สำหรับคนที่ชอบนาฬิกา Homage นี่คืออีกทางเลือกที่น่าสนใจกับแบรนด์ไทยอย่าง Conquista ที่มาพร้อมกับรุ่น Time Travelerซึ่งมีราคาที่จับต้องได้ แต่สเป็กคุ้มค่าสุดๆ
Conquista Time Traveler ผลงานแบรนด์ไทยกับสเป็กสุดคุ้มราคา
-
ผลงานล่าสุดของแบรนด์ Homage คนไทยอย่าง Conquista กับนาฬิกา Dual Time ที่สามารถบอกเวลาที่ 2 ผ่านการหมุนปุ่มปรับสเกลที่ตำแหน่ง 10 นาฬิกา
-
ตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตรผลิตจาก Bronze CuSN8
-
ผลิตเพียง 30 เรือน และราคาจำหน่ายอยู่ที่ 7,990 บาท
สารภาพตามตรงเลยว่า ตอนแรกที่ Conquista เปิดรับ Pre-Order นาฬิการุ่นใหม่ของพวกเขาที่ชื่อว่า Time Travelerนั้น ผมยังลังเลและออกแนวสองจิตสองใจแม้ว่าหน้าตาของตัวนาฬิกาจะถูกโฉลกตั้งแต่แรกเห็นก็ตาม นั่นเป็นเพราะสาเหตุหลักเพียงข้อเดียว คือตัวเลขความหนาและเส้นผ่านศูนย์กลางที่ยังก้ำกึ้งอยู่กับข้อมือผม แต่สุดท้ายแล้ว Conquista Time Travelerก็เดินทางมาถึงมือผมจนได้ และบอกตามตรงเลยว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ
การมีกลุ่ม Homage Thai ใน Facebook ผมถือว่าเป็นพื้นที่ที่ดีมากในการเปิดโอกาสให้คนที่ชื่นชอบคนรักนาฬิกา Homage มารวมกัน และกลายเป็นโอกาสที่คนสร้างนาฬิกาในกลุ่มนี้ได้มาพบปะกับแฟนๆ ของพวกเขาที่ถือเป็น Lead Account เลยก็ว่าได้ และนำไปสู่การทำให้เป็นจริงในที่สุด ซึ่ง Conquista ก็เป็นอีกแบรนด์นอกเหนือจาก Nomad ที่ผมได้เจอผ่านทางกลุ่มนี้
จริงๆ แล้ว Time Travelerไม่ใช่นาฬิการุ่นแรกของ Conquista เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาทำตลาดมาอยู่พักหนึ่งแล้ว เพียงแต่ยังไม่สามารถทำให้เงินหลุดออกจากกระเป๋าผม ไม่ใช่เป็นเพราะว่าผลงานของคุณโจ หรือ Patiphan Inthasakubon ไม่ดี แต่แค่ยังไม่ตรงกับความชอบของผมสักเท่าไรเท่านั้นเอง ซึ่ง Time Travelerมีการรับจองกันตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และเพิ่งจะเริ่มส่งมอบเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการผลิตออกมาเพียง 30 เรือนเท่านั้น แต่โชคยังดีสำหรับคนโลเลอย่างผม (แต่สถานการณ์ลักษณะนี้คุณโจอาจจะเห็นตรงข้ามกับผม) เพราะหลังส่งมอบไปแล้ว จากจำนวนผลิตทั้งหมด ยังมีเหลืออยู่อีกนิดหน่อยและเป็นโอกาสให้พวกที่ยังลังเล (อย่างผม) ได้จับจองกันต่อ
ดังนั้น หลังอ่านจบ ถ้านาฬิกายิ้มให้คุณ จงอย่าได้ลังเล เพราะตัวเลขที่เหลืออยู่นั้นมีแค่หลักเดียวแล้วเท่านั้นหลังจากที่ผมดึงหนึ่งเรือนเข้ามาอยู่ในกรุตัวเอง
กว่าที่จะตัดสินใจได้ ผมใช้เวลานานร่วมสัปดาห์ในการพิจารณาและหาสิ่งที่มาช่วยเร้าการตัดสินใจของตัวเอง เรียกว่าจับเจ้า Glycine Airman DC-4 ที่บ้านมานั่งวัดขนาดและทาบข้อมือเพื่อความมั่นใจในขั้นสุดท้าย เพราะอย่างที่บอกผมติดเพียงเรื่องเดียวคือ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง และความหนาของตัวนาฬิกา ที่มีการระบุว่า 42 และ 11 มิลลิเมตรตามลำดับ แต่ยังดีที่ Lug to Lug อยู่ในระดับ 49 มิลลิเมตรปลายๆ และรูปแบบของหน้าปัดที่เป็นตัวเรือนแบบไม่มีขอบ Bezel หนาๆ เหมือนกับนาฬิกาทั่วไป ทำให้หน้าปัดมีการขยายพื้นที่ได้เต็มที่ ดูใหญ่ขึ้นในเชิงความรู้สึกแม้ว่าจะมีขนาดแค่ 42 มิลลิเมตร ก็เลยมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าจะไม่เล็กเกิดไปเมื่ออยู่บนข้อมือของผม…และอย่างที่บอก ผมก็ตัดสินใจไม่ผิด
Conquista Time Travelerมากับตัวเรือนบรอนซ์ CuSn8 ซึ่งในช่วงเวลาที่รอการเปลี่ยนจากสีทองสุดสว่างมาเป็นเป็นสีหม่นๆ พร้อมกับ Patina เล็กน้อยใช้เวลาไม่ค่อยนานเท่าไรเมื่อเปรียบเทียบกับพวกที่ผลิตจาก Brass และเท่าที่มีประสบการณ์น่าจะสัก 1-2 วันขึ้นอยู่กับเวลาในการสวมและสภาพของการสวม เช่น มีเหงื่อออกเยอะไหม หรือนั่งอยู่แต่ในห้องแอร์ ซึ่งแน่นอนว่าช่วงที่เปลี่ยนผ่านนี้ ผมเลือกใส่อยู่กับบ้านก่อนสักระยะ เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบสีสว่างๆ แบบเรือนทองสักเท่าไร รอสักพักสีพื้นผิวน่าจะหม่นลงและดูลงตัวมากขึ้น
สำหรับตัวนาฬิกาจะมากับสไตล์นักเดินทางโดยจะมีสเกลบอกเวลาที่ 2 อยู่ตรงขอบด้านในของตัวเรือน และสามารถหมุนได้ผ่านทางปุ่มในตำแหน่ง 10 นาฬิกา (อาจจะดูคล้ายกับ Omega Seamaster ทั้ง Sea Pro300 และ PO) ซึ่งแน่นอนว่าเป็นแบบขันเกลียวเหมือนกับเม็ดมะยม และการใช้งานผมว่าสะดวกกว่าพวกเข็มที่ 4 แบบ GMT แต่ข้อเสียอย่างเดียวที่ผมทดลองใช้งานคือ ความยุ่งยากในการมอง เพราะค่อนข้างลายตาและต้องใช้เวลาสักระยะในการปรับตัวการอ่านเวลา เรียกว่าถ้ามีโอกาสได้เดินทางข้ามโซนเวลาอีกครั้ง ผมว่าตัวเองได้นาฬิกาใหม่สำหรับติดข้อมือเป็นเพื่อนร่วมทางในทริปแล้ว
หน้าปัดเป็นสิ่งที่แรกที่ผมค่อนข้างชอบ Conquista Time Traveler หลักชั่วโมงและเข็มขัดแต่งอย่างสวยงาม และเคลือบด้วยสารเรืองแสง SuperLuminova BGW9 สีฟ้า อีกทั้งพวกเขายังจัดการในเรื่องการดีไซน์สัญลักษณ์ของแบรนด์ที่หันมาเน้นอะไรที่เรียบๆ ไม่ต้องหวือหวาเหมือนเมื่อก่อน และการวางตำแหน่งของฟอนต์รวมถึงการเลือกว่าอะไรควรอยู่บนหน้าปัด พวกเขาทำได้ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ต่างจากนาฬิกาดำน้ำรุ่นแรกของพวกเขา ที่ผมสารภาพตามตรงเลยว่า เหตุผลที่ไม่ลงชื่อ Pre-Order เพราะติดแค่หน้าปัดอย่างเดียว ที่เหลือสอบผ่านหมด
ในแง่ของความประณีตแต่ภาพรวมของการขัดแต่งตัวเรือนของ Conquista Time Traveler ผมให้สอบผ่านแบบเฉียดฉิว เพราะแม้ว่าการขัดแต่งและความประณีตของเส้นสายบนตัวเรือนจะทำได้ค่อนข้างน่าพอใจเมื่อเปรียบเทียบกับราคาและการเป็น Homage Watch ที่มีราคาหลักพันปลายๆ แต่สิ่งที่เล็ดรอดออกมาคือ ขอบที่ค่อนข้างคมของขาสายด้านในและบนเม็ดมะยมที่ชวนให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยแผลจริงๆ
ส่วนอีกเรื่องที่ไม่ค่อยถูกใจคือ บัคเคิลและความหนาของสายที่เมื่อรัดเข้ากับข้อมือแล้วผมมีความรู้สึกเกิดอาการที่สายตรง Pin ของบัคเคิลมันนูนขึ้นมาเหมือนกับเข้าไม่สุด และความหนาของสายที่ทำให้เข้ากับห่วงรัดสายได้ค่อนข้างลำบากเหมือนกับทำมาพอดีเกินไปหน่อย ถ้าลดความหนาของสายลงอีกนิด ผมว่าน่าจะลงตัวมากขึ้น
ถ้าไม่ติด 2 เรื่องนี้ที่เหลือบอกเลยว่าคือความพอใจแบบสุดๆ และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เพราะสเป็กถือว่ามาค่อนข้างเต็ม ทั้งกระจก Sapphire แบบเรียบและเคลือบสารกันการสะท้อนแสง สายหนังลายคล้ายๆ กับ Saffiano เดินด้ายสีเหลืองเข้มที่เข้ากับตัวเรือนไซส์ 22/20 ที่ผมว่าเป็นขนาดที่ลงตัวสำหรับนาฬิกาไซส์ 42 มิลลิเมตรที่มีขาสาย 22 มิลลิเมตร และที่ผมชอบคือ เดินด้ายแบบเส้นเล็กที่ทำให้เข้ากับตัวเรือนที่มีขนาดแค่ 42 มิลลิเมตร ไม่แย่งชิงความเด่นจากสายตาเวลามองไปที่ตัวนาฬิกา รวมถึงลายของฝาหลังที่สะท้อนถึงความเป็นไทยอย่างเต็มตัว ซึ่งผมชอบนะ และถ้าตอนนั้นนำภาพนี้มา PR ตอนรับ Pre-Order ผมอาจจะลืมสิ่งที่คาใจและตัดสินใจไปแล้วตั้งแต่ตอนนั้นก็ได้
เอาเข้าจริงๆ ปกติผมไม่ค่อยชอบอะไรที่ก้ำกึ่ง ซึ่งในเชิงความคิดก่อนที่นาฬิกาจะเดินทางมาถึงมือนั้น Conquista Time Traveler เข้าข่ายทำนองนี้ คือ ความหนาเพียง 11 มิลลิเมตรจะเรียกว่าเป็น Sport Watch แบบเต็มตัวก็ลำบาก จะบอกว่าเป็น Dress Watch ผมก็ว่าหนาไปหน่อย
แต่สุดท้ายเมื่อลองขึ้นข้อจริงๆ แล้ว อารมณ์ของผมเปลี่ยนทันที Conquista Time Traveler ดูสมดุลเมื่ออยู่บนข้อมือไซส์ 7 นิ้วของผม เรียกว่าขนาดกำลังดีเลย (แม้ว่าใจจริงผมอยากจะให้มันหนาขึ้นมาสักอีก 2 มิลลิเมตรก็ตาม) และต้องบอกว่านาฬิกาเรือนนี้มาในจังหวะที่ผมกำลังอยากจะมีนาฬิกาไซส์นี้เพิ่มขึ้นในกรุอีกสักเรือนนอกจาก Airman ไซส์ 42 มิลลิเมตรกับการสวมในจังหวะที่ต้องแต่งตัวเรียบร้อยเพราะโดนเจ้านายเรียกประชุมทีม หรือจังหวะที่ออกทางการนิดๆ เนื่องจากตามปกติแล้วผมไม่ค่อยถูกโฉลกกับ Dress Watch เรือนบางๆ เรียบๆ สักเท่าไร เรียกว่ายอมข้อมือนูนนิดๆ ตอนใส่สูทดีกว่ามีอะไรที่ไม่ถูกใจคาดอยู่บนข้อมือ
ส่วนกลไกนั้น ไม่มีอะไรที่น่าห่วง และ Conquista คือ Homage Watch ทั่วไปที่ใช้กลไก Aftermarket ของบรรดา Seiko อย่าง NH35 (หรือ 4R35 ที่อยู่ใน Seiko Samurai และนาฬิกาอีกหลายเรือนของพวกเขา) ดังนั้น ความทนทาน ความเที่ยงตรงในระดับหนึ่ง และระดับการสำรองพลังงาน 41 ชั่วโมงถือว่าจบสำหรับส่วนนี้
ณ ตอนนี้ผมสั่งเรือนนี้มานั้น Conquista Time Traveler ยังเหลืออีก 6 เรือน และอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่า ถ้าอ่านจบแล้วนาฬิกายิ้มให้ อย่าชักช้า กับราคาป้าย 7,990 บาท ผมถือว่า Conquista Time Traveler สอบผ่าน และไม่ผิดหวัง ส่วนตอนนี้ผมเฝ้ารอผลงานใหม่ของคุณโจกับงาน Homage Watch ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Aquadive นาฬิกาดำน้ำเยอรมัน เพราะลงชื่อจองไปแล้วตั้งแต่เริ่มมีการ Pre-Order
ข้อมูลทางเทคนิค :
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง : 42 มิลลิเมตร
- ความหนา : 11 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 49.95 มิลลิเมตร
- ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
- วัสดุตัวเรือน : Bronze CuSn8
- วัสดุสาย/บัคเคิล : หนัง/Bronze
- กระจก : Sapphire พร้อมเคลือบสารกันการสะท้อนแสง
- ความสามารถในการกันน้ำ : 300 เมตร
- กลไก : NH35 Seiko แฮ็คเข็มวินาที และขึ้นลานมือ
- ความถี่ : 21,600 ครั้งต่อชั่วโมง
- การสำรองพลังงาน : 41 ชั่วโมง
- จำนวนการผลิต : 30 เรือน
- ประทับใจ : ดีไซน์ หน้าปัด สเป็กที่คุ้มค่ากับราคา
- ไม่ประทับใจ : ความหนาของสาย
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/