สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของ Doxa งานนี้ไม่น่าพลาด เพราะมีการเปิดตัวคอลเล็กชั่นที่ 2 ในการฉลองครบรอบ 50 ปีของรุ่น SUB300 Searambler ออกมาแล้ว โดยจะใช้ชื่อว่า Silver Lung และมีการผลิต 300 เรือนเท่านั้น
Doxa SUB300 Searambler Silver Lung 300 เรือนเท่านั้น
- Doxa SUB300 Searambler Silver Lung เป็นเวอร์ชันที่ 2 ของการฉลองครบ 50 ปีของ SUB300 Searambler
- ตัวเรือนมากับรูปทรงคลาสสิคขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.3 มม.
- ผลิต 300 เรือน ค่าตัว 2,590 เหรียญสหรัฐฯ
สำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบนาฬิกาดำน้ำที่เป็นแบรนด์คลาสสิค แน่นอนว่า Doxa คือหนึ่งในนั้น และหลังจากที่ฉลองครบรอบ 50 ปีของนาฬิการุ่น SUB300 Searambler ไปเมื่อปีที่แล้วด้วยรุ่น Black Lung มาคราวนี้ทาง Doxa เปิดตัวเวอร์ชันที่ 2 ของนาฬิกาตระกูลนี้ออกมาแล้วกับรุ่น Silver Lung พร้อมความพิเศษที่มีการผลิตออกมาเพียง 300 เรือนเหมือนกับ Black Lung
SUB300 Searambler Silver Lung มากับตัวเรือนทรงคลาสสิคที่ยึดสไตล์มาจากรุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวขายมาตั้งแต่ปี 1967 โดยตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.3 มิลลิเมตร และมาพร้อมกับสายเหล็กในสไตล์ที่เรียกว่า Beads-of-Rice ที่ท่อนตรงกลางของสายจะเหมือนกับมีเมล็ดข้าววางเรียงต่อกัน พร้อมกับ Extension Link สำหรับใช้กับ Wet Suit ส่วนความกว้างขาสายก็ 22 มิลลิเมตร
สำหรับกระจกมีการเปลี่ยนจากแบบอะครีลิกในรุ่นคลาสสิคมาเป็นแบบ Sapphire Souble-Domed ที่ดูสวยและใสขึ้น ส่วนสิ่งที่เปลี่ยนไปจาก Black Lung ก็มีทั้งเข็มนาทีซึ่งเป็นสีส้มเช่นเดียวกับตรงช่วยปลายของเข็มวินาที และสอดรับกับสีของตัวเลขบนสเกล Bezel ขณะที่หน้าปัดสีเงินดูสวยและสะอาดตา พร้อมกับมีโลโก้ของ Aqua Lung ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ดำน้ำชื่อดังในสหรัฐอเมริกาแปะเอาไว้ตรงตำแหน่ง 8 นาฬิกา ซึ่งทั้งคู่เป็นพันธมิตรกันมานาน และในปีที่แล้วก็เป็นการฉลองครบรอบ 75 ปีแห่งความร่วมมือ
กลไกที่ติดตั้งเป็น ETA2824-2 ที่ได้รับการปรับแต่งให้มีความเที่ยงตรงในระดับ Chronometer แต่ทาง Doxa ไม่ได้เอาคำว่า Chronometer ขึ้นมาโชว์บนหน้าปัดเหมือนกับแบรนด์อื่นๆ แต่พวกเขาเลือกที่จะสลักเอาไว้ที่ฝาหลังแทน
ค่าตัวก็เร้าใจตามแบบฉบับนาฬิการุ่นพิเศษ ซึ่งทาง Doxa ตั้งราคาป้ายเอาไว้ที่ 2,590 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 80,000 กว่าบาท แต่เชื่อไหวว่าราคาระดับนี้ยังขายดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะในรุ่นที่แล้วบรรดาแฟนพันธุ์ต่างกดสั่งออนไลน์กันอย่างรวดเร็ว
Doxa SUB300 Searambler
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/
