Hublot ทำงานร่วมกับ Maxime Plescia–Buchi ในการนำเสนอความโดดเด่นในด้านรูปทรงและมิติตัวเรือนของนาฬิการุ่นพิเศษอย่าง Spirit of Big Bang Sang Bleu อีกครั้ง โดยถือเป็นผลงานชิ้นที่ 3 นับจากการทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรกในปี 2016 การผลิตออกมาทั้งหมด 3 วัสดุ แต่มี 5 รุ่นย่อย คือ All Black Ceramic, Titanium, King Gold รวมถึงรุ่นประดับเพชร ซึ่งจะมีจำนวนการผลิตแตกต่างกันไป และทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ HUB4700 ที่มีกำลังสำรองอยู่ที่ 50 ชั่วโมง
Hublot Spirit of Big Bang Sang Bleu ผลงานที่ 3 กับตัวเรือนทรงสามมิติ
-
ผลงานชิ้นที่ 3 จากความร่วมมือระหว่าง Hublot และ Maxime Plescia–Buchi ช่างสักชื่อดัง
-
การผลิตออกมาทั้งหมด 3 วัสดุ แต่มี 5 รุ่นย่อย คือ All Black Ceramic, Titanium, King Gold
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ HUB4700 ที่มีกำลังสำรองอยู่ที่ 50 ชั่วโมง
นับจากปี 2016 เป็นต้นมา Hublot (อูโบลท์) ได้ทำงานร่วมกับ Maxime Plescia-Buchi (แม็กซิม เพลสเซีย-บุชชี) ศิลปินนักสักผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ ในการผลิตนาฬิกาที่เป็นตัวแทนแห่งแนวคิดที่ฉีกกรอบในการนำเสนอรูปแบบของตัวเรือนอย่างรุ่น Spirit of Big Bang Sang Bleu (สปิริต ออฟ บิ๊ก แบง แซง เบลอ) และในปีนี้ ทั้งคู่ได้เปิดเผยผลงานใหม่ ซึ่งถือเป็นชิ้นที่ 3 จากความร่วมมือออกสู่ตลาดโดยจะมีทั้งรุ่น Titanium (ไทเทเนียม) รุ่น All Black Ceramic (ออล แบล็ก เซรามิก) และรุ่น King Gold เพียง 100 เรือน ที่มีจำนวนการผลิตแตกต่างกันออกไป

![]() |
![]() |
Hublot (อูโบลท์) และ Maxime Plescia-Buchi (แม็กซิม เพลสเซีย-บุชชี) ได้ร่วมถ่ายทอดในการเปลี่ยนรูปของ Spirit of Big Bang (สปิริต ออฟ บิ๊ก แบง) ผ่านรูปทรงปริซึมอันมีเอกลักษณ์ของ Sang Bleu (แซง เบลอ) เช่นเดียวกับลวดลายสักของเขาที่ได้สร้างสรรค์บุคลิกเฉพาะตัวใหม่ขึ้นมา ซึ่งเป็นการเผยถึงซึ่งรูปทรงและมุมมองใหม่ๆ ที่ศิลปินนักออกแบบตัวอักษร ช่างสัก และผู้ก่อตั้งแห่ง Sang Bleu นี้ได้นำจิตวิญญาณใหม่ลงสู่คอลเลกชัน Spirit of Big Bang
‘เปิดตัวในปี ค.ศ. 2014, Spirit of Big Bang ยังคงรักษาไว้ซึ่งคุณสมบัติดั้งเดิมทั้งหมดของ Big Bang ภายใต้ตัวเรือนรูปทรงถังเบียร์ หรือ barrel-shaped ที่นับเป็นการตีความใหม่จาก DNA ของ Hublot ซึ่งสามารถจดจำได้ในทันที แต่ก็ยังคงความแตกต่าง
สำหรับผลงานแห่งความร่วมมือครั้งที่สามนี้ Maxime ได้หลอมรวมมันเข้ากับจิตวิญญาณใหม่ โดยมิได้เปลี่ยนแปลงซึ่งวิญญาณดั้งเดิมของคอลเลกชัน การเปิดตัวแนะนำ Spirit of Big Bang Sang Bleu เขาได้สร้างการเปลี่ยนรูปเดียวกันนี้ขึ้นอีกครั้ง โดยการนำแนวคิดอันโดดเด่นของ Big Bang Sang Bleu I & II (บิ๊ก แบง แซง เบลอ วัน และ ทู) ผ่านการนิยามขึ้นใหม่ให้กับเส้นสายต่างๆ ของ Spirit of Big Bang
โดยไม่ทำให้สูญเสียซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนาฬิการูปทรงถังเบียร์ของเรา แต่เขาได้มอบซึ่งบุคลิกใหม่ ด้วยงานออกแบบเชิงพื้นที่ใหม่ รวมถึงมีมิติมากขึ้นในเชิงสถาปัตยกรรม
โดยเผยผ่านรูปทรงเรขาคณิตและความสมมาตรของ Sang Bleu กลายเป็นการหลอมรวมที่อยู่เหนือยิ่งกว่าความสมบูรณ์แบบ และเป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือที่ได้ตอกย้ำถึงความโดดเด่นของคุณสมบัติที่ดีที่สุดและเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวของแต่ละงานออกแบบ ภายในนาฬิกาของเราและด้วยความร่วมมือนี้
มีเพียงปรัชญาหนึ่งเดียวที่ย้ำถึงวิสัยทัศน์อันแน่วแน่ในทุกๆ สิ่งที่เราทำ นั่นคือการปรับประยุกต์ของสิ่งที่บรรจุในขณะที่ยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหาไว้เสมอ’ Ricardo Guadalupe (ริคาร์โด กัวดาลูเป) CEO ของ Hublot กล่าว

สำหรับรุ่นใหม่ยังคงไว้อย่างมั่นคงถึงคุณลักษณะอันแตกต่างของซีรีส์นี้ ขณะเดียวกันก็ยังรักษาความโดดเด่นเฉพาะตัวสูง ภายใต้โครงสร้างที่เต็มไปด้วยเหลี่ยมมุมของตัวเรือน 42 มิลลิเมตร เสริมความสง่างามแบบสามมิติ พร้อมทั้งถ่ายทอดงานออกแบบอันเปี่ยมด้วยคุณสมบัติตามหลักการยศาสตร์ โดยการผลิตในจำนวนจำกัดสามรุ่นที่พร้อมสร้างความโดดเด่นให้กับข้อมือ
รุ่นนี้มีการผลิตออกมาทั้งหมด 3 วัสดุ แต่มี 5 รุ่นย่อย ประกอบด้วย
- All Black Ceramic (ออล แบล็ก เซรามิก) Ref. 648.CX.0114.RX.MXM23 มีการผลิตจำนวน 200 เรือน
- Titanium (ไทเทเนียม) Ref. 648.NX.0107.RX.MXM23 จำนวน 200 เรือน และ Titanium Pave รหัส Ref. 648.NX.0107.RX.1604. MXM23 ประดับด้วยเพชร 180 เม็ด ประมาณ 2.4 กะรัต ไม่ระบุจำนวนการผลิต
- King Gold (คิง โกลด์) Ref. 648.OX.0108.RX.MXM23 จำนวนผลิต 100 เรือน และ King Gold Pave Ref. 648.OX.0108.RX.1604. MXM23 ประดับด้วยเพชร 180 เม็ด ประมาณ 2.4 กะรัต ไม่ระบุจำนวนการผลิต
![]() |
![]() |
มั่นใจได้ถึงความต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งนวัตกรรม การรักษาไว้ซึ่งจิตวิญญาณ แต่ก็ยังคงสร้างสรรค์ซึ่งวัตถุที่มีความโดดเด่น พิเศษสุดและมีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียว เหล่านี้คือความอัจฉริยะอันลึกซึ้งแห่งศิลปะที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความร่วมมือของ Hublot และ Maxime Plescia-Buchi ศิลปินนักสักผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ที่ได้สร้างสรรค์จินตนาการใหม่ให้กับลวดลายเส้นสายของ Spirit of Big Bang
ด้วยคุณสมบัติเฉพาะที่มีทั้งการยืด ขยาย และตกแต่งเหลี่ยมมุมต่างๆ อย่างประณีต ซึ่งล้วนผ่านการวัดคำนวนอย่างได้สัดส่วนและสมบูรณ์แบบ เพื่อให้สอดคล้องลงตัวกับการรังสรรค์นาฬิกาที่บรรจุไว้ด้วยสัญลักษณ์และลายเซ็นแห่ง Sang Bleu อันเป็นที่จดจำได้ในทันที และเฉกเช่นเดียวกับแต่ละผลงานสักของเขาที่ลายเส้นเหล่านี้ได้ถูกปรับประยุกต์ไปบนตัวเรือน และสอดคล้องซึ่งคุณลักษณะอันแตกต่าง
ด้วยมิติแบบนูนต่ำ กับสัดส่วนโค้ง และลวดลายพื้นผิว ขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งหัวใจอันเป็นแก่นแท้ นั่นคือ จิตวิญญาณ และนี่คือปรัชญาเดียวกันที่เป็นแรงบันดาลใจของ Spirit of Big Bang
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
ความร่วมมือนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 ภายใต้ซีรีส์ Hublot – Sang Bleu และในปีนี้ เราได้เห็นถึงผลงานแห่งความร่วมมือในเอดิชันที่สาม ซึ่งเผยโฉมภายในงาน Salone del Mobile (ซาโลเน เดล โมไบล์) ในมิลาน โดยศิลปินช่างสักคนนี้ได้ประทับลวดลายเส้นที่ไม่อาจลบออก โดดเด่น และกล้าแสดงออก ไว้บนนาฬิกาคอลเลกชันใหม่ หลังความสำเร็จของ Big Bang
ในวันนี้ลายเซ็นและสัญลักษณ์ลวดลายสักของเขาได้ถูกนำมาไว้บน Spirit of Big Bang และเหมือนเช่นเคย ที่เขาได้ใช้ลวดลายแห่งรูปทรงเรขาคณิตแบบสามมิติมาผสมผสานอย่างสมมาตรเข้ากับสถาปัตยกรรมอันลึกลับและสะกดทุกสายตา โดยการเล่นกับมิตินูนต่ำและความลุ่มลึกผ่านวัสดุขัดเงา ขัดด้านแบบซาติน แกะสลัก สลักรูป และขัดลบมุม รวมถึงการตกแต่งเหลี่ยมมุม ทั้งรูปทรงหกเหลี่ยม ทรงเพชร และทรงสามเหลี่ยมที่ปรากฏและเหลื่อมซ้อนกัน มอบซึ่งรูปทรงและมิติที่ผ่านการเจียระไนขึ้นใหม่ในทุกเส้นสาย


ตัวนาฬิกามาพร้อมตัวเรือนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตรยังคงถ่ายทอดไว้ด้วยลวดลายสักเชิงเรขาคณิตที่สลับและซ้อนกัน นับตั้งแต่จากตัวเรือนสู่ขอบตัวเรือน พร้อมหน้าปัดแซฟไฟร์ที่เผยให้เห็นการทำงานของกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติโครโนกราฟสเกเลตัน HUB4700 (เอชยูบี4700) ผ่านเข็มชี้แบบดิสก์ที่ประทับไว้ด้วยรูปเรขาคณิตอันเป็นเอกลักษณ์ของเรือนเวลาที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยความร่วมมือกับ Sang Bleu

