Doxa SUB 250T GMT เพิ่มฟังก์ชั่นบอกเวลาที่ 2

0

Doxa ปัดฝุ่นนำนาฬิกาดำน้ำแบบ GMT กลับมาอีกครั้งหลังจากที่เคยเปิดตัวเมื่อปี 2006 โดยครั้งนี้มากับรุ่น Doxa SUB 250T GMT กับตัวเรือนสเตนเลสสตีลไซส์ 40 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนด้วยกลไก Sellita SW-300 มีกำลังสำรอง 50 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่น GMT โดยจะมีจำหน่าย 8 สีหน้าปัดในรุ่นธรรมดา และอีก 1 รุ่นพิเศษซึ่งจะใช้ชื่อว่า Sharkhunter Vintage

- Advertisement -

Doxa SUB 250T GMT

Doxa SUB 250T GMT เพิ่มฟังก์ชั่นบอกเวลาที่ 2

  • การกลับมาของนาฬิกาดำน้ำแบบ GMT ที่ Doxa เคยผลิตออกมาเมื่อปี 2006

  • บนตัวเรือนขนาด 40 มิลลิเมตร มีหน้าปัดแบบ 8 รุ่นธรรมดา และอีก 1 รุ่นพิเศษ คือ Sharkhunter Vintage

  • ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติในรหัส Sellita SW-300 มีกำลังสำรอง 50 ชั่วโมง

หลังจากรุ่น SUB 750T GMT ที่เปิดตัวในปี 2006 แล้ว Doxa แทบไม่มีนาฬิกาที่มีความสามารถในการบอก 2 เวลาออกมาให้แฟนๆ ได้สัมผัสกันอีกเลย จนกระทั่งในปีนี้ ทางแบรนด์ได้เผยโฉมคอลเล็กชั่นใหม่อย่าง SUB 250T GMT ออกสู่ตลาด โดยคงความสามารถในการเป็นนาฬิกาดำน้ำชั้นเยี่ยม และที่เพิ่มเติมคือความสามารถในการบอกเวลาที่ 2 และถือเป็นการกลับมาของเวอร์ชัน GMT ครั้งแรกในรอบ 20 ปีของนาฬิกาตระกูล SUB จาก Doxa

สำหรับ SUB 250T GMT มีความใกล้เคียงในแง่ของดีไซน์และรูปแบบใกล้เคียงกับ SUB 200T แต่เป็นนาฬิกาคนละรุ่นกัน โดย SUB 250T GMT มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน 40 มิลลิเมตร ขณะที่ SUB 200T อยู่ที่ 39 มิลลิเมตร ส่วนตัวเลข 250 นั้น มาจากความสามารถในการกันน้ำ ซึ่งอยู่ที่ 250 เมตร

Doxa SUB 250T GMT

ตัวเรือนและสายผลิตจากสเตนเลสสตีล โดยรุ่นสายสเตนเลสจะเป็นลาย Beads of Rice ที่คุ้นเคยกันดี และมีรุ่นสายยางเป็นอีกทางเลือก โดยจะมีจำหน่ายทั้งหมด 8 สีหน้าปัดในรุ่นปกติ และ 1 สีในรุ่นพิเศษ ประกอบด้วย

  • Professional – iconic DOXA Orange
  • Searambler – Sunburst Silver
  • Sharkhunter – Deep Black
  • Caribbean – Navy Blue
  • Divingstar – Vibrant Yellow
  • Aquamarine – Crystal Turquoise
  • Whitepearl – Pure white
  • Sea Emerald – Sunburst Green
Doxa SUB 250T GMT Doxa SUB 250T GMT
Doxa SUB 250T GMT Doxa SUB 250T GMT
Doxa SUB 250T GMT Doxa SUB 250T GMT Doxa SUB 250T GMT
Doxa SUB 250T GMT

นอกจากเวอร์ชันปกติแล้ว ทาง Doxa จะมีเวอร์ชันพิเศษของนาฬิการุ่นนี้ออกขายด้วยในชื่อ Sharkhunter โดยจะใช้ตัวเรือนและสเป็กของกลไกเดียวกัน แต่แตกต่างตรงที่หน้าตา ซึ่งจะมีการสร้างสรรค์ใหม่ให้ดูวินเทจ ส่วนเข็มที่ 4 ในการบอกเวลาที่ 2 จากเดิมเป็นแท่งขนาดใหญ่ในรุ่น SUB 250T ก็จะเปลี่ยนเป็นเข็มเพรียวบางพร้อมหัวลูกศร พร้อมหน้าปัดแบบ Gradient เล่นกับแสงอย่างสวยงาม

Doxa SUB 250T GMT

ส่วนกลไกเป็นหน้าที่ของหลไกอัตโนมัติที่พัฒนาอยู่บนพื้นฐานของ Sellita SW-330 มีความสามารถในการสำรองกำลังงานอยู่ที่ 50 ชั่วโมง มาพร้อมฟังก์ชั่น GMT ในการบอกเวลาที่ 2 ซึ่งจะทำงานร่วมกับสเกล 24H ที่อยู่ขอบนอกของหน้าปัด

เปิดตัวทำตลาดแล้วในตอนนี้ โดยรุ่นสายยางจะอยู่ที่ 2,350 ฟรังก์สวิสส์ และรุ่นสายสเตนเลสสตีลจะอยู่ที่ 2,390 ฟรังก์สวิสส์

รายละเอียดทางเทคนิค : Doxa SUB 250T GMT

  • เส้นผ่านศูนย์กลาง : 40 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 10.85 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 42.90 มิลลิเมตร
  • กระจก : Sapphire
  • กลไก : อัตโนมัติ แบบ GMT
  • ความถี่ : 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง
  • กำลังสำรอง : 50 ชั่วโมง
  • การกันน้ำ : 250 เมตร