Grand Seiko นำเสนอเรื่องราวความงามของดอกซากุระในช่วงเวลาต่างๆ ผ่านทางนาฬิกาดีไซน์แบบ 62GS ของคอลเล็กชั่น Heritage Collection และครั้งนี้เป็นเรื่องราวของดอกซากุระที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขณะที่ตกโปรยปรายลงมา หรือ Sakura Kakushi ที่สะท้อนผ่านบนหน้าปัดของ Heritage Collection Mechanical Hi-Beat 36000 SBGH368 บนตัวเรือนที่ผลิตจาก Rose Gold 18K
Grand Seiko Heritage Collection Mechanical Hi-Beat 36000 SBGH368 หน้าปัดซากะรุบนตัวเรือน Rose Gold
-
ครั้งแรกที่นาฬิกาดีไซน์ 62GS ที่มากับตัวเรือน Rose Gold 18K ไม่ได้เป็นนาฬิการุ่น Limited Edition
-
หน้าปัดได้รับอิทธิพลจากฉากดอกซากุระที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขณะที่ตกโปรยปรายลงมา หรือ Sakura Kakushi
-
ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติความถี่สูงในรหัส 9S85
ความงามของดอกซากุระที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมา คือ คอนเซ็ปต์ในการสร้างสรรค์ความงดงามของลวดลายบนหน้าปัดของนาฬิกา Grand Seiko Heritage Collection Mechanical Hi-Beat 36000 รหัส SBGH368 ซึ่งมากับตัวเรือนขนาด 38 มิลลิเมตรที่ผลิตจาก Rose Gold 18K ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้
Grand Seiko ได้นำความงามของซากุระในช่วงเวลาต่างๆ มานำเสนอผ่านทางหน้าปัดของเรือนเวลาที่คอลเล็กชั่น Heritage Collection โดยนอกจาก Grand Seiko Heritage Collection Mechanical Hi-Beat 36000 SBGH368 แล้ว ก็จะมีรุ่น 62GS Mechanical ซึ่งเป็นนาฬิกาตัวเรือนขนาด 30 มิลลิเมตรสำหรับสุภาพสตรีในรุ่น STGK031 และ SGTK033
สำหรับนาฬิการุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจและอิทธิพลในแง่ของดีไซน์มาจากนาฬิการุ่นดังในอดีตของ Grand Seiko อย่าง 62GS ที่เปิดตัวในปี 1967 และนำเสนอเรื่องราวของช่วงเวลาที่สวยงามในฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในญี่ปุ่น นอกจากนั้น ที่สำคัญ คือ นี่คือ ครั้งแรกของนาฬิกาในรุ่นนี้ที่มากับตัวเรือน Rose Gold 18K ที่ไม่ได้เป็นนาฬิการุ่น Limited Edition
![]() |
![]() |
ความอร่ามตาคือ สิ่งที่นาฬิกาเรือนนี้สะท้อนออกมาอย่างโดดเด่น เพราะมีการใช้ Rose Gold ในการผลิตทั้งตัวเรือน ชุดเข็ม และหลักชั่วโมง
ขณะที่หน้าปัดแสดงถึงฉากของดอกซากุระที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะขณะที่ตกโปรยปรายลงมา ซึ่งปรากฏการณ์หาได้ยากนี้เรียกว่าซากุระคาคุชิ (Sakura Kakushi) โดยสามารถสัมผัสได้ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิของภูมิภาคโทโฮคุทางตอนเหนือของญี่ปุ่น รวมถึงจังหวัดอิวาเตะ สถานที่ตั้งของ Grand Seiko Studio Shizukuishi ดีไซน์หน้าปัดอันน่าทึ่งนี้จับภาพช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วของฤดูใบไม้ผลิ โดยลักษณะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับมุมและแสงที่ตกกระทบ ทำให้การดูเวลาเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำยิ่งขึ้น และสายหนังสีน้ำตาลแสดงถึงสัญลักษณ์ของลำต้นของต้นไม้ช่วยเพิ่มบรรยากาศความสงบที่สวยงาม
![]() |
![]() |
การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกลไกอัตโนมัติในรหัส 9S85 ซึ่งเป็นกลไกที่เดินด้วยความถี่สูงในระดับ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 10 รอบต่อวินาที และอีกสิ่งที่ถือเป็นความท้าทายสำหรับช่างทำนาฬิกาของ Grand Seiko คือ การนำเสนอความเที่ยงตรงควบคู่กันไปด้วย ซึ่งกลไก 9S85 มีความเที่ยงตรง +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน โดยเป็นความเที่ยงตรงนี้เป็นผลมาจากการวัดความคลาดเคลื่อนของเวลาเป็นระยะเวลา 17 วันก่อนที่จะนำตัวเครื่องของนาฬิกาไปประกอบใส่ในตัวเรือน การวัดผลนี้กระทำขึ้นในโรงงานที่มีการควบคุมอุณหภูมิและตำแหน่งของตัวเครื่อง หรือ +8 ถึง -1 วินาทีต่อวัน สำหรับการใช้งานปกติ โดยมีกำลังสำรองอยู่ที่ 55 ชั่วโมง
![]() |
![]() |
Grand Seiko Heritage Collection Mechanical Hi-Beat 36000 SBGH368 จะเริ่มทำตลาดในเดือนเมษายน โดยมีราคาอยู่ที่ 1.17 ล้านบาท
รายละเอียดทางเทคนิค : Grand Seiko Heritage Collection Mechanical Hi-Beat 36000 SBGH368
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 38 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 44.7 มิลลิเมตร
- ความหนา : 12.9 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 19 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : Rose Gold 18K
- กระจก : Sapphire แบบโค้งคู่
- ฝาหลัง : แบบใสพร้อมกระจก Sapphire
- กลไก : อัตโนมัติ ความถี่สูง รหัส 9S85
- ความถี่ : 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง
- กำลังสำรอง : 55 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 100 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline