บอกเลยว่าสำหรับนาฬิกาบางเรือน แม้ว่าจะมีฟังก์ชั่นเพียบ แต่บางครั้งก็โดนบดบังโดยเรื่องของการออกแบบ และประเด็นที่โดดเด่นในด้านอื่น เหมือนอย่างที่ Hamilton Khaki X-Wind Day/Date เป็น
Hamilton Khaki X-Wind Day/Date ดีไซน์สวยจนลืมฟังก์ชั่น
- นาฬิกานักบินขนาด 45 มิลลิเมตรที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นคำนวนมุมการดริฟท์ขณะกำลังแล้นดิ้ง
- กลไก H-30 มาพร้อมการสำรองพลังงานที่เยอะถึง 80 ชั่วโมง
- ราคายังไม่หักส่วนลดอยู่ที่ 41,000 บาท
ถ้าพูดถึงนาฬิกาในไลน์อัพ Khaki ของ Hamilton แล้ว หลายคนอาจจะนึกแค่เฉพาะในกลุ่ม Field Watch ซึ่งเป็น Iconic ของแบรนด์เป็นหลัก แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ผมกลับคิดว่าในคอลเล็กชั่นนี้ของพวกเขายังมีนาฬิกาในกลุ่ม Aviation หรือพวกที่เกี่ยวข้องกับการบินเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะการผสมผสานระหว่างฟังก์ชั่นกับสไตล์การออกแบบที่สะดุดตาเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว
สารภาพตามตรงเลยว่าในกลุ่มนี้ผมชอบตัว Take-Off Chronograph มาก ไม่ใช่เพราะแค่หน้าตาที่สวยและการออกแบบในสไตล์ Bullhead ด้วยการวางเม็ดมะยมและ Pusher เอาไว้ในตำแหน่ง 12 นาฬิกาเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของลูกเล่นในการใช้งาน ซึ่งคุณสามารถดึงตัวเรือนออกจากเบ้าที่มาพร้อมกับสายคาดบนข้อมือแล้วเอาไปวางหน้าปัดเครื่องบินหรืออะไรยานพาหนะอะไรก็ตามที่คุณต้องการใช้นาฬิกาสำหรับจับเวลา…แต่ที่ต้องทำเมินไปก่อนก็คงติดเรื่องเดียวแหละ คือ งบฯ ลับที่ได้มายังไม่สามารถพาไปถึงฝั่งได้
นั่นก็เลยต้องทำให้มองหาทางเลือกใหม่และมาพบเข้ากับ Khaki X-Wind Day/Date ที่อยู่ภายใต้วงเงินที่ผมสามารถเอื้อมมือไปถึงได้ในตอนนั้น
สารภาพ (อีกครั้ง) ว่าสิ่งที่ทำให้ X-Wind อยู่ในความสนใจของผมนั้นคงไม่ใช่แค่ราคาซึ่งตามป้ายยังไม่หักส่วนลดอยู่ที่ 41,000 บาท แต่เป็นเรื่องของความลงตัวในแง่งานดีไซน์ที่ Hamilton ทำให้ Tool Watch เรือนนี้สามารถเข้ากับข้อมือมนุษย์เงินเดือนของผมได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องบินขับก็ได้
สำหรับในแง่ของฟังก์ชั่น ต้องบอกเลยว่า Hamilton พัฒนานาฬิกาเรือนนี้ขึ้นมาเพื่อสำหรับการใช้งานจริงของพวกนักบิน ซึ่งข้อดีในแง่ของการพัฒนาคือ Hamilton ทำงานร่วมกับหน่วยบินหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงการสนับสนุนนาฬิกาให้กับบางหน่วยบินในบางประเทศ ทำให้เปิดช่องทางที่ทำให้ Hamilton สามารถเข้าถึงความต้องการของนักบินเหล่านี้ในการนำมาพัฒนาระบบเพื่อใช้กับนาฬิกาที่เกิดมาเพื่ออาชีพนี้ ซึ่ง X-Wind คือหนึ่งในระบบที่ว่า
การทำความเข้าใจกับการทำงานของฟังก์ชั่น Cross-Wind ของตัวนาฬิกา (ซึ่งเป็นชื่อที่ถูกนำมาใช้ในการตั้งชื่อรุ่น และอย่าเผลอไปเรียก เอ็กซ์-วินด์เข้าละ ที่ถูกต้องคือรุ่นครอสส์-วินด์) คุณอาจจะต้องเอาแมนนวลมานั่งอ่าน และด้วยความรู้ความ สามารถของผมที่มีอยู่แค่ทักษะการควบคุมยานพาหนะแบบเดียวนั่นคือรถยนต์ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ถือว่ายากเอาเรื่อง และอยากจะบอกว่าเป็นฟังก์ชั่นที่โอกาสที่จะได้ใช้นั้นยากมากถ้าคุณไม่ใช่นักบิน
เอาเป็นว่านั่งดาวน์โหลดแมนนวลมาอ่าน ก็ยังไม่เข้าใจสักที รู้แต่ว่า Cross-Wind คือ กระแสลมพัดขวางทางวิ่งของเครื่องบิน หรือกระแสลมที่ผ่านทางด้านข้างนั่นเอง ที่อาจจะทำให้ตัวเครื่องบินเฉออกทางด้านข้าง หรือมีอาการ Drift ในจังหวะที่กำลังไต่ระดับเพื่อจะลงจอดได้ ถ้าแรงมากอาการจะออกคล้ายๆ กับรถกำลังดริฟท์เลย
การคำนวนค่าพวกนี้บนนาฬิกาจะทำงานผ่านทางเม็ดมะยมในตำแหน่ง 2 และ 4 นาฬิกาซึ่งจะทำหน้าที่ควบคุมการหมุนวงแหวนที่อยู่ข้างในหน้าปัด และเทียบกับสเกลที่เป็นกราฟตารางซึ่งอยู่บนฝาหลัง
นั่นคือฟังก์ชั่นหลักของนาฬิกาเรือนนี้ ซึ่งผมบอกได้คำเดียวว่า ชีวิตนี้ผมคงไม่ได้ใช้งานแน่ๆ แต่ตรงนี้กลับไม่ใช่สิ่งที่ผมประทับใจกับนาฬิกาเรือนนี้มากเท่ากับดีไซน์และสไตล์การออกแบบ ที่เรียกว่าโดนใจทันทีที่แรกเห็นภาพในอินเตอร์เนต
ถ้าถามผมว่าอะไรในแง่การออกแบบที่โดนใจผม คำตอบคงเป็นเรื่องของรูปทรงของเข็มในลักษณะที่คล้ายกับดาบของชุดเข็มชั่วโมงและนาที โดยที่ปลายของเข็มทั้ง 2 เป็นสีขาว ซึ่งรูปทรงของชุดเข็มนี้ทำให้ชวนนึกถึงเข็มของพวกมาตรวัดที่อยู่บนหน้าปัดของเครื่องบิน ขณะที่อีกจุดคือ การเลือกใช้ฟอนต์ของหลักชั่วโมงที่โชว์อยู่บนหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งทำให้ดูลงตัวอย่างมากเวลาอยู่บนข้อมือ รวมถึงการใช้สีส้มเป็นตัวสร้างสีสันบนหน้าปัดทั้งบนมาร์คเกอร์ในฟังก์ชั่น Cross-Wind และปลายเข็มวินาที
และสารภาพ (อีกครั้งและอีกครั้ง) กับบางทีแค่จุดเล็กๆ เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ผมต้องเสียเงินมาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งก็รวมถึงครั้งนี้ด้วย
ตัวนาฬิกามากับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มิลลิเมตร และมี Lug-to-Lug ราวๆ 50 มิลลิเมตร ซึ่งดูแล้วอาจจะใหญ่ และเมื่อคาดอยู่บนข้อมือ 7 นิ้วของผมแล้วถือว่าโอเคเลย ดูเต็มข้อ ส่วนใครที่กังวลว่าจากการที่ Hamilton Khaki X-Wind Day/Date เป็นพวกขับซ้าย เพราะเม็ดมะยมถูกย้ายมาฝั่งซ้าย (เช่นเดียวกับหน้าต่างแสดง Day/Date ที่ย้ายมาอยู่ในตำแหน่ง 9 นาฬิกา) จะทำให้เกิดความรำคาญเวลาที่สวมอยู่บนข้อมือซ้ายของคนถนัดขวา งานนี้บอกได้เลยว่าไม่ต้องเป็นกังวลใดๆ เพราะการที่ออกแบบเม็ดมะยมไม่ยาวมาก และตัวนาฬิกาเองก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่อะไรมากมาย ก็เลยไม่ส่งผลในการทิ่มหรือแทงเข้ากับเนื้อในขณะสวมใส่
จริงๆ แล้ว ผมคิดว่า Hamilton คงไม่ได้ต้องการออกแบบให้นาฬิกาเรือนนี้เกิดมาเพื่อคนถนัดซ้ายซึ่งมีประชากรน้อยกว่าคนถนัดขวา แต่ปุ่มหมุน 2 ปุ่มที่ควบคุมการหมุนเพลทวงที่อยู่ในตัวนาฬิกาน่าจะเป็นสิ่งที่ถูกใช้งานบ่อยมากกว่าการตั้งเวลานาฬิกา ดังนั้นการวางปุ่ม 2 ปุ่มนี้เอาไว้ฝั่งขวาย่อมจะดีกว่าในแง่ของความสะดวกในการใช้งานเวลาที่นักบินต้องการหมุนเพลทเพื่อการคำนวนเวลาที่นาฬิกายังคาดอยู่บนข้อมือ ผมก็เลยเดาเอาว่ามันเลยกลายเป็นไฟท์บังคับให้เม็ดมะยมต้องโดนย้ายมาอยู่อีกฝั่งไปโดยปริยาย
ส่วนขาสายมีความกว้าง 22 มิลลิเมตรก็หาสายทดแทนสวยๆ มาใส่ได้ตามความต้องการเพราะถือเป็นสายมาตรฐานที่หาได้ตามท้องตลาด ซึ่งตรงนี้ผมแนะนำนะว่าให้เปลี่ยนซะ เพราะหลังจากได้ลองแล้วรู้สึกว่าสายเดิมจะเสียดสีเข้ากับตัวเรือนและส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดอยู่ตลอดเวลาเหมือนเวลาคุณสวมรองเท้าพื้นยางแล้วเดินบนพื้นหินขัดหรือปาร์เก้ แล้วมันมีเสียงเสียดสี…อารมณ์ประมาณนั้นเลย เพียงแต่เรื่องของการใช้เข็มขัดติดกับนาฬิกาอาจจะลำบากหน่อย ถ้าไม่สั่งตัดพิเศษ เพราะหัวเข็มขัดมากับเข็มแบบ 2 ขาที่ดูแล้วเหมือนกับตัว H
กลไกถือเป็นอีกจุดเด่นของ Hamilton และคงต้องบอกว่าจากการที่พวกเขาอยู่ในเครือ Swatch Group นั้น ทำให้สามารถที่จะใช้ทรัพยากรของแบรนด์ต่างๆ ในเครือนี้มาต่อยอดในการพัฒนา ซึ่งนั่นหมายความว่ากลไกอัตโนมัติ H-30 ที่วางอยู่ใน Khaki X-Wind Day/Date เป็นการพัฒนาอยู่บนพื้นฐานของกลไก ETA 2836-2 มีการการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนหลายจุด และให้มีจุดเด่นในเรื่องของการสำรองพลังงานที่มากถึง 80 ชั่วโมง
กับขนาดที่ลงตัว กลไกที่เชื่อถือได้และมีถังพลังงานที่เยอะเอาเรื่อง บวกกับงานดีไซน์ที่สวยถูกใจ แค่นี้ก็ทำให้ผมแทบลืมประโยชน์ของฟังก์ชั่นที่มีอยู่ในตัวนาฬิกาไปเลย แม้ว่าบางคนอาจจะบอกว่าไม่คุ้มเท่าไรกับการที่จ่ายเงินในระดับนี้ แต่ไม่สามารถใช้ฟังก์ชั่นได้อย่างเต็มที่
ก็ไม่เถียงตรงนี้นะ แต่ผมคงต้องถามกลับสักหน่อยว่า กับนาฬิกาที่จ่ายเงินซื้อมา จะมีกี่คนที่ใช้งานฟังก์ชั่นที่ติดตัวมาอย่างเต็มที่ เพราะในปัจจุบัน ผมคิดว่าการสวมนาฬิกาข้อมือของคนส่วนใหญ่คือการบ่งบอกอะไรบางอย่างมากกว่าการใช้งานเสียอีก หรือแม้แต่หน้าที่หลักในดูเวลา บางคนยังโยนหน้าที่นี้ไปให้กับสมาร์ทโฟนเลย ทั้งที่บนข้อมือซ้ายของตัวเองยังคาดนาฬิกาอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าไปกังวลอะไรกับมันมาก
รายละเอียดทางเทคนิค : Hamilton Khaki X-Wind Day/Date
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง : 45 มิลลิเมตร
Lug-to-Lug : 50 มิลลิเมตร
ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
ตัวเรือน : Stainless Steel
ระดับการกันน้ำ : 100 เมตร
กระจกหน้าปัด : Sapphire
กลไก : H-30 สำรองพลังงาน 80 ชั่วโมง
ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
- ประทับใจ : คุณภาพงาน ชุดเข็ม ขนาดที่ลงตัว กลไกที่เชื่อถือได้และมีถังพลังงานที่เยอะเอาเรื่อง
- ไม่ประทับใจ : เสียงดังจากความฝืดของสายหนัง
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/