เปิดตัวแล้วสำหรับ Boutique แห่งใหม่ของ Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก)ซึ่งเป็นแห่งที่ 4 ของโลก และนอกจากการเปิดตัวแล้ว ทางแบรนด์ยังได้นำนาฬิกา 3 รุ่นใหม่ที่น่าสนใจมาจัดแสดงด้วย
Grand Seiko กับ Boutique แห่งที่ 4 และ 3 นาฬิการุ่นใหม่
จากความมุ่งมั่นที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1960 ไม่ว่าจะเป็นการผนวกเรือนเวลาทุกเรือนไว้ด้วยศาสตร์และงานหัตถศิลป์ในแบบเอเชีย ไปจนถึงการันตีคุณภาพสินค้าด้วยนวัตกรรมชั้นสูงจากประเทศญี่ปุ่น ล้วนเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ Grand Seiko ก้าวสู่ลำดับต้นๆ ของอุตสาหกรรมด้วยความรวดเร็วในฐานะผู้ผลิตนาฬิกาคุณภาพทั้งในตลาดญี่ปุ่นและนานาประเทศ
ต่อมาในปี 2017 Grand Seiko ได้ประกาศแยกเป็นอิสระจากไซโกอย่างเป็นทางการ โดยปรับเปลี่ยนทั้งภาพลักษณ์และไลน์สินค้าให้เจาะกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรี่อย่างชัดเจน ขณะที่ประเทศไทยมีการรีแบรนด์อย่างเป็นทางการในปีถัดมา ภายใต้การบริหารของบริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเดินหน้าทำการตลาดและวางแผนเพื่อขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันแกรนด์ ไซโกเปิดบูติกเพื่อจัดจำหน่ายสินค้าดังนี้ โดยเริ่มจาก
- แกรนด์ ไซโก บูติก กินซ่า, โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
- แกรนด์ ไซโก บูติก เบเวอร์รี่ฮิลล์, แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
- แกรนด์ ไซโก บูติก กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในบ้านเรา ปี 2019 บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกา Grand Seiko อย่างเป็นทางการ จึงได้รับเกียรติจาก บริษัทไซโก วอทช์ คอร์เปอร์เรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) ให้เปิดบูติก Grand Seiko แห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และถือเป็นบูติกแกรนด์ ไซโกแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย โดยตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจการค้าในกรุงเทพมหานคร ณ ชั้น1 เกษรเซ็นเตอร์ เกษรวิลเลจ
ภายในบูติก Grand Seiko แห่งนี้ได้รับการออกแบบให้ผสมผสานหลากหลายองค์ประกอบที่สื่อถึงการหลอมรวมของนวัตกรรมและความหรูหราจากนาฬิกาแกรนด์ ไซโกทุกรุ่น เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีแห่งอัตลักษณ์ของแบรนด์อย่าง สีน้ำเงินเข้มที่เข้ากันได้ดีกับสีเงิน ส่งมอบความเรียบหรูที่ดูเรียบง่ายในสไตล์ญี่ปุ่น ทั้งยังเชื้อเชิญให้ผู้คนเข้ามาสัมผัสเกียรติประวัติอันภาคภูมิใจของแบรนด์ได้ไม่ยาก
นอกจากจะรวบรวมสินค้าหลากหลายคอลเลคชั่นมาต้อนรับเหล่าคนรักนาฬิกาตัวจริงแล้ว เพื่อฉลองเปิดตัวบูติกแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แกรนด์ ไซโกยังได้เตรียมเรือนเวลาไฮไลท์พิเศษที่วางจำหน่ายเฉพาะในบูติกเท่านั้นมาให้ยลโฉมกันอีกด้วย ซึ่งมีถึง 3 รุ่นด้วยกันได้แก่
Grand Seiko SBGJ235G
ตัวเรือนออกแบบโดยใช้รูปทรงแบบ 44GS เอกลักษณ์อันเลื่องชื่อของแกรนด์ ไซโก ที่ได้รับการขัดเงาจนไร้ซึ่งการบิดเบือนดุจกระจกเงา โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินบนแพทเทิร์นลวดลายภูเขาอิวาเตะ สถานที่อันเป็นแหล่งกำเนิดนาฬิกาแกรนด์ ไซโกระบบกลไกนั่นเอง
ข้อมูลจำเพาะ
วัสดุตัวเรือน : สเตนเลสสตีล วัสดุกระจก : แซฟไฟร์ เคลือบกระจก : เคลือบกันแสงสะท้อนด้านใน ขนาดตัวเรือน : กว้าง 40 มิลลิเมตร บาง 14.04 มิลลิเมตร เครื่อง คาลิเบอร์ : 9S86 รูปแบบเครื่อง : อัตโนมัติ สำรองพลังงาน : ประมาณ 55 ชั่วโมง ความแม่นยำ :+5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน ฟังก์ชั่น กันน้ำ : 100 เมตร กันพลังงานสนามแม่เหล็ก : มี อื่นๆ : ทับทิม 37 เม็ด, ฝาหลังแบบเปลือย |
Grand Seiko SBGA401G
ใช้หน้าปัดสีดำลวดลายซันเรย์ที่มีแพทเทิร์นคล้ายกับการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์ เพิ่มความหรูหราเหนือระดับด้วยเข็มนาฬิกา หลักชั่วโมง และกรอบหน้าต่างแสดงวันที่สีโรสโกลด์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องระบบสปริงไดร์ฟที่มีการทำงานลื่นไหลและนุ่มนวล
ข้อมูลจำเพาะ
วัสดุตัวเรือน : สเตนเลสสตีล วัสดุกระจก : แซฟไฟร์โค้งแบบคู่ เคลือบกระจก : เคลือบกันแสงสะท้อนด้านใน ขนาดตัวเรือน : กว้าง 41 มิลลิเมตร บาง 12.52 มิลลิเมตร เครื่อง คาลิเบอร์ : 9R65 รูปแบบเครื่อง : สปริงไดรฟ์อัตโนมัติ สำรองพลังงาน : ประมาณ 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน ความแม่นยำ : ±1 วินาทีต่อวัน / ±15 วินาทีต่อเดือน (โดยเฉลี่ย) ฟังก์ชั่น กันน้ำ : 100 เมตร กันพลังงานสนามแม่เหล็ก : มี อื่นๆ : ทับทิม 30 เม็ด, ฝาหลังแบบเปลือย |
Grand Seiko SBGA407G
หน้าปัดได้รับการตกแต่งให้เป็นสีฟ้าอ่อนแบบ Snowflake ลวดลายพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก
แสงสะท้อนแห่งความงามของหิมะที่พัดผ่านหุบเขาชินชูในช่วงฤดูหนาว ธรรมชาติที่รายล้อมสตูดิโอแหล่งกำเนิดกลไกสปริงไดร์ฟ โดยพัฒนามาจาก Snowflake รุ่นก่อนๆ ที่มีเฉพาะสีขาว แต่ยังคงไว้ด้วยการออกแบบที่เน้นพื้นผิวอันสวยงามและละเอียดอ่อนในแบบฉบับของแกรนด์ ไซโก
ข้อมูลจำเพาะ
วัสดุตัวเรือน : สเตนเลสสตีล วัสดุกระจก : แซฟไฟร์ทรงกล่อง เคลือบกระจก : เคลือบกันแสงสะท้อนด้านใน ขนาดตัวเรือน : กว้าง 40.2 มิลลิเมตร บาง 12.8 มิลลิเมตร เครื่อง คาลิเบอร์ : 9R65 รูปแบบเครื่อง : สปริงไดรฟ์อัตโนมัติ สำรองพลังงาน : ประมาณ 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน |
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/