งาน Central International Watch Fair 2024 จึงไม่ได้มีเพียงความน่าสนใจและยิ่งใหญ่เฉพาะพื้นที่โฉมใหม่ของการจัดงาน และแบรนด์นาฬิกาที่เข้าร่วมกับงานนี้มากกว่า 100 แบรนด์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการนำ ‘ของใหม่’ ที่น่าสนใจจากบรรดาแบรนด์ต่างๆ มาร่วมจัดแสดงและเปิดตัวในงานนี้ด้วย
เรือนเวลา Hi-Light ใน Central International Watch Fair 2024
งาน Central International Watch Fair 2024 จึงไม่ได้มีเพียงความน่าสนใจและยิ่งใหญ่เฉพาะพื้นที่โฉมใหม่ของการจัดงาน และแบรนด์นาฬิกาที่เข้าร่วมกับงานนี้มากกว่า 100 แบรนด์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการนำ ‘ของใหม่’ ที่น่าสนใจจากบรรดาแบรนด์ต่างๆ มาร่วมจัดแสดงและเปิดตัวในงานนี้ด้วย
เรียกว่าใครที่เล็งเรือนไหนเอาไว้ ไปดูเรือนจริงกันได้เลยที่ชั้น 2 ห้างเซ็นทรัล ชิดลม หรือถ้าไม่สะดวกเดินทางก็สามารถช้อปผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ได้ เช่น
-
Central App
-
เว็บไซต์ www.central.co.th, Central Chat & Shop
-
ช้อปผ่านแชต Line Official @centralofficial
-
Central Personal Shopper โทร.1425 ที่ลูกค้าสามารถชมสินค้าที่ต้องการได้แบบเรียลไทม์กับผู้ช่วยช้อปส่วนตัว
-
ช้อปผ่าน Inbox ที่เฟซบุ๊กเพจ www.facebookcom/CentralDepartmentStore
ใครอยากรู้ว่ามีนาฬิกาเรือนไหนที่น่าสนใจบ้าง วันนี้เรามี นาฬิกาเรือนเด่นจำนวน 13 รุ่น 15 เรือน ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่ Central International Watch Fair 2024 มาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของคุณได้ง่ายขึ้น
1. Oris Central Limited Edition
นาฬิกาที่ผสมผสานระหว่างความหรูหราและความประณีตในทุกมิติ ตัวเรือนใช้พื้นฐานของรุ่น Divers Sixty-Five ผลิตจากสเตนเลสสตีลมีขนาด 38 มิลลิเมตร พร้อมหน้าปัดกราเดียนท์สีแดง Central Red ที่เปล่งประกายสะกดทุกสายตา ตกแต่งด้วยตัวอักษรและเข็มวินาทีสีทองวิจิตร ขอบหน้าปัดมาพร้อมสเกลนาทีแบบนูน เพิ่มความโดดเด่นและหรูหราไม่ซ้ำใคร ฝาหลังยังถูกสลักโลโก้ Central เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 77 ปี ของห้างเซ็นทรัล นาฬิการุ่นนี้สามารถสำรองพลังงานได้ถึง 41 ชั่วโมง และกันน้ำลึกถึง 100 เมตร มั่นใจในความแข็งแรงและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น เป็นเจ้าของความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่มีเพียง 77 เรือนในโลก วางจำหน่ายที่ประเทศไทยเท่านั้น
ราคา 109,000 บาท
2. Baume & Mercier Riviera Baumatic 10769
เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งความหรูหราและความเที่ยงตรงกับนาฬิกา Riviera Baumatic 10769 รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลเท่านั้น ตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร ขอบหน้าปัดผลิตจากสตีลคุณภาพสูงผสานกับไทเทเนียมผ่านการขัดผิวแบบพ่นทราย สื่อถึงพลังอันแข็งแกร่งจากธรรมชาติ นาฬิกาเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก Baumatic อันเป็นเอกลักษณ์ของ Baume & Mercier ที่ได้รับการยอมรับในด้านความแม่นยำและความทนทาน หน้าปัดสีน้ำเงินแซฟไฟร์เสริมด้วยสายรัดยางสีฟ้าแบบถอดเปลี่ยนได้ ตกแต่งด้วยดีไซน์ผ้าแคนวาสเพื่อความสะดวกและสวยงามที่ลงตัวทุกการสวมใส่
ราคา 169,300 บาท
3.CASIO G-SHOCK MRG-B2100Dนาฬิกาที่ผสมผสานระหว่างความทนทานและความหรูหราใน CASIO G-SHOCK MRG-B2100D รุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล MRG ด้วยดีไซน์ที่ทรงพลังและล้ำสมัย ตัวเรือนผลิตจากวัสดุไทเทเนียมคุณภาพสูง โลหะผสมที่มีความแข็งเป็นพิเศษที่พัฒนาขึ้นในญี่ปุ่น ผสมผสานความแข็งแกร่งเข้ากับความสวยงาม ฟังก์ชันสุดล้ำครบครัน ทั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์และ Bluetooth เพื่อการเชื่อมต่อที่ง่ายดาย พร้อมลุยทุกสถานการณ์ด้วยการกันน้ำลึกถึง 200 เมตร ที่สุดแห่งนาฬิกาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความแข็งแกร่งและความหรูหรา ราคา 165,000 บาท
|
 |
4.Frederique Constant Highlife Tourbillon Perpetual Calendar Manufacture
สัมผัสความประณีตและหรูหราใน Frederique Constant Highlife Tourbillon Perpetual Calendar Manufacture ที่มาพร้อมกลไก FC-975 In-house ระบบออโตเมติก สำรองพลังงานได้ถึง 38 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน ทั้งชั่วโมง นาที วัน วันที่ เดือน leap year และกลไกทูร์บิญอง ตัวเรือนขนาด 41 มิลลิเมตร ทำจากสเตนเลสสตีล มาพร้อมสายสเตนเลสสตีล สายหนังจระเข้ และสายยางสีน้ำเงิน หน้าปัดสีน้ำเงินประดับลายลูกโลกนูนตรงกลาง ครอบด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ รุ่นนี้ผลิตเพียง 88 เรือนทั่วโลก และในไทยมีเพียง 1 เรือนเท่านั้น วางจำหน่ายเฉพาะที่ห้างเซ็นทรัลชิดลม
ราคา 1,319,000 บาท
5. Grand Seiko SBGA499G
ความหรูหราที่ไม่ซ้ำใครในแบบลิมิเต็ด ให้คุณสัมผัสถึงความสมบูรณ์แบบกับนาฬิกา Grand Seiko SBGA499G รุ่น Limited Edition ที่ผลิตขึ้นจำนวนจำกัดเพียง 1,300 เรือนทั่วโลก ซึ่งรุ่นนี้มีความโดดเด่นกับสีสันของหน้าปัด ซึ่งมากับสีแดงสดที่ได้รับอิทธิพลการสร้างสรรค์จากภาพทิวเขาโฮทากะ และฤดูใบไม้ร่วงอันงดงามที่ถูกอาบด้วยแสงแดดสีทองในยามเช้าขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์ 9R65 ซึ่งถือเป็นกลไกแรกในตระกูล 9R ของ Grand Seiko ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความแม่นยำและประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือชั้น โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ผสานความงามคลาสสิกเข้ากับความล้ำสมัย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความพิเศษและความเที่ยงตรง