นาฬิกาที่แม้จะมีสัดส่วนอันกว้างขวางพิเศษและมีรูปทรงโดดเด่น แต่ยังคงนำเสนอความสมบูรณ์แบบตามหลักการย-ศาสตร์ซึ่งสามารถรับเข้ากับทุกขนาดข้อมือ สำหรับทั้งคุณสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ด้วยขอบตัวเรือนหรือไร้ขอบตัวเรือน โดยรักษารูปทรงเรขาคณิตของ Big Bang Sang Bleu II ไว้ โดยขณะเดียวกันก็ยังคงไว้ซึ่งธรรมชาติอันทรงพลังของรูปทรงถังเบียร์ให้ได้มากที่สุด
ในแง่ของการออกแบบ เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะสามารถรับกับส่วนโค้งของข้อมือขนาดต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ ฝาหลังของตัวเรือนรวมถึงกระจกแซฟไฟร์จึงถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยความโค้งในหลายจุด ขณะที่ในแง่ของความสามารถในการอ่านค่าบนหน้าปัดนั้น โครงสร้างของเข็มได้ถูกเสริมประสิทธิภาพของการแสดงเวลาได้อย่างชัดเจน รวมทั้งเครื่องหมายหรือมาร์กเกอร์แสดงชั่วโมงและนาทีที่ได้รับการปรับให้มีความประณีตยิ่งขึ้น
จากการถ่ายทอดลายเส้นสักของ Maxime ในหลากหลายระดับสู่รูปทรงถังเบียร์ของ Spirit of Big Bang เขาได้มอบซึ่งมุมมองใหม่ให้กับแต่ละส่วนประกอบ แต่ละรูปทรงและสัดส่วน ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้เองที่ทำให้ Spirit of Big Bang มีมิติใหม่ เหมือนกับที่ Hublot ได้มอบจิตวิญญาณใหม่จาก Big Bang สู่ Spirit of Big Bang ในรูปทรงถังเบียร์มาแล้วเมื่อปี ค.ศ. 2014
Hublot – Sang Bleu และผลงานไตรภาค
Hublot และ Maxime Plescia-Buchi ล้วนมีศิลปะอยู่ในสายเลือด และได้ร่วม “ลงหมึก” แห่งศิลปะรอยสักสู่การประดิษฐ์นาฬิกา โดยในปี 2016 ผลงาน Big Bang Sang Bleu รุ่นแรกได้มอบซึ่งความโดดเด่นของรูปทรงเรขาคณิตแบบสามมิติของศิลปินนักสักผู้โด่งดังมาประทับลงบนดีไซน์งานออกแบบของนาฬิการุ่นนี้
พร้อมทั้งเผยถึงโครงสร้างอันได้สัดส่วนสมบูรณ์แบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Vitruvian Man (วิทรูเวียน แมน) ของ Leonardo da Vinci (เลโอนาร์-โด ดา วินชี) การแสวงหาซึ่งความสมบูรณ์แบบและการใช้สัญลักษณ์ต่างๆ นั้นคือเอกลักษณ์ของผลงานสร้างสรรค์แห่ง Sang Bleu ทั้งหมด
โดยในปี 2019 กับการเปิดตัวนาฬิกา Sang Bleu II ความร่วมมือของศิลปินช่างสักและช่างนาฬิกาอย่าง Hublot นี้ได้แสดงออกถึงศิลปะการสักอย่าง “เต็มรูปแบบ” บนนาฬิการุ่น Big Bang ซึ่งรวมถึง ตัวเรือน ขอบตัวเรือนทรงหกเหลี่ยม กระจกแซฟไฟร์ เข็มชี้ ตลอดจนถึงสาย สไตล์แบบสามมิตินี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดในปี 2023 นับเป็นตัวแทนของผลงาน “รอยสัก” คอลเลกชันใหม่ – Spirit of Big Bang
โดยหลอมรวมไว้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นเดียวกันกับวิถีที่ Hublot ได้สร้างสรรค์และเปิดตัว Spirit of Big Bang ขึ้นในปี 2014 จากการผสานระหว่าง DNA ของ Hublot และรหัสอันโดดเด่นของ Big Bang (สกรูไทเทเนียมรูปทรง H ทั้ง 6 ตัว รอบขอบตัวเรือนนาฬิกา โครงสร้างตัวเรือนแบบแซนด์วิชที่ผสมผสานอย่างไร้จุดสิ้นสุดของวัสดุและสีสัน เอกลักษณ์ของหูตัวเรือนเชื่อมสายทั้งสองด้าน และเม็ดมะยมแบบหมุนเกลียวที่หุ้มขึ้นรูปด้วยยาง) โดยครั้งนี้ Maxime ได้กลับมาสร้างสรรค์ทุกส่วนประกอบของ Spirit of Big Bang อย่างมีเอกลักษณ์แท้จริง
‘ความร่วมมือของผมกับ Hublot เป็นเหมือนการสร้างบ้านหรือโครงการเชิงสถาปัตยกรรม Spirit of Big Bang Sang Bleu จึงเปรียบเป็นผนังด้านที่สามของโครงสร้างที่มีร่วมกันนี้ และได้สร้างซึ่งความหมายอันสำคัญของแลนด์มาร์ก ในฐานะบ้านที่เราได้ร่วมกันสร้างขึ้นอย่างมั่นคงในวันนี้และสอดคล้องตามปณิธานของเรา
หลังจากที่ได้สร้างเอกลัษณ์ให้กับ Big Bang มาแล้ว กระบวนการสร้างสรรค์ของผมในวันนี้ได้ต่อยอดสู่รูปแบบใหม่ และนี่คือคอลเลกชันใหม่ ในรูปทรงถังเบียร์แห่ง Spirit of Big Bang ผมได้มีโอกาสตั้งคำถามและทบทวนในทุกส่วนประกอบ
นับจากตัวเรือนจนถึงกระจกแซฟไฟร์ จากสายจนถึงตัวพับล็อกสายพิจารณาถึงแต่ละรูปทรงและสัดส่วนผ่านการสะท้อนแบบองค์รวม โดยมีเป้าหมายคือการผสาน DNA ของ Big Bang Sang Bleu II มาสู่ Spirit of Big Bang Sang Bleu
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นคือความสวยงามเชิงเรขาคณิตที่คล้ายกัน กับการตีความขึ้นใหม่ของรูปทรงและปริมาตร ผลงานสร้างสรรค์นี้ได้ถูกนำทางโดยรูปทรงที่มีสัดส่วนสมบูรณ์แบบ ผสานสัมพันธ์ และเหลื่อมซ้อนกัน เป็นงานออกแบบที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์หนึ่งเดียว ขณะเดียวกันก็เสริมไว้ด้วยเสน่ห์ด้านกายศาสตร์สำหรับผู้สวมใส่’ Maxime Plescia-Buchi กล่าว
ข้อมูลทางเทคนิค : Hublot Spirit of Big Bang Sang Bleu
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42 มิลลิเมตร
- ความหนา :7 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : เซรามิก / ไทเทเนียม / คิงโกลด์
- กระจก : Sapphire
- สายและตัวพับล็อก : สายยางสีดำแบบเรียบ หัวเข็มขัดปรับได้ผลิตจากวัสดุที่ตรงกับตัวเรือน
- รหัสกลไก : HUB4700 กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ โครโน-กราฟ สเกเลตัน
- ความถี่: 5 เฮิรตซ์ (36,000 ครั้ง/ชั่วโมง)
- สำรองพลังงาน : 50 ชั่วโมง
- จำนวนชิ้นส่วน: 278 ชิ้น
- ทับทิม: 31 เม็ด
- การกันน้ำ : 100 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline