ถือเป็นอีกครั้งที่คอลเล็กชั่น Laureato (ลอรีอาโต) ของ Girard–Perregaux (จิราร์ด–แพร์โกซ์) สามารถสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับโลกแห่งเรือนเวลาระดับหรู เมื่อนาฬิการุ่น Girard–Perregaux Laureato 42mm มาพร้อมกับตัวเรือน Pink Gold
ซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับสีสันสุดเข้มของหน้าปัดแบบ Onyx (โอนิกซ์) ซึ่งนับเป็นการนำความโดดเด่นของรูปทรงที่ลงตัวเข้ามาเล่นกับสีสันและวัสดุที่มีค่าได้อย่างกลมกลืนและน่าหลงใหล
Girard–Perregaux Laureato 42mm Pink Gold & Onyx รูปทรงที่กลมกลืนผสานสีสันอันหรูหรา
-
การนำตัวเรือน 42 มิลลิเมตรของ Laureato มาผสมผสานแนวคิดของการจับคู่โทนสีเพื่อยกระดับความหรูหรา
-
ตัวเรือนผลิตจาก Pink Gold ที่มีการขัดแต่งอย่างสวยงามและรับกับหน้าปัดสีดำแบบ Onyx
-
จะวางจำหน่ายในเดือนกันยายนนี้ และมีราคาอยู่ที่ 54,300 เหรียญสหรัฐฯ
นับตั้งแต่ที่ Laureato เปิดตัวเป็นครั้งแรกในปี 1975 ได้ครอบครองหัวใจและความหลงใหลของผู้คนซึ่งชื่นชอบในงานออกแบบ รวมถึงเหล่านักสะสมนาฬิกาเช่นกัน และขณะที่นาฬิการ่วมสมัยอื่นๆ นั้นได้ก้าวเข้ามาและห่างหายไปในช่วงเวลาหลายปี
แต่มีเพียง Laureato อันเปี่ยมด้วยคุณสมบัติแห่งความเชี่ยวชาญนี้เพียงเท่านั้นที่ยังคงดำรงอยู่อย่างมั่นคง และในวันนี้ Maison (เมซง) แห่งนี้ภาคภูมิใจที่จะเปิดตัวแนะนำนาฬิการุ่นใหม่สู่ครอบครัว Laureato นั่นคือผลงานรุ่น Girard–Perregaux Laureato 42mm (จีราร์ด-แพร์โกซ์ ลอรีอาโต 42 มม.) เรือนเวลาซึ่งบรรจุภายในตัวเรือน Pink Gold และจับคู่เข้ากับหน้าปัด Onyx สีดำรังสรรค์ด้วยมือ พร้อมทั้งติดตั้งโดยกลไกจักรกลผลิตในโรงงานของแบรนด์
งานออกแบบอันยืนยง
ในแง่ของงานออกแบบ ยุคทศวรรษที่ 1970 ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษ ที่แนวคิดสร้างสรรค์มากมายได้เกิดขึ้นและขยายสู่การรังสรรค์วัตถุสิ่งของต่างๆ ด้วยความสวยงามอันเหนือกาลเวลาและความสามารถด้านฟังก์ชั่นที่มีชื่อเสียง เช่นเดียวกับที่ความหาญกล้าในการออกแบบนี้ได้แสดงออกผ่านการสร้างสรรค์สไตล์แห่งเรือนเวลารุ่นดั้งเดิมขนานแท้มาแล้วมากมาย ทั้งยังเป็นยุคที่รับรู้ได้ถึงการผสมผสานอย่างสอดคล้องของแนวคิดสร้างสรรค์สู่งานออกแบบ
ความจริงแล้วในช่วงระหว่างยุคนี้ ยังมีอีกหลากหลายแบรนด์อันทรงเกียรติที่ได้เปิดตัวนาฬิกาซึ่งบรรจุภายใต้ตัวเรือนสตีล พร้อมทั้งสายสร้อยข้อมือแบบผสาน ทว่ามีงานออกแบบจากยุคนี้เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นที่ยังคงดึงดูดความสนใจและสะกดสายตา แม้ผ่านกาลเวลามาแล้วหลายปี โดยนับจากการเปิดตัวในปี 1975 Girard-Perregaux Laureato ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิกเหนือกาลเวลา และเดินหน้าสู่การบุกเบิกแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ อันที่ปรารถนาสูงสุดเสมอ
