Hamilton Murph Watch คุ้มค่า 5 ปีแห่งการรอคอย

0

หลังจากปรากฏในฉากของภาพยนตร์เรื่อง Interstellar ในที่สุด Hamilton (แฮมิลตัน) ก็จัดการผลิต Murph Watch ออกสู่ตลาดสักทีเมื่อปี 2019 และแน่นอนว่านี่คือ นาฬิกาอีกเรือนที่มีทั้งเรื่องราว หน้าตา และสเป็กที่น่าสนใจ ซึ่งอยู่ในระดับราคาที่สามารถจับต้องได้

- Advertisement -

Hamiltom Murph Watch

Hamilton Murph Watch คุ้มค่า 5 ปีแห่งการรอคอย

  •  5 ปีหลัง Interstellar ออกฉาย ทาง Hamilton จึงจัดการส่ง Murph Watch ออกสู่ตลาด

  • 2,555 ชุดคือ Murph Watch ที่มาพร้อมกับแพ็คเกจที่ออกแบบ Nathan Crawley

  • ราคาจำหน่ายในเมืองไทย 36,200 บาท

เมื่อปี 2014 นอกจากจะมีภาพยนตร์มหากาพย์ทางอวกาศอย่าง Interstellar ออกฉายทั่วโลกแล้ว บรรดาแฟนๆ ของ แฮมิลตัน ยังได้เห็นนาฬิกาเรือนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ พร้อมกับตั้งคำถามว่า มันคือนาฬิกาอะไร ? บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นไม่มีใครรู้รหัสรุ่นพราะในสารบบนาฬิกาที่วางขายของ แฮมิลตัน อยู่ในตอนนั้น ไม่มีนาฬิกาเรือนนี้รวมอยู่ด้วย และทุกคนตั้งชื่อมันว่า Murph Watch ตามชื่อตัวละครในเรื่อง และต้องรอนานถึง 5 ปีหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย แฮมิลตัน ถึงผลิตออกมาขาย

ก่อนจะไปถึงเรื่องของนาฬิกา มาทำความรู้จัก Murph Watch ผ่านเรื่องราวท่องอวกาศของเด็จพ่อ Nolan (Christopher Nolan ผู้กำกับ) กันก่อน ซึ่งตามปกติแล้ว แฮมิลตัน ถือเป็นแบรนด์นาฬิกาที่มีความเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์อยู่เสมอ และในตอนนั้นพวกเขาส่งนาฬิกา 2 เรือนเข้าฉากนั่นคือ Khaki Field Aviation Pilot Day Date Ref. H64615135 ทื่ Matthew McConaughey ที่รับบทเป็นพ่อสวมใส่อยู่และนาฬิกาอีกเรือนที่อยู่ในกลุ่ม Khaki Field แต่ไม่ปรากฏในสารบบที่เขามอบให้กับลูกสาวในวัยเด็กที่รับบทโดย McKenzie Foy

ในตอนนั้นนาฬิกาคู่นี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อนาฬิกาพ่อ-ลูก และเวลาต่อมานาฬิกาปริศนาที่อยู่ในฉากก็ถูกตั้งฉายาให้ว่าเป็น Murph Watch ตามชื่อตัวตัวละคร Murphy Cooper ก่อนที่จะกลายมาเป็น Hamilton Khaki Field Ref. H70605731 ในเวลาต่อมา

Hamiltom Murph Watch

สารภาพเลยว่ามีอยู่ 2 เรื่องที่ทำให้ผมตัดสินใจสอย Murph Watch แน่นอนว่าอย่างแรกคือความประทับใจที่มีต่อภาพยนตร์ของ Nolan แม้ว่าจะต้องดูตั้ง 3 รอบกว่าที่จะเก็บรายละเอียดได้ทั้งหมด และอีกเรื่องคือความชอบส่วนตัวที่มีต่อ Jessica Chastain ดาราสาวชาวอเมริกันที่รับบท Murphy Cooper ตอนโต ส่วนหน้าตาของนาฬิกานั้นก็มีส่วนนะ แต่ยังเป็นสัดส่วนที่มีเปอร์เซ็นต์น้อยกว่า 2 เรื่องข้างต้น อ่านถึงตรงนี้แล้วใครที่คิดว่าภาพยนตร์และสิ่งที่อยู่ในนั้นจะไม่มีผลในแง่ของการตัดสินใจซื้อนาฬิกาสักเรือนสำหรับใครสักคน อาจจะต้องคิดกันใหม่ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมอาจจะเห็นด้วย แต่ตอนนี้คงต้องเถียงหัวชนฝา เพราะโดนกับตัวมาแล้ว

แม้ว่าในเรื่อง ตัวละครที่มอบนาฬิกาให้จะเป็นนักบิน (ซึ่งมันควรจะเป็นนาฬิกาที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของพวกเขาสิ) แต่เมื่อถึงเวลาขายจริงแล้ว Murph Watch อยู่ในกลุ่มของนาฬิกา Field Watch ไปซะงั้น แต่ไม่ว่าจะอยู่ในเซ็กเมนต์ไหน สิ่งที่ Hamilton ทำคือ การถอดแบบรูปลักษณ์และรายละเอียดของนาฬิกาจากในภาพยนตร์ออกมาอย่างครบถ้วนและน่าประทับใจ

นอกจากนั้นเฉพาะ 2,555 เรือนในโลกเท่านั้นที่มีความพิเศษกับแพ็คเกจซึ่งออกแบบโดย Nathan Crawley ซึ่งเป็น Product Designer ของภาพยนตร์ และมีส่วนในการออกแบบนาฬิกาสุดอลังการของ Hamilton อย่างรุ่น ODC-X03 มาแล้ว ซึ่งแพ็คเกจของ Crawley คือการนำไอเดียของบาศก์ 4 มิติที่อยู่ในภาพยนตร์มาใช้ในการออกแบบกล่อง โดยแถบสีที่อยู่บนกล่องนั้นทำให้นึกถึงเสี้ยวเวลาที่ Cooper ผู้พ่อเข้าไปติดอยู่ในบาศก์ 4 มิติและพบว่าสามารถสื่อสารกับ Murph ลูกสาวของตัวเองได้ผ่านกาลเวลา โดยใช้รหัสมอสส์ในการสื่อสาร ซึ่งตรงนี้ก็สื่อออกมาผ่านทางเข็มวินาทีของว Murph Watch ที่มีการใส่รหัสมอสส์ของคำว่า Eureka หรือ ‘ฉันพบแล้ว’ เข้าไป

ตรงนี้เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ตรงที่ Cooper ได้ส่งข้อความผ่านเข็มวินาทีที่มอบให้กับลูกสาวด้วยรหัสมอสส์ ซึ่งเป็นข้อมูลควอนตัมที่จะช่วยให้มนุษยชาติสามารถหนีจากการจบชีวิตในโลก ซึ่งเมื่อ Murph สามารถเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อและสามารถถอดสูตรออกมาได้ เธอก็ตะโกนคำว่า ‘Eureka’ ออกมา เหมือนกับที่อาร์คิมิดิส ปรัชญาเมธีแห่งเมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandria) และ ” บิดาแห่งวิชากลศาสตร์ ” (The Father of Mechanics) ได้ตะโกนออกมาเมื่อ 287 ปีก่อนคริสตกาลตอนที่เขาค้นพบวิธีหาปริมาตรของมงกุฎเพื่อยืนยันว่าช่างทองที่ทำมงกุฎไม่ได้โกงเรื่องน้ำหนักทองที่ใช้ทำ และกลายมาเป็นเรื่องของการหาความถ่วงจำเพาะ หรือหลักของอาร์คิมิดิสในเวลาต่อมา

สำหรับจำนวนของกล่อง 2,555 ชุด (เมืองไทยทราบมาว่าเข้ามาเพียง 50 ชุด) นั้น ตัวเลขที่นำมาใช้เป็นตัวเลขของวันบนพื้นโลกหรือ 7 ปีซึ่งเท่ากับระยะเวลา 1 ชั่วโมงของดาวเคราะห์ยักษ์ที่ Cooper นำยานลงจอด

  นี่คือเรื่องราวของภาพยนตร์และความเชื่อมโยงกับนาฬิกา Murph Watch ซึ่งจะเห็นได้ว่า น่าสนใจและกลายเป็นเรื่องเล่าชั้นดีไม่แพ้พวกนาฬิกาที่มีตำนานทั้งหลาย

กลับมาที่ Murph Watch แน่นอนว่าถ้าผมบอกว่ามันเป็นนาฬิกาสามัญประจำบ้านที่ควรจะมี ก็ดูจะเป็นการเข้าข้างจนออกนอกหน้าจนเกินไป ทั้งที่จริงๆ แล้วนาฬิกาเรือนนี้สมควรอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลหลายอย่างด้วยกัน เช่น

-ขนาดตัวเรือนที่พอเหมาะกับทุกขนาดข้อมือ สำหรับตัวผมเองที่มีข้อมือไซส์ 7 นิ้วนั้น ตอนแรกก็หวั่นๆ กับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางระดับ 42 มิลลิเมตรของมันว่าเมื่อถูกขึ้นข้อแล้วจะโอเคไหม แต่เมื่อดูจากข้อมูลส่วนอื่นๆ ประกอบกัน โดยเฉพาะค่า Lug to Lug ที่มีระดับ 52 มิลลิเมตรเข้าร่วมด้วยนั้น บอกเลยว่า เหมาะสมและกำลังดีเลย สำหรับคนที่มีข้อมือ 6.5-7.5 นิ้ว เรียกว่าไม่เล็กหรือไม่ล้นจนเกินไป ส่วนความหนาระดับ 11.2 มิลลิเมตรนั้น แรกๆ จากอารมณ์ที่เคยใส่เฉพาะนาฬิกาหนาๆ อาจจะทำให้เกิดความไม่คุ้นชิน แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้เป็นประเด็นที่ทำให้เกิดอาการคาใจแต่อย่างไร

-ความกว้างขาสาย 22 มิลลิเมตร ถือเป็นขนาดมาตรฐานสำหรับคนที่ชอบเล่นสายหนัง และด้วยตัวเรือนขนาดกำลังดีและหน้าปัดสีดำ ทำให้คนที่เกิดอาการ ‘คัน’ อยากเปลี่ยนสายนั้น สามารถทำได้ตามความต้องการ และสายขนาดความกว้าง 22 มิลลิเมตรนั้นหาง่าย มีทางเลือกเยอะแยะ  ขณะที่สายเดิมที่เป็นหนังวัวปั๊มลายนั้น สารภาพเลยว่าไม่ถูกใจอย่างแรงทั้งในเรื่องของลวดลาย รูปทรงของสายที่เป็นแบบนูนกลาง และความแข็งของสายที่ทำให้สวมแล้วไม่สวยและสบายข้อมือสักเท่าไร เอาเป็นว่าผมยอมจ่ายอีกพันนิดๆ แล้วหาสายหนัง 22/20 สีน้ำตาลสวยๆ มาเปลี่ยนบุคลิคของ Murph Watch ของตัวเองดีกว่า

Hamiltom Murph Watch

-กลไก 80 ชั่วโมง !!! ใช่แล้วการอยู่ในเครือ Swatch Group นั้น มีประโยชน์ตรงนี้แหละในการสามารถแชร์ Know How และอะไรหลายๆ อย่างร่วมกับแบรนด์ในเครือ เรียกว่าประหยัดทั้งต้นทุนในแง่ของตัวเงินและระยะเวลาในการพัฒนาอะไรบางอย่าง สำหรับบางคนที่เป่นพวกซีเรียสที่เน้นแต่คำว่า In-House ก็ต้องบอกว่า H-10 ก็ In-House เหมือนกัน เพราะใช้พื้นฐานของ ETA 2824-2 ที่อยู่ในเครือ และการพัฒนาก็ทำโดยบริษัทในเครือ แต่ส่วนตัวเรื่องพวกนี้ผมเฉยๆ และยังไม่ถึงกับอินเท่าไร

Hamiltom Murph Watch

กลไก H-10 ถูกลดความถี่ในการเดินจาก 8 ครั้งต่อวินาทีมาอยู่ที่ 6 ครั้งต่อวินาที ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ต้องมีสูญเสียในเรื่องความเนียนของเข็มในการเดินไป แต่แลกมากกับการปรับให้ตัวนาฬิกาสามารถรับมือกับการสำรองพลังงานที่เพิ่มขึ้นจาก 38 มาเป็น 80 ชั่วโมง ซึ่งบอกเลยว่าถูกใจ และคุ้มสุดๆ กับนาฬิการะดับ 3 หมื่นกลาง แต่กำลังสำรองมากถึงระดับนี้ ส่วนความเที่ยงตรงนะหรือ ? ก็ตามมาตรฐานครับ +/-15 วินาทีต่อวัน ซึ่งส่วนตัวผมรับได้เช่นกันกับนาฬิการะดับราคาช่วงนี้

-ดีไซน์บนหน้าปัด เอาจริงๆ นะ ผมไม่ค่อยชอบเข็มรูปทรง Cathedral แบบที่มีปลายเข็มเหมือนกับปลายยอดของพวกโบสถ์แถบยุโรปสักเท่าไร เพราะมันดูโบราณและดูทีไรภาพของ Rolex Submariner มักจะลอยขึ้นมาทุกที แต่สำหรับ Murph Watch แล้ว เมื่อบวกกับการเลือกโทนสีของพรายน้ำ และการดีไซน์ภายรวมบนหน้าปัดทั้งฟอนต์หลักชั่วโมง และเลย์เอาท์ในการวางตัวหนังสือ และการเป็นนาฬิกา No Date บอกเลยว่าความคิดตรงนี้เปลี่ยนไปทันที

ส่วนเรื่องที่ไม่ค่อยชอบนั้น นอกจากคุณภาพและรูปทรงของสายแล้ว อีกสิ่งที่ไม่ค่อยถูกใจ แต่บางคนอาจจะถูกใจคือ ฝาหลังแบบใส ซึ่งในเมื่อกลไก H-10 ก็ไม่ได้ขัดแต่งอะไรให้มีความสวยงาม นอกจากโรเตอร์ขึ้นลานที่มีการฉลุเป็นลายตัว H ผมว่าจะฝาแบบทึบ แต่มีการยิงเลเซอร์หรือสลักอะไรสักหน่อยที่ดูเข้ากับภาพยนตร์ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าฝาหลังแบบใส ที่เหมือนแค่ทำให้มีเพื่อให้เซลส์ใช้เป็นจุดเด่นเวลาพยายามจะปิดการขายกับลูกค้าหน้าเคาน์เตอร์

Hamiltom Murph Watch

ไม่ใช่บอกว่าไม่ดี เพียงแค่อยากจะบอกว่าด้วยต้นทุนที่เท่ากันในการผลิต ผมว่า Hamilton น่าจะเลือกอะไรทีน่าจะโอเคกว่าการจับฝาหลังใสมาใส่เท่านั้นเอง แต่ถ้าคุณชอบฝาหลังสไตล์นี้ ก็มองผ่านคำติของผมในเรื่องนี้ไปได้เลย

คำถามสำคัญที่คนมักจะถามผมเสมอหลังจากอ่านรีวิวเสร็จ คือ ‘ตกลงน่าซื้อไหมพี่ ?’ และสิ่งที่ผมมักจะยิงสวนไปเสมอคือ ‘ในแง่ไหนละ ?’

ถ้าเรื่องลงทุนระยะยาว บอกเลยว่าให้ลืมไปได้เลย เพราะถ้าผมรู้ป่านนี้คงรวยไปแล้ว แต่ในแง่ของความเป็นนาฬิกาที่มีทั้งจุดเชื่อมโยงกับภาพยนตร์ระดับเทพ บวกกับแพ็คเกจสุดอลังฯ (ซึ่งคนที่ซื้อหลังๆ โดยเฉพาะหลังจากอ่าน Review นี้เสร็จแล้วเกิดอยากได้ คงจะต้องเจอกับแพ็คเกจธรรมดา) สเป็ก หน้าตาโดยรวม และแบรนด์ ผมถือว่าราคา 36,200 บาทแบบยังไม่หักส่วนลดใดๆ แลกกับสิ่งที่เกริ่นมาทั้งหมดทั้งหมด ผมว่า…ผมไม่ลังเลนะ ถ้ากระสุนพร้อม

รายละเอียดทางเทคนิค : Hamilton Khaki Field Ref. H70605731

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 52 มิลลิเมตร
  • หนา : 11.2 มิลลิเมตร
  • ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
  • ระดับการกันน้ำ : 100 เมตร
  • กลไก : H-10 ขึ้นลานมือ และแฮ็คเข็มวินาทีได้
  • ระดับความเที่ยงตรง : +/-15 วินาทีต่อวัน
  • ความถี่ในการเดิน : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
  • สำรองพลังงาน : 80 ชั่วโมง
  • ประทับใจ : ดีไซน์ แพ็คเกจ ความสัมพันธ์กับภาพยนตร์ Interstellar ขนาดกำลังดี
  • ไม่ประทับใจ : รูปทรงและคุณภาพสายหนัง