ชื่อของ Hydro-Sub กลับมาอีกครั้งหลังจากที่ผลิตเป็น Limited Edition ในปี 2015 และในรุ่นใหม่ก็ยังเป็นรุ่นผลิตจำกัดเช่นเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์และความสวยงามของตัวเรือนให้กลับไปสู่ยุคทศวรรษที่ 1960
Edox Hydro-Sub Chronometer Limited Edition กรุ่นกลิ่นอายความคลาสสิคจากยุค 1960
-
นาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตเพื่อฉลองวาระพิเศษของนาฬิกาดำน้ำรุ่นคลาสสิค Hydro-Sub
-
ตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร มาพร้อมกลไกอัตโนมัติที่มีความเที่ยงตรงระดับ Chronometer
-
ผลิตเพียง 500 เรือน และมีราคาอยู่ที่ 1,790 ยูโร
ในปี 2015 เมื่อ Edox ตัดสินใจเปิดตัว Hydro-Sub ออกสู่ตลาดเพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของคอลเล็กชั่นนี้ ดีไซน์และรูปแบบของการใช้กรอบสไลด์เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวปกป้องเม็ดมะยมที่เรียกว่า Master Lock ทำให้นาฬิการุ่นนี้ได้รับความสนใจและเป็นที่รู้จัก
อย่างไรก็ตาม อีก 6 ปีต่อมา Hydro-Sub กลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มาพร้อมกับรุ่นที่มีดีไซน์ใหม่ แต่ยังคงกลิ่นอายของรายละเอียดของนาฬิกาดำน้ำสุดสวยที่เปิดตัวเมื่อปี 2015 เอาไว้ พร้อมกับความสามารถในการกันน้ำระดับ 300 เมตร กับรุ่น Edox Hydro-Sub Chronometer Limited Edition
Hydro-Sub ถือเป็นคอลเล็กชั่นนาฬิกาดำน้ำที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าอย่างมาก โดยเปิดตัวออกมาเมื่อปี 1965 เพียงแต่ในวาระของการเฉลิมฉลองนั้น รุ่นที่ผลิตออกมาเป็น Limited Edition สำหรับฉลองการสำรวจขั้วโลกเหนือโดยมีชื่อ North Pole ต่อท้ายด้วย และมีขายด้วยกัน 2 รุ่นคือ เข็มวินาทีสีส้ม และสีเขียว ส่วนในรุ่นใหม่ที่เห็นอยู่นี้คือ รุ่นใหม่ที่ลูกค้าต้องรอกันนานถึง 6 ปีเต็มๆ และยังเป็น Limited Edition เหมือนเดิม
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สำหรับ Edox Hydro-Sub Chronometer Limited Edition จะมากับตัวเรือนทรงไข่ พร้อมขาสานสั้น และมีเม็ดมะยมอยู่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา ซึ่งชวนให้นึกถึนาฬิกาดำน้ำในยุคทศวรรษที่ 1950-1960 จากค่าย Zodiac และ Squale ซึ่งก็รวมถึง Edox ด้วย เรียกว่าเป็นการนำงานออกแบบกลับไปสู่รากเหง้าของการออกแบบในสไตล์เดิมแต่มีการปรับเปลี่ยนบางจุดเพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย
ตัวเรือนมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42 มิลลิเมตร พร้อมขอบตัวเรือนที่ใช้ Insert ซึ่งผลิตจากเซรามิก ส่วนตัวเรือนและฝาหลังเป็นแบบสแตนเลสสตีล โดยสิ่งที่ Edox ยังคงนำมาใช้กับนาฬิการุ่นใหม่นี้คือ การจับคู่โทนสีของน้ำเงิน-ส้ม พร้อมหลักชั่วโมงทรงเหลี่ยม และเข็มวินาทีแบบทรงสามเหลี่ยม โดยรุ่นนี้จะมากับสายสแตนเลสสตีลเพียงอย่างเดียว พร้อมกระจก Sapphire แบบแบน หรือ Flat Sapphire ที่มีขนาด 2.5 มิลลิเมตร และมีการเคลือบสารกันการสะท้อนแสงเอาไว้ 2 ฝั่ง
สิ่งที่ Edox นำเสนอมาตั้งแต่รุ่นที่แล้วคือ แม้ว่าจะใช้กลไกที่มีพื้นฐานมาจากกลไกที่มีขายอยู่ในท้องตลาดอย่าง Sellita SW-200 แต่พวกเขาก็ใส่ใจในการพัฒนาตัวกลไกให้มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer และใช้รหัสใหม่ว่า Calibre 806 มีกำลังสำรอง 38 ชั่วโมง และความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร
การผลิตมีเพียง 500 เรือนเท่านั้น และมีวางจำหน่ายในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ส่วนราคาอยู่ที่ 1,790 ยูโร
ข้อมูลทางเทคนิค : Edox Hydro-Sub Chronometer Limited Edition
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42 มิลลิเมตร
- ความหนา : 12.5 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือนและสาย : Stainless Steel 316L
- กระจก : Flate Sapphire เคลือบสารกันการสะท้อนแสงทั้ง 2 ฝั่ง
- กลไก : Calibre 806 อัตโนมัติมีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer
- กำลังสำรอง : 38 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 300 เมตร
- ผลิต : 500 เรือน
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/