Doxa ตอบแทนความมั่นคงและใจรักของ Clive Cussler นักเขียนนิยายผจญภัยโลกใต้น้ำผู้ล่วงลับซึ่งชื่นชอบนาฬิกาของ Doxa และนำมาถูกเขียนถึงในนิยายของเขาด้วยนับจากปี 1973 ด้วยการผลิตนาฬิการุ่นพิเศษ Doxa Sub 300T Clive Cussler Edition ซึ่งมาพร้อมความสวยงามและลงตัว รวมถึงความพิเศษในการผลิต
Doxa Sub 300T Clive Cussler Edition ความพิเศษจากนิยายสู่การผลิตจริง
-
นาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นเพื่อเป็นเกียรติกับ Clive Cussler นักเขียนนิยายที่ชื่นชอบนาฬิกา Doxa Sub300T
-
ตัวเรือน สาย และขอบตัวเรือนมีการเคลือบด้วยเทคนิคที่ทำให้ดูเก่า และมาพร้อมกับแพ็คเกจที่ทำให้ดูเหมือนกับหนังสือนิยาย
-
เป็นนาฬิการุ่นพิเศษมีราคาอยู่ที่ 2,590 ฟรังก์สวิสส์
ถ้าคุณเป็นนักอ่านที่อยู่ในสายของนิยายผจญในสไตล์เดียวกับอินเดียนา โจนส์แต่ทันสมัยกว่าและมุ่งเน้นไปที่โลกใต้น้ำ เชื่อว่าชื่อของ Clive Cussler น่าจะคุ้นหู
โดยเฉพาะนิยายผจญภัยของเขาระดับ Grandmaster of Shipwreck Tales ที่มีตัวละครอย่าง Dirk Pitt เป็นตัวเอก ซึ่ง Pitt เป็นนักดำน้ำและมีนาฬิกา Doxa รุ่น Sub 300T หน้าส้มเป็นนาฬิกาคู่ใจของเขา และนั่นทำให้ Doxa จัดการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษอย่าง Doxa Sub 300T Clive Cussler Edition ออกมาทำตลาดพร้อมแพ็คเกจสุดสวยในวาระของการครบรอบ 50 ปีที่ตัวละครเอกนี้โลดแล่นบนหน้ากระดาษ
ว่ากันว่า Pitt ที่เป็นตัวละครในเรื่องในฐานะของผู้อำนวยการหน่วยงานอย่าง NUMA หรือ National Underwater and Marine Agency คือ ภาพสะท้อนอีกด้านของตัว Clive Cussler (เสียชีวิตในปี 2020) ในฐานะนักผจญภัยและความหลงใหลที่มีต่อเรื่องราวของการค้นหาในด้านโบราณคดีใต้น้ำ และสวมใส่นาฬิกา Doxa Sub 300T เหมือนกัน
โดย Pitt ปรากฏตัวครั้งแรกในนิยายเรื่อง Pacific Vortex! ที่แม้ว่าจะถูกเขียนมานานและเป็นนิยายเล่มแรกของ Cussler แต่กลับถูกตีพิมพ์ในปี 1983 ส่วนเล่มแรกที่มีการตีพิมพ์คือ The Mediterranean Caper หรือ Mayday ในปี 1973 และอยู่คู่กับนิยายของ Cussler มาจนถึงปี 2021 โดยแม้ว่าในปี 2004 นับตั้งแต่เรื่อง Black Wind เป็นต้นผู้เขียนจะเป็น Dirk Cussler ลูกชายของ Cussler ก็ตาม
ทั้ง Cussler และ Pitt ในนิยามต่างสวม Doxa Sub 300T หน้าส้มที่ผลิตในทศวรรษที่ 1970 ก่อนที่จะเลิกผลิตในปี 1980 และในภาพยนตร์เรื่อง Sahara ที่ดัแปลงจากนิยายของ Cussler นั้น Matthew McConaughey ซึ่งแสดงเป็น Pitt ยังสวมนาฬิกาเรือนนี้อยู่บนข้อมือด้วย ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงกันของทั้ง 2 สิ่งอย่างขาดไม่ได้
จากคำบอกเล่าของ Dirk Cussler ลูกชายของเขานั้น Clive Cussler ได้รับนาฬิกา Doxa Sub300T หน้าส้มมาจากเจ้าของร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำที่เขาทำงานอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ให้เป็นของขวัญตอบแทนการทำงาน และนั่นกลายเป็นนาฬิกาที่ติดข้อมือของเขามาตลอด และถูกนำใช้กับตัวละครอย่าง Dirk Pitt
โดยนำมาใช้ในหนังสือเรื่อง Iceberg เป็นครั้งแรก (แต่ถือเป็นนิยายเรื่องที่ 2 ที่ถูกตีพิมพ์ของ Pitt)
‘As he sank deeper and deeper, the light diminished and the visibility shortened. He checked his two vital references. The depth gauge read ninety feet and orange dial on the DOXA diving watch notified him that he had been down two minutes.’ Iceberg-1975
สำหรับนาฬิการุ่นพิเศษนี้จะใช้พื้นฐานของ Sub 300T รุ่นใหม่มากับตัวเรือนขนาด 42.5 มิลลิเมตรและสายซึ่งมีลวดลายวินเทจที่เรียกว่า Breads of rice ที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล รวมถึงขอบตัวเรือนด้วยการทำให้เก่า หรือ Coating for aged appearance เพื่อให้ดูเก่าและเข้ากับยุคสมัย หน้าปัดสีครีมเหมือนกับกระดาษเก่า
ซึ่งเป็นเหมือนกับแผนที่ทางทะเลและมีเข็มทิศประดับอยู่ พรายน้ำที่อยู่บนเข็มและหลักชั่วโมงออกโทนสีเบจเพื่อความวินเทจ ที่พิเศษคือ ตัวเลขในช่องวันที่ จะเป็นตัวเลขสีดำ ยกเว้นวันที่ 7 15 และ 31 ที่เป็นสีแดงเพื่อแสดงถึงวัน เดือน และปีเกิดของ Cussler เมื่อพลิกดูด้านหลังจะพบกับรายชื่อของซากเรือจมที่ NUMA ที่ถูกค้นพบและกู้ขึ้นมาตลอดการทำงานนับตั้งแต่หน่วยงานนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1979
ตัวนาฬิกาขับเคลื่อนด้วยกลไก ETA-2824-2 ที่ด้รับการปรับแต่งโดย Doxa มีการสำรองกำลังงานอยู่ที่ 38 ชั่วโมง พร้อมความสามารถในการกันน้ำ 1,200 เมตร
นาฬิกาไม่ได้เป็นรุ่นผลิตจำกัด แต่จะมาพร้อมกับกล่องพิเศษที่ถูกออกแบบให้เหมือนกับหนังสือ และข้างในจะมีสาย NATO สีครีมเพิ่มมาให้อีกเส้น โดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,590 ฟรังก์สวิสส์
รายละเอียดทางเทคนิค : Doxa Sub 300T Clive Cussler Edition
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 42.5 มิลลิเมตร
- ความหนา : 13.65 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 44.5 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : สแตนเลสสตีล
- กระจก : Sapphire Coating for aged appearance
- กลไก : อัตโนมัติ ETA-2824-2
- ความถี่ : 4 Hz (28,800 ครั้ง/ชั่วโมง)
- กำลังสำรอง : 38 ชั่วโมง
- การกันน้ำ : 1,200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline