bang (สปิริต ออฟ บิ๊ก แบง) ที่ทั้งหมดรังสรรค์ขึ้นจากเยลโลโกลด์ ซึ่งอุทิศให้กับวัสดุอันเป็นที่ชื่นชอบของแบรนด์ซึ่งหวนคืนกลับมาอีกครั้งจากเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว

Hublot x Yellow Gold สะท้อนความหรูผ่านนาฬิกา 6 รุ่นพิเศษ
ความสวยอร่ามของ Yellow Gold จะเปลี่ยนแปลงเมื่อถูกสะท้อนผ่านนาฬิกา 6 รุ่นใหม่ของ Hublot ที่นำเสนอความสวยงามและความหรูหราของวัสดุประเภทนี้ อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนผ่านหน้าประวัติศาสตร์ของแบรนด์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่า 40 ปีอีกด้วย
ผลงานใหม่ของ Hublot ที่พร้อมเผยโฉมสุดเอกซ์คลูซีฟภายในงาน LVMH Watch Week (แอลวีเอ็มเอช วอทช์ วีค) ปีนี้ได้จับถึงหัวใจอันเป็นแก่นแท้ดั้งเดิมของโรงงานการผลิตอีกครั้ง นั่นคือการผสมผสานระหว่างทองคำและยาง ภายใต้ความสวยงามสไตล์สปอร์ตชิค ซึ่ง ณ เวลานั้นหรือเมื่อ 40 กว่าปีก่อน คอนเซปต์ของนาฬิกาสปอร์ตสุดชิคนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยซ้ำ
![]() |
![]() |
![]() |
“ความเข้มแข็งที่สั่งสมมาอย่างยาวนานนั้นเป็นสิ่งที่ Hublot คุ้นเคยเป็นอย่างดี! และการออกเดินทางสู่ทศวรรษที่ห้าของเรา นั้น เราตัดสินใจที่จะหวนคืนสู่วัสดุอันแสนล้ำค่าอย่าง เยลโล โกลด์ ที่เป็นหนึ่งในวัสดุหลักของเราอีกครั้ง และไม่ใช่เพียงกับนาฬิกาเพียงหนึ่งรุ่นเท่านั้น แต่ยังมีถึง 6 ผลงานที่รังสรรค์ขึ้นภายใต้วัสดุล้ำค่านี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เราได้เผยโฉมเซตผลงานอันเต็มเปี่ยมที่มีพื้นฐานมาจากแนวคิดหนึ่งเดียวกัน นับเป็นวิถีแห่งการบอกเล่าและตอกย้ำอีกครั้งถึงความเชื่อมโยงอย่างต่อเนื่องกับดีเอ็นเอของเรา และสะท้อนความมุ่งมั่นที่ยังคงเดินหน้าสู่อนาคตของเรา!”
Ricardo Guadalupe (ริคาร์โด กัวดาลูเป)
โดยผลงานแต่ละรุ่นทั้ง 6 รุ่น นับเป็นตัวแทนบางส่วนของประวัติศาสตร์แห่งโรงงานการผลิต และวิถีการสร้างสรรค์ที่แบรนด์ Hublot ได้ยึดมั่นเพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้า เป็นเส้นทางที่ชัดเจนซึ่งเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่ Hublot เป็นในอดีต สู่ ปัจจุบัน และต่อไปในอนาคต จากผ่านแผนภูมิประวัติศาสตร์ 40 กว่าปีแห่งความเชี่ยวชาญ ความคิดสร้างสรรค์ ความชำนาญทางด้านเทคนิคทั้งหมด หลอมรวมกลายเป็นตำนานแห่งการก่อตั้งและการสร้างสรรค์ขึ้นมากมาย เริ่มต้นจากผลงานเพียงรุ่นเดียวอันโดดเด่น นั่นคือ Classic Original (คลาสสิค ออริจินัล) ของปี ค.ศ. 1980
และ ณ วันนี้ แต่ละผลงานได้สร้างซึ่งบทใหม่แห่งการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ของ Hublot ทั้งการถือกำเนิดของ Big Bang, Classic Fusion, Spirit of Big Bang รวมถึงศิลปะของการประดับตกแต่งอัญมณี งานสลักเสลาแบบสเกเลตัน และการบุกเบิกสร้างสรรค์นวัตกรรมกลไกครั้งแรกอีกมากมายที่เป็นผลิตผลของโรงงานการผลิตแห่งนี้ ด้วยวิถีในความเป็นตัวของตัวเอง สิ่งที่แต่ละรุ่นนั้นมีคล้ายกัน นั่นคือ การหลอมรวมไว้ซึ่งองค์ประกอบด้านความสวยงามและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคอันเป็นเอกลักษณ์ของ Hublot พร้อมทั้งองค์ประกอบพื้นฐานสำคัญเดียวกันจากการผสมผสานของเยลโล โกลด์ และสีดำ
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นได้ถูกถ่ายทอดผ่านหัวใจสำคัญสูงสุดของนาฬิการุ่น Classic Fusion Chronograph (คลาสสิค ฟิวชั่น โครโนกราฟ) กับครั้งแรกของการผลิตขึ้นด้วยเยลโล โกลด์ ด้วยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 42 มม. ขับเคลื่อนด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ มีเอกลักษณ์อและเปี่ยมด้วยสไตล์ ตอกย้ำถึงความเป็น ที่หนึ่ง ต้นตำรับ และมีเอกลักษณ์หนึ่งเดียว

![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ตามมาด้วยผลงานอันทันสมัยของ Big Bang Integral (บิ๊ก แบง อินทิกรัล) ที่รังสรรค์ขึ้นจาก เยลโล โกลด์ ทั้งเรือน (ตัวเรือน ขอบตัวเรือน และสายสร้อยข้อมือแบบผสาน) โดยในเวอร์ชันนี้ออกแบบขึ้นจากแท่งเดี่ยวของทองคำแท้ และยังมีให้เลือกในเวอร์ชันประดับเพชรทั้งเรือน ร่วมไปกับเวอร์ชัน Haute Joaillerie (โอต์ ยอแอลเลอรี) อันงดงามหรูหราสูงสุด
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ขณะที่นาฬิกาอีกสองรุ่นอันเป็นไอคอนิคของเจเนอเรชันล่าสุดภายในคอลเลกชันอันร่วมสมัยของ Hublot นั้น ประกอบด้วยเรือนเวลาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว Big Bang Unico (บิ๊ก แบง ยูนิโค) และความโดดเด่นแห่งสถาปัตยกรรมโครงสร้างของ Spirit of Big Bang (สปิริต ออฟ บิ๊ก แบง) โดยใน Big Bang นี้ยังเป็นนับครั้งกับการเผยโฉมภายใต้ตัวเรือนขนาด 42 มม. ที่ทำจากเยลโล โกลด์ ทั้งหมด พร้อมด้วยสายยางและกลไก Unico (ยูนิโค) ทั้งยังเป็นตัวแทนอันสมบูรณ์แบบ 100% ที่สะท้อนให้เห็นถึงคติพจน์แห่งโรงงานการผลิตของ Hublot พร้อมการบรรจุด้วยกลไกคาลิเบอร์ที่สำรองพลังงานได้นาน 3 วัน กับรูปลักษณ์อันสง่างามภายนอกซึ่งผสมผสานระหว่างเยลโล โกลด์ สีดำเข้ม เข้ากับงานตกแต่งแบบสเกเลตัน รวมถึงสมรรถนะและพลังอย่างแท้จริง
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ปิดท้ายด้วยการสร้างสรรค์ของ Spirit of Big Bang ที่ในเวอร์ชันใหม่นี้ได้ตอกย้ำถึงงานออกแบบอันโดดเด่น ซึ่งใช้รูปทรงของตัวเรือนตอนโน (tonneau) อันประณีตวิจิตร พร้อมด้วยเส้นสายแนวตรงและโค้งสลับกัน ถ่ายทอดผ่านมิติของพื้นผิวแบบขัดเงาและปัดด้านซาตินของเยลโล โกลด์ อันแวววาวเจิดจรัสยามต้องแสง ในเวอร์ชัน 42 มม. พร้อมกลไกสเกเลตัน และมาพร้อมระบบสาย One Click (วัน คลิก) ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้เช่นเดียวกับรุ่น Big Bang และขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์ HUB4700 (เอชยูบี4700) หนึ่งในกลไกอันเที่ยงตรงแม่นยำสูงสุดด้วยอัตราการทำงานความถี่ 5 เฮิรตซ์ (36,000 ครั้ง/ชั่วโมง)
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
You Tube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline