Citizen นำนาฬิกาทรง Bullhead กลับมาสู่ตลาดอีกครั้ง หลังจากที่เคยเปิดตัวรุ่นแรกเมื่อปี 1973 โดย Citizen Tsuno Chronograph Racer จะผลิตขายด้วยจำนวนจำกัดเพียง 1,973 เรือน พร้อมกลไกกินแสง Ec-Drive และมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไป
Citizen Tsuno Chronograph Racer เมื่อ Bullhead คัมแบ็ค
เรื่องของนาฬิกาแบบมีเม็ดมะยมและปุ่มกดในระบบ Chronograph อยู่ในตำแหน่ง 12 นาฬิกาที่ฝรั่งเรียกกันว่า Bullhead และโด่งดังมากในยุคทศวรรษที่ 1970 นั้น ไม่ได้มีแค่ Omega และ Seiko เท่านั้นซึ่งเป็นที่รู้จักโดยทั่วไป แต่ยังมี Citizen ที่ได้รับการยอมรับถึงการผลิตนาฬิกาเพื่อบุกตลาดด้วยดีไซน์ลักษณะนี้ด้วย และในตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคัมแบ็คด้วยคอลเล็กชั่นใหม่แต่ชื่อเดิมอย่าง Tsuno Chronograph Racer ซึ่งจะมีการผลิตในจำนวนจำกัด และที่สำคัญ คือ ราคาไม่แรงจนเกินไป อยู่ในระดับ 795-895 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 25,000-27,000 บาทเท่านั้น
เรื่องราวของ Citizen กับนาฬิกาประเภทนี้ต้องย้อนกลับไปในปี 1973 เมื่อพวกเขาเปิดตัวนาฬิการุ่นแรกออกมาในชื่อ Tsuno Chrono Challenge Timer พร้อมกลไก Caliber 8110 ที่เด่นกับระบบ Column Wheel และ Flyback กับงานออกแบบในสไตล์ Bullhead พร้อมกลไกอัตโนมัติ แถมว่ากันว่านาฬิกาในคอลเล็กชั่นนี้เป็นบันไดขั้นแรกที่ทำให้ก่อกำเนิดนาฬิกาในตระกูล Promaster ในปี 1989 อีกด้วย
สำหรับรุ่นใหม่นี้จะเปิดตัวในงาน Basel World 2018 ที่กำลังจัดอยู่ในรอบสื่อมวลชนที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และ Citizen Tsuno Chronograph Racer ก็เป็นการนำ Tsuno Chrono Challenge Timer กลับมาผลิตอีกครั้ง โดยยังอ้างอิงรูปแบบและสไตล์ Bullhead บนตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 45 มิลลิเมตร แต่ที่เปลี่ยนไปอย่างมากคือ มันจะไม่ได้ใช้กลไกอัตโนมัติอีกต่อไป แต่ปรับตามแนวคิดของ Citizen ด้วยกลไก Eco-Drive แบบกินแสง ซึ่งคุณจะเห็นได้จากวงย่อยในตำแหน่ง 9 นาฬิกาที่เป็น Power Reserve Indicator พร้อมหน้าปัดที่ดูแล้วแปลกตา อย่างการย้ายช่องหน้าต่างวันที่ หรือ Date ไปไว้ที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกาและเม็ดมะยมในตำแหน่ง 5 นาฬิกาที่เรายังไม่ทราบว่ามันเอาไว้ใช้ทำอะไรกันแน่
อย่างที่แจ้งไปข้างต้น ค่าตัวของนาฬิกาเรือนนี้อยู่ในระดับที่น่าสนใจ เพียง 795-895 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 25,000-27,000 บาทเท่านั้น ส่วนการผลิตจะมีเพียง 1,973 เรือนตามปีที่ผลิต แต่ไม่ได้บอกว่า รุ่นย่อย (ซึ่งเท่าที่เห็นในภาพมี 4 แบบ) ละตามจำนวนนี้ หรือรวมกันทั้ง 4 รุ่นย่อยแล้วเท่านี้
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/