Doxa Army Steel เพิ่มทางเลือกใหม่ที่แตกต่าง

โดย

MP4/4

09/09/2022

หลังจากที่เปิดตัวรุ่น Re-Issue ที่ผลิตจากตัวเรือนเซรามิกและผลิตจำกัดเพียง 100 เรือน ดูเหมือนว่าความต้องการเวอร์ชัน Army ของแฟน Doxa ที่มีต่อรุ่น Army จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และทำให้เกิดการผลิตรุ่นสตีลออกมา โดยจะมีการจำหน่ายด้วยกันถึง 5 รุ่นย่อย

- Advertisement -

Doxa Army Steel

Doxa Army Steel เพิ่มทางเลือกใหม่ที่แตกต่าง

การเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับรุ่น Army ด้วยตัวเรือนและสายที่ผลิตจากสตีล
หน้าตาและรูปแบบยังยึดจาก Army รุ่น Re-Issue แต่จะมีทั้งรุ่นขอบตัวเรือนสตีลและ Bronze
จำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่นย่อยมีราคาอยู่ระหว่าง 2,050-2,190 ยูโร

หลังจากที่ปัดฝุ่นนำรุ่น Army กลับมาผลิตใหม่หรือ Re-Issue ได้ไม่นาน ทางด้าน Doxa ก็ขยับตลาดครั้งใหม่ให้กับนาฬิการุ่นนี้ด้วยการเปิดตัวเวอร์ชันใหม่สตีลที่มีชื่อว่า Doxa Army Steel ออกมา ด้วยตัวเรือนแบบสตีล และจะมีให้เลือกทั้งรุ่นขอบตัวเรือนสตีล หรือ Bronze โดยจะมีการทำตลาดด้วยกัน 5 ทางเลือกย่อยทั้งสายยางและสายสตีลในสไตล์ย้อนยุค หรือ Separate Beads of Rices

Doxa เปิดตัวรุ่น Army ออกมาเมื่อต้นปี 2022 ในวาระของการฉลองครบรอบ 50 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับกองทัพสวิสส์ซึ่งพวกเขาผลิตนาฬิกาส่งให้ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 และต้นทศวรรษที่ 1970 โดยรุ่นแรกของ Army รุ่นผลิตใหม่มากับความเทพด้วยตัวเรือนแบบเซรามิก และมีการผลิตจำนวนจำกัดเพียง 100 เรือนด้วยการใช้พื้นฐานของนาฬิกาดำน้ำรุ่น Sub300T

สำหรับรุ่นใหม่นี้เป็น Doxa Army Bronze Bezel ราคาย่อมเยาขึ้นเพราะตัวเรือนผลิตจากสแตนเลสสตีล ส่วนสายก็มีให้เลือกทั้ง

785.10.031.10 – ขอบตัวเรือนสตีล อินเสิร์ตเซรามิกสีดำ และสายสตีล
785.10.031.20 – ขอบตัวเรือนสตีล อินเสิร์ตเซรามิกสีดำ และสายยางสีดำ
785.60.031.10 – ขอบตัวเรือนบรอนซ์ อินเสิร์ตเซรามิกสีเขียว และสายสตีล
785.60.031.26 – ขอบตัวเรือนบรอนซ์ อินเสิร์ตเซรามิกสีเขียว และสายยางสีเขียว
785.60.031.20 – ขอบตัวเรือนบรอนซ์ อินเสิร์ตเซรามิกสีเขียว และสายยางสีดำ

เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ ดีไซน์และรูปแบบของตัวเรือนจะยึดการออกแบบของรุ่น Sub300T ซึ่งเป็นนาฬิกาดำน้ำทรงสวยที่อ้างอิงดีไซน์นาฬิกาดำน้ำยุคแรกเริ่มของ Doxa มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 42.5 มิลลิเมตร ซึ่งจะเล็กลงจากรุ่นเซรามิก ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.5 มิลลิเมตร

ส่วนที่เหมือนกับรุ่น Army แบบ Limited Edition ที่ออกมาก่อนหน้านี้คือ ดีไซน์ของหน้าปัดและชุดเข็มที่เป็นทรงย้อนยุคและได้รับอิทธิพลมาจากนาฬิการุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวออกมาเมื่อ 50 ปีที่แล้ว โดยสิ่งที่แตกต่างออกไป คือ รุ่นที่ใช้อินเสิร์ตแบบเซรามิกสีเขียวจะมากับขอบตัวเรือนที่ผลิตจาก Bronze และสามารถขึ้นพาตินาได้ด้วย

Doxa Army Steel

การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของกลไก Outsource จากสวิสส์ ซึ่งน่าจะเป็น Sellita SW-200 ที่โคลนพื้นฐานมาจาก ETA 2824 และได้รับการปรับแต่งและขัดแต่งโดย Doxa เดินด้วยความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมงและมีกำลังสำรอง 38 ชั่วโมงโดยที่มีความสามารถในการกันน้ำ 300 เมตร

ราคาของ Doxa Army Steel อยู่ระหว่าง 2,050-2,190 ยูโรขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย