อีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนชอบ Homage Watch ที่มีคุณภาพในราคาที่รับได้ โดย Helson Shark Diver Brass 45 มากับตัวเรือน Brass พร้อมกลไกจาก Seiko แถมกันน้ำได้ 1,000 เมตร ในราคาต่ำว่า 400 เหรียญสหรัฐฯ
Helson Shark Diver Brass 45 สเป็กดีในราคาที่จับต้องได้
-
Homage Watch กับสเป็กที่น่าสนใจ กันน้ำในระดับ 1,000 เมตร พร้อมกลไกจาก Seiko
-
ตัวเรือน 45 มิลลิเมตรผลิตจาก Brass มีช่อง HEV ในตำแหน่ง 9 นาฬิกา
-
ราคา 399 เหรียญสหรัฐฯ
สำหรับโลกของ Homage Watch ผมว่าเป็นอะไรที่น่าค้นหาและที่สำคัญคือทำให้ข้อมือของคุณเด่นขี้นมาได้โดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินมากมาย และนั่นทำให้คนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างผมชอบมาก แต่จะต้องอยู่ในคอนเซ็ปต์ของตัวเอง คือ เป็นนาฬิกาที่พวกเขาคิดและดีไซน์เอง ไม่ได้ประเภททำให้ดูเหมือนของมีแบรนด์
ดังนั้น เมื่อเข้าสู่แนวทางนี้แล้ว จึงเหลือนาฬิกาที่อยู่ในใจผมเพียงไม่กี่แบรนด์ และหนึ่งในนั้นคือ Helson ที่ผมค่อนข้างหลงใหลกับรุ่น Shark Diver Brass ของพวกเขา เพราะนอกจากจะสวยและดูถึกแล้ว ยังอยู่ในงบฯ ที่ผมตัดสินใจได้โดยไม่ต้องทำเรื่องของอนุมัติเบื้องบน
ดังนั้น เมื่อโลก e-Commerce อยู่ในช่วง Black Friday จึงถือเป็นฤกษ์อันดีที่มี Code ลด 15% ของพวกเขาโผล่ขึ้นมา ผมก็เลยจัดการกดสั่งเสียเลยทั้งที่ปีนี้ปวรณาตัวเองแล้วว่าจะไม่ตกเป็นเหยื่อของเทศกาล 11/11 และ 12/12 แต่สุดท้ายก็ไม่รอด และเจ้า Helson Shark Diver Brass 45 ก็บินจากฐานในฮ่องกงมาถึงบ้านอย่างรวดเร็วเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น
ผมจำได้ว่าเคยอ่านในกระทู้อะไรสักอย่างในเว็บบอร์ดของพวกฝรั่งเล่านาฬิกา ซึ่งพูดถึงในทำนองว่าถ้าคุณหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของ Homage Watch แล้ว มันคือ การเดินทางที่ไม่จบสิ้น และนั่นหมายถึงเงินจำนวนมหาศาลที่จะถูกถมลงไปเพื่อเติมเต็มความต้องการของตัวคุณเองชนิดที่อาจจะมากกว่าการเล่นนาฬิกาทั่วไปเสียอีก
อ่านแล้วก็นึกถึงตอนสมัยเล่น Casio G-Shock และ Seiko มันคือความสนุกในการตามหาของ การหาข้อมูลแบบบ้าคลั่ง และใช้เงินในการลงต่อเรือนไม่เยอะมาก ทำให้คุณสามารถเติมเต็มความสนุกในการเล่นนาฬิกาได้ไม่ยาก ไม่เหมือนกับการลงทุนไปกับนาฬิกาแพงๆ ที่อาจจะปีนึงซื้อได้แค่เรือนเดียว มันคือความสนุกแค่ครั้งเดียว แต่ข้อเสียของมันหนะมีแน่ๆ เพราะอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่ามันไม่มีวันจบและเมื่อลองนั่งนับเงินที่เสียไป บางคนอาจจะเสียดายว่า ‘รู้งี้เอาไปลง Rolex ดีกว่า’ ผมก็เป็นนะ แต่ก็ยังไม่เข็ดสักที
สำหรับ Helson ถือเป็นแบรนด์ Homage ที่ค่อนข้างดังเอาเรื่อง เพราะพวกเขาผลิตนาฬิกาแบบ Poorman Watch โดยเฉพาะในตระกูล Seamaster รุ่นคลาสสิคและรุ่น Ploprof รวมถึงพวก Blancpain Fifty Fathom และ Longines Legend Diver ออกมาขาย แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยนิยมแนวทางนี้เท่าไร ก็เลยไม่สนใจอะไร กลับมาชอบเอากับนาฬิกาที่พวกเขาดีไซน์เองและดัดแปลงจากเคสตัวเรือนที่มีขายอยู่ในตลาดนาฬิกา ซึ่งแน่นอนว่ามีอยู่หลายรุ่นที่ผมชอบ แต่พอเลือกดีไซน์ให้ตรงกับงบฯ ที่ตั้งเอาไว้สำหรับการสัมผัส Homage Watch ต่อเรือนแล้ว มีแค่ Shark Diver 45 Brass เท่านั้นที่ผมไปถึงได้ ส่วนอีกรุ่นที่ชอบคือ Stingray นั้น ราคาทะลุไกลไปหน่อย
ผมพยายามหาข้อมูลของ Helson ซึ่งแน่นอนว่าหายากมาก โดยเฉพาะที่มาของพวกเขา แต่เท่าที่ทราบ พวกเขามีที่ตั้งในการส่งออกนาฬิกาเช่นเดียวกับ Maranez คือ ฮ่องกง รวมถึงการใช้แพ็คเกจและรูปแบบที่คล้ายกัน คือ เป็นกล่องทรงกระบอก ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นซองหนังแบบม้วนพับ โดยจากการค้นหานั้น สิ่งที่พบคือ Helson เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ชื่นชอบนาฬิกาดำน้ำและกลุ่มสปอร์ตจากยุโรปและเอเชีย โดยมีความต้องการสร้างสรรค์นาฬิกาที่มีความสวยและลงตัวแต่มีราคาสมเหตุสมผล โดยแบรนด์ก่อตั้งในปี 2009 ซึ่งนับถึงปัจจุบันก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมา 10 ปีพอดี
แล้วทำไมถึงรู้จักพวกเขา ?
น่าจะเมื่อสัก 5 ปีที่แล้ว ซึ่งผมเริ่มหันมาสนใจ Homage และ Bronze Watch และเมื่อเสิร์ชใน Google แล้ว ชื่อพวก Obris Morgan Helson Maranez และ Zixen (ซึ่งรายนี้ได้ข่าวว่าปิดกิจการไปแล้ว) โผล่ขึ้นมาและแน่นอนว่าผลงานของพวกเขาถูกจริตผมอย่างมาก ก็เลยตามดูห่างๆ แต่ยังไม่ได้สั่งเข้ามาลองเป็นเรื่องเป็นราว จนกระทั่งถึงตอนนี้
เอาเข้าจริงๆ แล้วในตระกูล Shark Diver ของ Helson มีทางเลือกที่มากมายไม่ว่าจะขนาดตั้งแต่ 38 40 42 และ 45 มิลลิเมตร รวมถึงวัสดุในใช้ในการผลิตตัวเรือนที่มีความแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ขนาดตัวเรือน ทั้ง Stainless Steel, Titanium, Brass, Bronze, Forged Carbon ไปจนถึง Tantalum ที่มีราคาเฉียด 200,000 บาทกันเลยทีเดียว แต่ผมเลือกจบที่ Shark Diver 45 ด้วยเหตุผลหลายอย่าง
อย่างแรกคือ ขนาด ซึ่งดูจากสเป็นแล้วเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มิลลิเมตรกับ Lug to Lug ขนาด 54 มิลลิเมตร ขัอมือขนาด 7 นิ้วของผมเอาอยู่แน่ๆ และน่าจะลงตัวกว่าไซส์ 42 มิลลิเมตร
อย่างที่ 2 ผมกำลังหาวิธีจัดการกองสายไซส์ 24 มิลลิเมตรที่เหลืออยู่เพียบด้วยการหานาฬิกามาเข้าคู่ และไซส์นี้เป็นรุ่นเดียวที่มีความกว้างขาสายระดับนี้
อย่างที่ 3 มีทางเลือกของวัสดุ Brass ที่ผมอยากจะลองดู ซึ่งจริงอยู่ที่รุ่น 40 และ 42 มิลลิเมตรมีขายด้วยเช่นกัน แต่ดูจากขนาดแล้ว…เราคงไปด้วยกันไม่ได้
อย่างที่ 4 ผมชอบขอบ Bezel ที่เป็น Brass ทั้งหมดและตัวเลข-หลักสเกลบนขอบเป็นแบบเซาะร่องลงไป ไม่ใช่นูนขึ้น
อย่างที่ 5 อยู่ในช่วงราคาที่จ่ายได้โดยไม่ลังเล ซึ่งอย่างที่บอก ถ้าจะลุยตลาด Homage Watch แล้ว ผมมักจะกันงบฯ เอาไว้ไม่เกิน 15,000 บาท หรือคิดเป็นเงินเหรียญก็ราวๆ บวกลบ 500 เหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น เพราะถ้าเกินจากนั้น ต้องผ่านด่านแรกก่อน นั่นคือเป็นรุ่นที่กระตุ้นต่อกระสันต์ของผมให้ได้ ชนิดที่เก็บไปนอนฝันถึงเป็นสัปดาห์ๆ และค่าตัว 399 เหรียญสหรัฐฯ บวกกับการใส่ Code ลด 15% เข้าไป มันก็ยังอยู่ในเงื่อนไขที่ตั้งเอาไว้ เพราะถ้าไปลุย Bronze แล้วราคามันทะยานเกินหลัก 1,000 เหรียญสหรัฐฯ เพราะมีการอัพสเป็กให้สูงขึ้นเป็นกลไก ETA
กับสเป็กตัวเรือน Helson Shark Diver 45 เป็นอะไรที่ลงตัวมากบนข้อมือ สวย หนา บึก และถึกอย่างที่ผมต้องการเลยทีเดียว และเมื่อหยิบเคสพลิกหน้าพลิกหลังดู สุดท้ายแล้วก็มาถึงบางอ้อ ว่ามันช่างคล้ายกับ Ancon Seashadow ที่ผมเคยครอบครองมาก่อน ต่างกันนิดหน่อยตรงที่ Crown Guard และการเจาะช่อง HEV-Helium Escape Valve ตรงด้านข้างตัวเรือนเท่านั้นเอง เพราะ Shark Diver 45 ระบุสเป็กบนหน้าปัดว่ากันแรงดันเทียบเท่า 10 บาร์ หรือ 1,000 เมตรเลยทีเดียว…ลงได้จริงหรือไม่นั้น ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้ลอง แต่ถือว่าถูกใจพวกบ้าตัวเลขความลึกอย่างผมนักแล
สิ่งหนึ่งที่อาจจะต้องเตือนนิดหน่อยสำหรับคนที่เคลิ้มไปตามการ Review ของผมคือ
อย่าเลือกถ้าข้อมือของคุณไม่ใหญ่พอ เพราะว่าตัวเรือนมีขาสายที่ค่อนข้างยาว (ดูได้จากตัวเลข Lug to Lug) แถมขาสายยังออกแบบให้กางออก และกว่าจะงุ้มลงมารับกับข้อมือก็เป็นแค่ส่วนปลายขาสายแล้ว ดังนั้น ถ้าต่ำกว่า 7 นิ้วผมว่ามีกางแน่ๆ แนะนำให้เลือกรุ่นที่เล็กลงไปแทน
ความต่างของ Brass กับ Bronze นั้น พอจะสังเกตได้ในระดับหนึ่งกับสีของพื้นผิวที่ Brass ดูค่อนข้างสว่างแบบอร่ามมากกว่า และเท่าที่ลองระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิวแล้ว ผมรู้สึกว่า Brass จะช้ากว่า เพราะผ่านการใช้งานมา 3 วันนั้น แทบจะไม่มีความเปลี่ยนแปลงให้เห็นเลย นอกจากแค่ ‘หม่น’ ลงเท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับ Bronze ในกลุ่ม CuSN8 ที่ผมมีประสบการณ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะต้องลองดูในระยะยาวสักหน่อยว่าจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน
ในแง่ของคุณภาพและความเนียนของตัวนาฬิกานั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้กับราคาที่จ่ายไป เอาเป็นว่า มีนาฬิกาเพียงไม่กี่เรือนที่คุณจ่ายไปในระดับหมื่นนิดๆ แล้ว ทำให้ดูเด่นขึ้นมา เพราะถ้าเป็นพวกมีแบรนด์ ราคานี้บอกได้เลยว่า หายากมาก
ที่สำคัญคือ สเป็กของตัวนาฬิกาไม่ขี้เหร่เลย ฝาหลังแบบไทเทเนียม กระจกแบบ Sapphire หนา 3.5 มิลลิเมตร พร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสงด้านใน พรายน้ำแบบ SuperLuminova กันน้ำได้ 1,000 เมตร และกันสนามแม่เหล็กในระดับ 70,000 A/m เชื่อเลยว่าคุณไม่มีทางหานาฬิกาสเป็กดีขนาดนี้กับแบรนด์เนมที่มีราคาในช่วงนี้อย่างแน่นอน
ส่วนในเรื่องดีไซน์นั้น ถ้าไม่นับเคสที่มีความคล้ายกับบางแบรนด์อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ถือว่า ‘สอบผ่าน’ ตามรสนิยมของผม และในจังหวะที่เลือกซื้อผมแค่ไม่ได้เรือนที่ต้องการอย่างหน้าปัดเขียวแบบ No Date เพราะมัน Out of Stock ไปก่อน แต่หน้าปัดดำกับพรายน้ำสีส้มก็เป็นอะไรที่รับได้และลงตัวอย่างมาก
อีกอย่างที่ผมค่อนข้างชอบคือ ชุดเข็มที่ออกแบบมาในสไตล์นาฬิกาดำน้ำอย่างแท้จริง คือ เข็มนาทีจะใหญ่กว่า หรือ Plongeur Hands เพื่อง่ายต่อการดูและจับเวลาตอนอยู่ใต้น้ำ และการใช้ฟอนต์ชื่อรุ่นและการจัดวางตัวอักษรบนหน้าปัดถือว่าดูดี และ ‘ไม่เยอะจนล้น’ เหมือนกับบางแบรนด์
สำหรับกลไกนั้น ที่ผ่านมา Helson จะเลือกใช้ Miyota กับ ETA เป็นหลัก เพื่อเป็นการแบ่งเกรดของราคา แต่พักหลังในเมื่อ NH ของ Seiko ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่ม Homage Watch ทาง Helson ก็เลยหันมาใช้ทางเลือกนี้แทน ซึ่งตรงนี้หมดห่วงในเรื่องของการดูแล หรือจะต้องยกเครื่องเมื่อเสียทั้งยวง เพราะถือเป็นกลไกสามัญที่หาตามท้องตลาดได้ในราคาไม่แพง โดยใน Shark Diver 45 เป็นกลไก NH35 หรือ 4R35 ที่เราคุ้นเคยกันดีใน Seiko แบบมีเฉพาะ Date อย่างรุ่น Samurai
เขียนมาตั้งไกลมีแต่การชม แต่ที่ไม่ถูกใจมีบ้างไหม ?
มีแน่นอน อย่างแรกคือ ชุด Lug Bar ที่เป็นแบบไขล็อกหรือ Hex Lug Bar ค่อนข้างยุ่งยากในการเปลี่ยนสาย เพราะต้องใช้ไขขวงแบบพิเศษ ซึ่งแม้จะมีแถมมาให้ แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น น็อตหาย หรือลืมเอาไขควงมา ถือเป็นอันจบข่าว แถมในเซ็ตก็ไม่แถม Hex Lug Bar สำรองมาด้วย ต้องสั่งซื้อชุดละ 20 เหรียญสหรัฐฯ แยกต่างหาก
อย่างที่ 2 คือ ของแถมในเซ็ต ซึ่งบ่นไปเรื่อง Hex Lug Bar แล้ว อีกอย่างเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Maranez แล้ว Helson ค่อนข้างสปอร์ตน้อยกว่า เพราะมีให้แค่สายยางสีดำ ขณะที่ Maranez แถมสายหนังพร้อมบัคเคิล Brass มาให้ด้วยในชุด จริงอยู่ที่เป็นสายหนังที่ดูแล้วคุณภาพพอประมาณ แถมยังบางๆ แต่มันก็ช่วยได้ระดับหนึ่งในแง่การให้คะแนนความประทับใจยามเปิดกล่องออกมาเป็นครั้งแรก
อย่างที่ 3 คือ ความมั่นใจในคุณภาพ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นหลักที่คนซึ่งสนใจเดินเข้าสู่โลกของ Homage Watch ต้องทำใจให้ได้ เพราะในแง่ของ QC นั้นอาจจะเป็นรองนาฬิกาที่มีแบรนด์ซึ่งมีการควบคุมคุณภาพสินค้าอยู่ เพราะส่วนใหญ่แล้ว Homage Brand คงไม่มีไลน์ผลิตของตัวเองอยู่แล้ว และจ้างบรรดา OEM ทั้งหลายในการจัดการซึ่งทาง Helson เองก็เคยเจอกับปัญหาในเรื่องของน้ำเข้าหลังจากใช้งานไป แต่นั่นคือ ช่วงแรกๆ ที่เขากำลังรุกตลาด และผมก็ได้แต่มั่นใจว่าทุกอย่างน่าจะได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่เปิดเว็บขายมาจนถึงตอนนี้อย่างแน่นอน
บทสรุปของการผจญภัยในโลกของ Homage Watch ของผม แน่นอนว่ายังมีไปเรื่อยๆ เพราะยังรู้สึกสนุกไปกับมัน โดยเฉพาะการค้นหานาฬิกาสวยๆ สเป็กดีในราคาที่จับต้องได้สำหรับคนงบฯ น้อยอย่างผม ซึ่งผมว่าตรงนี้แหละคือเสน่ห์ที่มีอยู่ใน Homage Watch และเป็นตัวขับเคลื่อนให้วงการนี้ยังเดินต่อไปเรื่อยๆ
รายละเอียดทางเทคนิค : Helson Shark Diver Brass 45
เส้นผ่านศูนย์กลาง : 45 มิลลิเมตร พร้อม HEV
ความหนา : 18 มิลลิเมตร
Lug to Lug : 54 มิลลิเมตร
ความกว้างขาสาย : 24 มิลลิเมตร
ฝาหลัง : ไทเทเนียม
กระจก : Sapphire หนา 3.5 มิลลิเมตร เคลือบสารกันการสะท้อนแสงด้านใน
กลไก : Seiko NH35 พร้อมทับทิม 24 เม็ด
ความถี่ : 21,600 ครั้ง/ชั่วโมง
สำรองพลังงาน : 41 ชั่วโมง
การกันน้ำ : 1,000 เมตร
ประทับใจ : ดีไซน์ สเป็กที่คุ้มค่ากับราคา
ไม่ประทับใจ : รูปแบบของ Lug Bar ที่ไม่ค่อยสะดวกในการเปลี่ยนสาย
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/