นับจากเริ่มต้น งานออกแบบของ Laureato ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งไว้ซึ่งรูปทรงอันแตกต่างมากมาย เพื่อสร้างสรรค์รูปลักษณ์อันโดดเด่นและแตกต่าง แต่ยังคงความกลมกลืนสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียว โดยนาฬิกา Laureato แต่ละเรือนนั้นประกอบด้วยขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมที่ติดตั้งไว้ด้านบนสุดของวงแหวนทรงกลม ทั้งยังจัดวางอยู่เหนือตัวเรือนทรงตอนโน (tonneau-shaped) แบบเหลี่ยมมุม
แม้ว่าจะประกอบด้วยรูปทรงเรขาคณิตจากเส้นสายอันชัดเจน แต่ Laureato นั้นยังคงบุคลิกของความนุ่มนวลอ่อนโยน ชวนให้หวนนึกถึงหินอันกลมกลึงตามธรรมชาติและไร้ซึ่งผิวสัมผัสอันหยาบกร้าน โดยทั่วองค์ประกอบทั้งหมดนี้ยังผสมผสานอย่างประณีตวิจิตรระหว่างพื้นผิวขัดเงาและขัดด้านแบบซาติน ซึ่งเป็นสองงานฝีมือการตกแต่งที่ทั้งผสานและตัดกันอย่างชัดเจน จึงมอบไว้ด้วยมิติอันสวยงามสูงสุด
ท้ายสุดนั้นยังรวมไปถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่เติมเต็มด้วยสายนาฬิกาแบบผสาน (Integrated Bracelet) รับไปกับสรีระและโอบรับกับข้อมือได้อย่างลงตัว มอบซึ่งความสะดวกสบายให้กับผู้สวมใส่เรือนเวลา นอกจากนี้ ด้วยเพราะการประกอบขึ้นจากรูปทรงและรูปแบบที่ตัดและตรงข้ามกัน จึงนำมาซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Laureato อันเป็นที่จดจำได้อย่างทันทีแม้มองเห็นจากระยะไกล
ตอนที่มีการเปิดตัว นาฬิการุ่นแรกนั้นได้ถูกเรียกขานด้วยชื่อ Quartz Chronometer (ควอตซ์ โครโนมิเตอร์) ทว่า ในประเทศอิตาลีซึ่งนับเป็นตลาดหลักสำคัญของ Girard-Perregaux ณ เวลานั้น นาฬิการุ่นนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักกันในหมู่ผู้เชี่ยวชาญว่า ‘บัณฑิต (Laureato ในภาษาอิตาลี) แห่งโรงเรียนจี Girard–Perregaux’ โดยชื่ออันเปี่ยมด้วยความชื่นชมหลงใหลนี้ได้ทำหน้าที่เป็นดั่งการประกาศถึงความสำเร็จจากการชนะรางวัลของรุ่น
รวมถึงความเที่ยงตรงแม่นยำพิเศษ จวบจนในที่สุด ชื่อนี้จึงได้นำมาประยุกต์ใช้โดย Maison ทั้งยังประจวบเหมาะโดยบังเอิญ ที่ขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมซึ่งจัดวางไว้ด้านบนสุดของตัวเรือนนาฬิกานั้นยังดูคล้ายดั่งช่อชัยพฤกษ์ (laurel crown) อันทรงเกียรติที่สวมบนศีรษะของผู้ชนะเช่นกัน
ตลอดระยะเวลาหลายปี งานออกแบบของ Laureato ได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงอย่างพิถีพิถันละเอียดอ่อนมากมาย ทว่า หัวใจสำคัญของนาฬิการุ่นดั้งเดิมนั้นยังคงได้รับการสืบทอดไว้เสมอ เช่นในปี 2017 ได้เปิดตัวเจเนอเรชันที่ห้าของ Laureato ซึ่งเป็นงานออกแบบที่ได้นำมาปรับใช้ในผลงานใหม่ของ Laureato 42mm Pink Gold & Onyx นี้ด้วย
องค์ความรู้แห่งสวิส
นวัตกรรมคือหัวใจของวัฒนธรรมแห่ง Girard-Perregaux เสมอ นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นในปี 1791 และตลอดช่วงทศวรรษที่ 1970 แบรนด์นาฬิกาสวิสรายนี้เป็นดั่งผู้นำแห่งเครื่องบอกเวลาควอตซ์ เทคโนโลยีที่ได้มอบซึ่งอนาคตแห่งความเที่ยงตรงแม่นยำที่ยังไม่เคยมีมาก่อน และแท้จริงแล้ว ด้วยความถี่ 32,768 เฮิรตซ์นั้นได้ถูกตั้งมาตรฐานไว้โดย Maison แห่งนี้ และได้นำมาปรับประยุกต์ใช้ในฐานะมาตรฐานสากลสำหรับนาฬิกาควอตซ์
การเปิดตัวครั้งแรกของ Laureato เมื่อ 47 ปีที่แล้วนั้นจึงไม่อาจเลี่ยงที่จะติดตั้งไว้ด้วยกลไกควอตซ์ผลิตในโรงงานของตนเอง พร้อมทั้งผ่านประกาศนียบัตรแห่ง COSC อย่าง Calibre 705 โดยในช่วงเวลานี้ อุตสาหกรรมการประดิษฐ์นาฬิกาสวิสตามประเพณีส่วนใหญ่แล้วนั้นตกอยู่ในภาวะถดถอย และไม่พร้อมที่จะก้าวไปสู่การเป็นเรือนเวลาที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบตเตอรี่อย่างทันที
แม้ว่านาฬิกาควอตซ์จะดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้มากมาย แต่ Girard-Perregaux ยังคงเดินหน้าการผลิตกลไกจักรกลขึ้นภายในโรงงานของตนเองมาตลอดระยะเวลากว่า 230 ปี ซึ่งมีเพียงน้อยแบรนด์นักจะสามารถทำได้เช่นนี้ โดยในปี 1995 ณ ช่วงเวลาที่การประดิษฐ์นาฬิกาจักรกลเริ่มหวนกลับมารุ่งเรืองและได้รับความนิยมอีกครั้ง
Girard-Perregaux ได้เปิดตัว Laureato 8010 ซึ่งติดตั้งด้วยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติที่ผลิตภายในโรงงานของตนเอง โดย ณ ปัจจุบัน ยังคงมีผลงานอย่าง Laureato 34mm ที่ติดตั้งด้วยกลไกควอตซ์ ขณะที่รุ่นอื่นๆ ทั้งหมดซึ่งนำเสนอด้วยตัวเรือนขนาดใหญ่กว่าล้วนบรรจุภายในด้วยการขับเคลื่อนของกลไกจักรกล
ต้อนรับสมาชิกใหม่สู่คอลเลกชัน
สำหรับสมาชิกใหม่ของคอลเลกชัน Laureato มาพร้อมตัวเรือน Pink Gold 18 กะรัต มีการผสมผสานระหว่างการตกแต่งพื้นผิวแบบขัดเงาและขัดด้านแบบซาตินทั้งเรือน พร้อมทั้งสายโลหะที่ผลิตจากพิงค์โกลด์จับคู่กัน ซึ่งมอบวิถีอันลงตัวแห่งการหลอมรวมเป็นหนึ่งระหว่างนาฬิกากับผู้สวมใส่
Maison ได้เลือกจับคู่ระหว่างสีสันอันสง่างามของตัวเรือน เข้ากับหน้าปัด Onyx สีดำซึ่งรังสรรค์ด้วยมืออย่างหรูหรา โดยวัสดุสุดหรูนี้ได้ดึงความเชี่ยวชาญของเหล่าช่างฝีมือผู้เปี่ยมด้วยทักษะและอุทิศเวลาอย่างทุ่มเทมาใช้ เพื่อสร้างสรรค์รูปทรงและขัดเงาวัสดุด้วยมือ
โดยการรังสรรค์หน้าปัดแผ่นบางๆ จากโอนิกซ์นั้นจำเป็นต้องอาศัยการทำงานไม่น้อยกว่า 15 ขั้นตอนแตกต่างกัน ทว่ามอบผลลัพธ์อันแสนคุ้มค่าของภาพอันประณีตวิจิตรบนพื้นผิวซึ่งปรากฏราวดั่งกระจกเงา ขณะที่เข็มชี้ เครื่องหมายบอกเวลาหรืออินเด็กซ์ (indexes) สไตล์บาตอง (baton)
รวมถึงโลโก้ GP ซึ่งจัดวางไว้ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ได้นำเสนอภายใต้โทนสีทองอันอบอุ่น โดยการมาบรรจบกันระหว่าง Onyx สีดำเข้มและรายละเอียดพิงค์โกลด์นั้นได้มอบทั้งภาพที่ตัดกันอย่างโดดเด่นและบุคลิกเฉพาะตัวที่เชื่อมโยงถึงชื่อแห่ง Laureato
ในฐานะบริษัทที่สอดคล้องถึงนิยามแห่งเครื่องบอกเวลาชั้นสูง (Haute Horlogerie) จึงไร้ซึ่งข้อกังขา ที่ภายในผลงานรุ่นใหม่นี้ยังคงติดตั้งโดยกลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติด้วยหมายเลขอ้างอิงเฉพาะ ที่หลอมรวมไว้ซึ่งการผสมผสานแห่งรายละเอียดอันประณีตสวยงาม เริ่มจากแท่นเครื่องซึ่งตกแต่งด้วยลวดลายเกรนวงกลม (circular graining)
ขณะที่บางชิ้นส่วนได้ถ่ายทอดถึงการตกแต่งแบบขัดขอบลบมุม (bevelling), ขัดเงาแบบกระจก (mirror–polishing), ขัดด้านแบบซาติน (satin finish), ขัดลายก้นหอย (snailing), ตกแต่งแบบซันเรย์ (sunray) และงานแกะสลัก (engravings) อันหลากหลาย
ส่วนบนสะพานจักรตกแต่งด้วยลวดลาย Côtes de Genève (โคตส์ เดอ เฌแนฟ) แนวตรง ต่างกับโรเตอร์ Pink Gold ที่ประดับตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยลวดลาย Côtes de Genève วงกลม และท้ายสุดคือกลไกชุดนี้ได้มอบด้วยพลังงานสำรองอย่างน้อย 54 ชั่วโมง
ผ่านกระบวนการและขั้นตอนการทำงานมากมายที่จำเป็นในการสร้างสรรค์ความสมบูรณ์แบบให้กับกลไกผลิตภายในโรงงานของตนเองสำหรับ Laureato ซึ่งรวมไปถึงการตกแต่งอันประณีตสง่างามที่ต้องใช้เวลาในการทำงานอย่างทุ่มเท นอกจากนั้น งานฝีมืออันเปี่ยมด้วยความอุตสาหะนี้ยังขยายไปสู่ตัวเรือนและสายนาฬิกาแบบ Pink Gold
ซึ่งแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิตได้มอบความไว้วางใจให้กับทีมช่างนาฬิกาผู้เปี่ยมด้วยทักษะสูง โดยทั้งการอุทิศตน ความเที่ยงตรงแม่นยำ และความต่อเนื่องนั้นนับเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการบรรลุถึงมาตรฐานที่ไม่อาจเทียบเคียงได้ สอดคล้องดั่งชื่อของ Laureato ทว่า
ความสมบูรณ์แบบในบางครั้งก็ไม่อาจบรรลุได้ด้วยความเร่งรีบ แต่จำเป็นต้องใช้เวลาหลากหลายชั่วโมงในการรังสรรค์นาฬิกาแต่ละเรือน และแม้ว่าผลงานรุ่นนี้จะไม่ใช่เรือนเวลา “รุ่นจำนวนจำกัด” แต่กระนั้นก็ถูกจำกัดโดยการทำงานที่ต้องใช้เวลาและงานฝีมือในการรังสรรค์เพื่อมอบผลลัพธ์แห่งเรือนเวลาอันล้ำเลิศอย่างแท้จริง
Girard-Perregaux Laureato 42mm Pink Gold & Onyx จะวางจำหน่ายในเดือนกันยายนนี้ และมีราคาอยู่ที่ 54,300 เหรียญสหรัฐฯ
ข้อมูลจำเพาะทางเทคนิค : Girard-Perregaux Laureato 42mm Pink Gold & Onyx
- Laureato 42mm
- หมายเลขอ้างอิง: 81010-52-3118-1CC (เวอร์ชันสายหนังจระเข้)
- หมายเลขอ้างอิง: 81010-52-3118-1CM (เวอร์ชันสายสร้อยข้อมือพิงค์โกลด์)
- ราคาปลีก: 42,000 GBP / 51,800 CHF / 54,300 USD / 54,500 EUR
ตัวเรือน
- วัสดุ: Pink Gold ตกแต่งด้วยงานขัดเงาและขัดด้านแบบซาติน
- ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง: 42.00 มม.
- หนา: 10.68 มม.
- กระจก: กระจกแซฟไฟร์กันแสงสะท้อน
- ฝาหลัง: กระจกแซฟไฟร์
- หน้าปัด: Onyx สีดำขัดเงา, โลโก้ GP Pink Gold , เครื่องหมายบอกเวลาหรืออินเด็กซ์แบบ ‘บาตอง’ (baton) ทำจาก Pink Gold
- เข็มชี้: เข็มชี้ชุบทอง, แบบ ‘บาตอง’
- การกันน้ำ: 50 เมตร (5 เอทีเอ็ม)
กลไก
- หมายเลขอ้างอิง: GP01800-1404
- กลไกจักรกลไขลานอัตโนมัติ พร้อมด้วยโรเตอร์ Pink Gold
- ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง: 30.00 มม. (13 ‘’’)
- หนา: 3.97 มม.
- ความถี่: 28,800 ครั้ง/ชั่วโมง – (4 เฮิรตซ์)
- จำนวนชิ้นส่วน: 191 ชิ้น
- ฟังก์ชั่น: ชั่วโมง, นาที, วินาทีกลาง, วันที่
สาย
- วัสดุ: Pink Gold , ตกแต่งด้วยงานขัดเงาและขัดด้านแบบซาติน (เวอร์ชันสายสร้อยข้อมือ Pink Gold)
- วัสดุ: สายหนังจระเข้สีดำ (เวอร์ชันสายหนังจระเข้)
- หัวเข็มขัด: Pink Gold , แบบพับสามทบ (เวอร์ชันสายหนังจระเข้)
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline