Hamilton Intra-Matic Auto Chrono ถึงเวลารุ่นธรรมดาแล้ว

0

ในที่สุด Hamilton ก็ลุยตลาด  Chronograph อีกครั้งด้วยการเปิดตัว Instra-Matic Auto Chrono ที่เป็นรุ่นธรรมดาไม่มีการตอกเลขใดๆ พร้อมหน้าปัด Panda แต่ที่ขัดใจ คือ ขนาดลดลงมาอีก 2 มิลลิเมตรจากรุ่น Inta-Matic 68

- Advertisement -

Hamilton Intra-Matic Auto Chrono ถึงเวลารุ่นธรรมดาแล้ว

  • เปิดตัวรุ่นธรรมดาไม่ Limited Edition
  • ลดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางลงเป็น 40 มิลลิเมตร
  • หน้าปัดแบบ Panda และตั้งราคาเท่ากับ Intra-Matic 68

ดูทรงว่าการเปิดตัวของ Intra-Matic 68 ที่เป็น Re-issue ของรุ่นคลาสสิคที่เปิดตัวเมื่อปี 1969

จะเป็นการทดลองตลาดของ Hamilton เพราะสุดท้ายแล้วพวกเขาเลือกเปิดตัวอีกรุ่นออกสู่ตลาด และคราวนี้ไม่ใช่ Limited Edition เหมือนกับรุ่นแรก

แต่เป็นรุ่นที่วางขายธรรมดาในชื่อ Hamilton Intra-Matic Auto Chrono. พร้อมกับหน้าปัดขาวดำในสไตล์ Panda Dial ไม่ใช่ Reverse Panda Dial เหมือนกับรุ่นที่เปิดตัวออกมาก่อน

แน่นอนว่าตรงนี้สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับบรรดาคนที่รักนาฬิกา Chronograph และพวกที่ชอบของใหม่ แต่มีกลิ่นอายของความสำเร็จในอดีต เพราะ Intra-Matic Auto Chrono. ถอดแบบรุ่นปี 1968 ที่ชื่อว่า Chrono-Matic Chronograph A ที่มาพร้อมหน้าปัดย่อยสีดำบนพื้นหน้าปัดสีขาว (ขณะที่รุ่น Intra-Matic 68 ตัว Limited Edition ยึดหน้าปัดของรุ่น Chronograph B)

สิ่งที่น่าสนใจคือ ดูเหมือนว่า Hamilton จะแคร์เสียงบ่นของลูกค้าที่มีต่อ Intra-Matic 68 ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตรว่ามันใหญ่ไปหน่อย น่าจะทำไซส์ใกล้เคียงกับรุ่นดั้งเดิมที่มีตัวเลข 36 มิลลิเมตร เพราะในรุ่น Hamilton Intra-Matic Auto Chrono. ก็เลยเดินทางสายกลางกับขนาดที่กำลังดี โดยมีการลดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางลงมาอยู่ที่ 40 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งก็ยังดีที่ไม่ลงไปเยอะกว่านี้ เพราะไม่อย่างนั้น คนข้อมือใหญ่อย่างผมอาจจะต้องทำใจเมินหน้าหนี ส่วนความกว้างของขาสายก็ 22 มิลลิเมตร

ส่วนกลไกก็ยังเหมือนเดิมเป็นงานของรหัส H-31 ที่ดัดแปลงมาจาก ETA7753  มีทับทิม 27 เม็ด เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง และสามารถสำรองพลังงานได้ 60 ชั่วโมง แถมด้วยระบบ Quick Set สำหรับวันที่ โดยการจิ้มที่ร่องด้านข้างตัวเรือนตรงตำแหน่ง 10 นาฬิกา

สำหรับราคาป้ายอยู่ที่ 2,150 ฟรังก์สวิสส์ เท่ากับตัว Intra-Matic 68 และว่ากันว่าในตลาดเมืองนอกเริ่มขายและมีขึ้นในเว็บของ Hamilton แล้ว ส่วนบ้านเราก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเข้ามาเมื่อไร