ราคา 204,000 บาท
6. Longines Spirit Flyback
ก้าวสู่โลกแห่งการผจญภัยไปกับ Longines Spirit Flyback นาฬิกาโครโนกราฟที่มาพร้อมฟังก์ชัน flyback อันเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีของ Longines มีด้วยกัน 2 สีหน้าปัด คือสีเขียวด้านที่ทันสมัย และอีกรุ่นสีน้ำตาล ทั้ง 2 รุ่นผสานกับเม็ดมะยมและปุ่มกดเยลโลว์โกลด์ 18k มอบความหรูหราเหนือระดับให้ทุกจังหวะการสวมใส่ นาฬิการุ่นนี้มีกำลังลานสำรองถึง 68 ชั่วโมง พร้อมการรับรองมาตรฐานโครโนมิเตอร์จากสถาบัน COSC (Contrôle Officiel Suisse des Chronomètres) เสริมด้วยความสามารถต้านทานสนามแม่เหล็กมากกว่ามาตรฐาน ISO764 ถึง 10 เท่า ด้วย ซิลิคอน บาลานซ์ สปริง ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ กันน้ำลึกถึง 100 เมตร (10 บาร์) พร้อมสายหนังสีเขียว และสีน้ำตาลที่มากับตัวล็อกแบบพับสองชั้นที่มาพร้อมระบบปรับขนาดข้อมือได้อย่างสะดวกสบาย
ราคา 226,200 บาท
7.Maurice Lacroix รุ่น AIKON Automatic Chronographสัมผัสความสมาร์ท และพลังแห่งการออกแบบใน MAURICE LACROIX AIKON Automatic Chronograph ด้วยตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 44 มิลลิเมตรที่ทั้งเบาและแข็งแกร่ง ผสานความทนทานต่อการสึกกร่อน พร้อมความปลอดภัยต่อผิวของผู้สวมใส่ ด้วยการผสมผสานระหว่างไทเทเนียมเกรด 5 นาฬิกาเรือนนี้จึงสะท้อนถึงความโฉบเฉี่ยว หรูหรา และงดงาม เหมาะสำหรับทุกสภาพแวดล้อมในเมือง ราคา 165,900 บาท |
 |
8. Mido Multifort TV 35พบกับดีไซน์ที่ทันสมัยและหรูหราใน MIDO Multifort TV 35 เรือนเวลาใหม่ล่าสุดที่คงรูปทรงทีวีอันเป็นเอกลักษณ์แต่มาพร้อมขนาดหน้าปัดใหม่ 35 มิลลิเมตร ตัวเรือนสเตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ ที่โดดเด่นและทนทาน มาพร้อมหน้าปัดสีน้ำตาลประดับเพชรแท้ 8 เม็ด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสง่างาม และสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ราคา 50,400 บาท
|
 |
9.Montblanc รุ่น 1858 Geosphere Carbo2 0 OxygenMontblanc 1858 Geosphere Carbo2 0 Oxygen เปิดตัวครั้งแรกในงาน Watches and Wonders 2024 โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ไร้ซึ่งออกซิเจนภายในกลไก เพื่อเพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม สะท้อนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตนาฬิกาของ Montblanc ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Montblanc 1858 Geosphere Carbo2 0 Oxygen ได้รับการออกแบบมาสำหรับนักสำรวจและผู้ที่รักการผจญภัย ด้วยดีไซน์หรูหรา ทนทาน และเที่ยงตรงทุกจังหวะการเดินทางสัมผัสประสบการณ์ใหม่แห่งความงดงามที่ผสานกับนวัตกรรมล้ำสมัย ราคา 348,100 บาท
|
 |
10.Rado True Square Automatic Open Heart Diamonds Limited Edition
นาฬิกา Rado รุ่น True Square Automatic Open Heart Diamonds Limited Edition “CHECKMATE” ที่มาพร้อมกลไก Rado Calibre R734 ระบบออโตเมติกที่สำรองพลังงานได้ถึง 80 ชั่วโมง โดดเด่นด้วยการออกแบบหน้าปัดแบบโอเพ่นฮาร์ทที่มาพร้อมฝาหลังแบบโปร่งใสสลัก LIMITED EDITION ONE OUT OF 888 ซึ่ง รุ่น R27073752 เม็ดมะยมและตัวเรือนทำจากไฮเทคเซรามิกสีขาว มีโครงสร้างแบบเป็นชิ้นเดียว ฝาหลังทำจากไทเทเนียมแบบพ่นทรายและมีคริสตัลแซฟไฟร์ ส่วนรุ่น R27086752 เม็ดมะยมและตัวเรือนทำจากไฮเทคเซรามิกสีดำ โครงสร้างแบบชิ้นเดียว ฝาหลังไทเทเนียมพ่นทรายเคลือบ PVD สีดำพร้อมกับคริสตัลแซฟไฟร์ ประดับเพชรแท้
ราคา 119,800 บาท
11. Seiko SSH158J Limited Edition
สัมผัสความล้ำสมัยในสไตล์หรูหรา กับ SEIKO SSH158J รุ่นลิมิเต็ดที่มีเพียง 1,200 เรือนทั่วโลก มาพร้อมกลไก GPS Solar Caliber 5X83 ซึ่งสำรองพลังงานได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน พร้อมความเที่ยงตรงที่เยี่ยมยอดด้วยความแม่นยำ +-15 วินาที/เดือน ตัวเรือนและสายผลิตจากไทเทเนียมเคลือบสีดำ IP โดดเด่นด้วยขอบหน้าปัดและปุ่มกดสีชมพูทอง IP ผสานเข้ากับฟังก์ชันระดับพรีเมียม เช่น โครโนกราฟ, เวลาสองเขต, และฟังก์ชัน World Time ครอบคลุม 38 เมืองทั่วโลก มอบความเท่และสมาร์ทในทุกสถานการณ์
ราคา 129,000 บาท
12. Seiko King Seiko SJE105Jพบกับความงามอันประณีตวิจิตรบรรจงใน Seiko SJE105J รุ่นล่าสุดจาก Seiko King ตัวเรือนขนาด 38.6 มิลลิเมตรและสายผลิตจากสเตนเลสสตีล ด้วยดีไซน์หน้าปัดสีน้ำเงินเข้มไล่โทนสี ถ่ายทอดเสน่ห์ของสุภาพบุรุษอันทรงพลังแต่งามสง่า ผ่านการออกแบบที่พิถีพิถันทุกรายละเอียดด้วยลวดลาย Kameido pattern จากแรงบันดาลใจของรูปทรงกระดองเต่า สัญลักษณ์ของความงดงามยั่งยืนแห่งท้องทะเล มาพร้อมกลไก Caliber 6L35 ที่สำรองพลังงานได้นานสูงสุดถึง 45 ชั่วโมง และกันน้ำลึกถึง 5 บาร์ พร้อมมอบความเที่ยงตรงที่ยอดเยี่ยมด้วยความแม่นยำ +15 ถึง -10 วินาที/วัน ราคา 130,000 บาท
|
 |
13.Tissot รุ่น T-Race Powermatic 80 41MM New Collection First Launchเรือนเวลาดีไซน์สปอร์ตสุดล้ำ Tissot T-Race Powermatic 80 ที่สะท้อนจิตวิญญาณของกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่างเต็มที่ ด้วยตัวเรือนสเตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีดำ ขนาด 41 มม. ตัดกับเข็มนาทีและชั่วโมงสีแดงที่เคลือบ Super-LumiNova® เพื่อความชัดเจนในทุกสภาพแสง มาพร้อมกลไกออโตเมติกสวิสที่สามารถสำรองพลังงานได้สูงสุดถึง 80 ชั่วโมง และสปริงบาลานซ์ Nivachron ช่วยป้องกันสนามแม่เหล็ก ให้คุณมั่นใจในความแม่นยำของเวลา รองรับการกันน้ำลึก 100 เมตร (10 บาร์) และรับประกัน 2 ปี เรือนเวลาที่สมบูรณ์แบบสำหรับสุภาพบุรุษผู้รักความเร็ว ราคา 27,400 บาท
|
 |
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
