ในวงเงินไม่เกิน 50,000 บาทสำหรับนาฬิกาใหม่ คุณคิดว่าจะสามารถหานาฬิกาดำน้ำที่มีความสามารถในการทำงานภายใต้แรงดันเทียบเท่า 1,000 เมตร แถมตัวเรือนยังเป็นไทเทเนียม และมีกลไกอัตโนมัติได้หรือไม่ ? คำตอบคือ ‘มี’ และด้วยสเปกที่เทพและหน้าตาที่สวยโดนใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะทำให้ Citizen Promaster NH6930-09F หรือที่รู้จักกันในชื่อ Autozilla กลายเป็นนาฬิกาดำน้ำยอดฮิตที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก
Citizen Promaster NH6930-09F : ตัวโหดในราคาที่คุณเป็นเจ้าของได้
นาฬิกา Citizen Promaster NH6930-09F ตระกูลนี้จริงๆ แล้วมีด้วยกัน 3 รุ่นคือ รุ่นประหยัดที่เรียกกันติดปากกว่า Ecozilla กินแสงใช้กลไก Eco-Drive ตัวเรือนเหล็กธรรมดา (BJ8050-08E) และ Ecozilla Titanium (BJ8041-09E) ที่ขยับราคาขึ้นมาอีกหน่อย ก่อนปิดท้ายด้วยตัวโหด Autozilla ที่เห็นอยู่นี้
Autozilla มักจะถูกเปรียบเทียบกับนาฬิกาตระกูล Tuna Can ของ Seiko อยู่เสมอ ด้วยเพราะมันเป็นนาฬิกาจากญี่ปุ่นเหมือนกัน และมีความสามารถในการทนแรงระดันเทียบเท่าระดับ 1,000 เมตรเพียงแต่ถ้ามองในแง่ของค่าตัวแล้ว จะพบว่า Autozilla จัดอยู่ในระดับเดียวกับ Darth Tuna ซึ่งใช้กลไกควอตซ์เท่านั้น ยังไม่สามารถขยับชั้นขึ้นมาเทียบกับกับตัวแรงของ Seiko อย่าง Emperor Tuna ที่ใช้กลไกอัตโนมัติ ซึ่งแพงกว่าเกือบเท่าตัว
ก่อนหน้าที่ผมจะมีโอกาสได้พบกับเจ้า Autozilla ช่วงนั้นผมหลงใหลอยู่กับ Darth Tuna ของตัวเอง และค่อยๆ ศึกษาและตามอ่านบทความที่เกี่ยวข้องกับนาฬิการุ่นนี้จากเว็บไซต์ของผู้ใช้ในต่างประเทศ จนกระทั่งมาเจอเข้ากับเว็บหนึ่ง ที่นำ Darth Tuna มาเปรียบเทียบกับเจ้า Autozilla…และผมก็ตกหลุมรักมันอย่างจัง
สำหรับคนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าการซื้อนาฬิกาสักเรือนมันคือสินทรัพย์ และการเลือกจะไม่ต้องทำให้คุณเลือดหมดตัวในกรณีที่จำเป็นต้องขาย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะแต่ละคนต่างมีเหตุผลส่วนตัว แต่สำหรับผม ถ้าไม่ชอบผมไม่เลือก ต่อให้นาฬิกาเรือนนั้นขายต่อแล้วราคาจะดีหรือมีอนาคตดีขนาดไหน ไม่ใช่เพราะรวยหรืออะไรหรอก แต่ผมเลือกนาฬิกาเพราะ Passion ล้วนๆ ซึ่งเราควรจะใส่นาฬิกาที่เราชอบหรือหลงรักมันไม่ใช่หรือ ?
เอาละกลับมาที่เจ้า Autozilla ตอนที่ได้มาสารภาพตามตรงว่า นี่คือนาฬิกาที่แปลกและสวยมาก ตัวเรือนหนา และบึกบึน พรายน้ำสีฟ้าสวยแปลกตาจากพวกนาฬิกาดำน้ำจากญี่ปุ่นทั่วไปที่มักจะเป็นสีเขียว เข็มนาทีขนาดใหญ่และสีส้มเพื่อช่วยเพิ่มความง่ายในการมองเห็นเวลาที่คุณจับเวลา ฮีเลี่ยมวาล์วตั้งอยู่ในตำแหน่ง 2 นาฬิกา ซึ่งถือว่าค่อนข้างแปลก แต่ก็สอดคล้องกับการเป็นพวกขับซ้าย ซึ่งการที่เม็ดมะยมอยู่ทางซ้ายทำเอาคนถนัดขวาอย่างผมตั้งเวลาโคตรลำบากเลย แถมเม็ดมะยมยังทิ่มแขนด้วย แต่ช่างมันเถอะ แค่ความกวนใจเล็กๆ น้อยๆ และตัวล็อคเม็ดมะยมที่มีวิธีเปิดที่ค่อนข้างแปลก แต่ก็ไม่ยากเกินไปในการเรียนรู้
เอาละนั่นคือสิ่งที่ผมชอบ แต่ที่ไม่ชอบจริงๆ อันแรกคือ เรื่องของสายยางที่โคตรจะแข็งเลย ใส่ลำบากมาก จะถอดเข้าถอดออกแต่ละทีเล่นเอาเหนื่อย และการที่ Citizen อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ โดยสามารถถอด Bezel ออกเพื่อล้างหรือทำความสะอาดได้ ในมุมผมกลับมองว่าดันทำให้ Bezel กลับหลวมและก๊อกแก๊กยังไงพิกล เช่นเดียวกับความฝืดในการหมุนของ Bezel ซึ่งแม้ว่าจะเป็นแบบทางเดียวเหมือนนาฬิกาดำน้ำทั่วไป แต่ดูเหมือนว่าเจ้า Autozilla ของผมมันจะหมุนไปง่ายหน่อย แทบจะไม่มีความฝืดเลย แค่มือปัดไปโดยนิดเดียวก็หมุนแล้ว
ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่คุณจับเวลาในขณะกำลังดำน้ำแล้วเผลอไปโดนตรงนี้เข้า
อีกเรื่องคือ กลไก 8203 ของ Miyota ซึ่งก็คือบริษัทในเครือของ Citizen นั่นแหละ ที่ไม่สามารถ Hack เข็มวินาทีได้ ซึ่งตรงนี้อาจจะทำให้หลายคนตั้งคำถามขึ้นมาว่าด้วยค่าตัวที่แพงขนาดนี้ ทำไมถึงใช้กลไกโบราณสุดๆ เพราะเครื่องนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 1977 สามารถขึ้นลานด้วยมือได้ก็จริง แต่ดัน Hack เข็มวินาทีไม่ได้ บางคนอาจจะซีเรียส แต่กับผม มีนิดนึงแต่ก็ไม่ได้กวนใจมากจนถึงขนาดเลิกคบกันไปเลย ส่วนการสำรองพลังงานก็อยู่ที่ 45 ชั่วโมงโดยประมาณ ถือว่าพอรับได้สำหรับการพาเจ้า Autozilla ผ่านวันเสาร์-อาทิตย์ได้โดยที่ไม่ต้องมาตั้งเวลาใหม่ในวันจันทร์
หน้าจอแบบ Day/Date ซึ่งหลายคนอาจจะชอบเพราะมาครบ แต่กับผมสารภาพตรงๆ ไม่ค่อยชอบเท่าไร ผมชอบนาฬิกาแบบไม่มีวันที่มากกว่า แต่ถ้ามีก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงผมก็ไม่ตั้งอยู่แล้ว เวลาจะใส่ก็ปรับแค่เวลาอย่างเดียวพอ แต่ตรง Day ของ Autozilla จะมี 2 เวอร์ชันคือ ภาษาอังกฤษ/ญี่ปุ่นสำหรับรุ่นที่ขายในตลาดเอเชีย และอังกฤษ/สเปนสำหรับตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือ ตรงนี้ดูได้จากรหัสรุ่น NH6930-09F จะเป็นแบบแรก และ NH6931-06E จะเป็นแบบหลัง
กับขนาดตัวเรือนที่ใหญ่ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางระดับ 49 มิลลิเมตรแบบไม่รวมเม็ดมะยม และ 55 มิลลิเมตรเมื่อรวมเม็ดมะยม แถมยังหนาถึง 19 มิลลิเมตร ถามว่าหนักไหม ผมตอบเลยว่าเฉยๆ เพราะจากการที่ตัวเรือนทำจากไทเทเนียมพร้อมด้วยกรรมวิธีที่เรียกว่า Duratec ที่ช่วยทำให้พื้นผิววัสดุที่มีความแข็งและทนทานต่อการขีดข่วนมากขึ้น น้ำหนักของเจ้า Autozilla อยู่ที่ 135 กรัม ซึ่งถือว่าพอรับได้
แต่สิ่งที่กวนใจผมสุดๆ คือ เรื่องของความแข็งของสายยาง และหัวเข็มขัดที่ดันเป็นแบบที่คุณจะต้องสอดสายถึง 2 รอบเข้ากับตัวล็อคสาย ทำให้ไม่สะดวกในการใส่เอาเสียเลย และอีกอย่างด้วยความที่ผมเป็นคนที่ไม่ชอบใส่สายเดิมๆ และมักจะเลือกเปลี่ยนเป็นสายหนังหรือสายประเภทอื่นๆ นั่นเลยทำให้ Autozilla ที่มากับตัวเรือนแบบไร้ขาสายเป็นอะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้ในเรื่องการเปลี่ยนสายทดแทน นอกเสียจากว่าคุณจะหา Adapter
และก็โชคดีที่นาฬิการุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักเล่นชาวต่างชาติ และหลายคนมีความต้องการที่ตรงกันคือต้องการเปลี่ยนสาย ก็เลยมีคนผลิต Adapter ออกมาที่ชื่อว่า Suppa Parts แถมยังเป็นผลผลิตที่มีถิ่นกำเนิดในไทยด้วย ทุกอย่างก็เลยสะดวก สั่งมาเปลี่ยนในราคาคู่ละ 2,000 บาทเป็นอันหมดปัญหานี้
อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของ Suppa Parts ทำให้ตัวเรือนมี Lug-to-Lug เพิ่มขึ้น ใครที่มีขนาดแขนต่ำกว่า 7 นิ้วมีสิทธิ์ออกอาการกางได้ เพราะขนาดข้อมือผมไซส์ 7 นิ้วยังหมิ่นๆ เลย เพราะค่านี้ขยับจาก 49 มิลลิเมตรมาเป็น 56.2 มิลลิเมตรเลยทีเดียว
เอาเข้าจริงๆ ผมตัดสินใจซื้อนาฬิกาเรือนนี้เพราะ Passion ในหน้าตาของมันเป็นหลัก เพราะเมื่อดูถึงอายุอานามที่ว่ากันว่าเริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2000 Spec ของนาฬิกาซึ่งวางกลไกที่ผลิตมานาน บวกกับความสามารถของมันที่แม้ว่าจะผ่านมาตรฐาน ISO6425 ที่สามารถใช้งานกับการดำน้ำแบบ Mix-Gas Diving หรือการทำงานในแบบ Saturation Diving ในห้องที่มีก๊าซฮีเลี่ยมผสมอยู่ ประเมินจากค่าตัวในระดับ 40,000 บาทสำหรับมือ 1 ผมว่ายังไงก็ไม่คุ้ม นอกเสียจากว่าคุณจะมี Passion แบบเดียวกับผม หรือได้ของมาแบบมือสองสภาพเยี่ยมราคาไม่แรง…อย่างนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย
คุณสมบัติของ : Citizen Promaster NH6930-09F
- ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง : 49 มิลลิเมตร (ไม่รวมเม็ดมะยม)
- ความหนา : 19 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 135 กรัม
- กระจก : Sapphire
- กั้นน้ำ : 1,000 เมตร
- กลไก : Miyota 8320 ขึ้นลานมือ แต่ Hack เข็มวินาทีไม่ได้
- สำรองพลังงาน : ประมาณ 45 ชั่วโมง
- ความถี่ : 21,000 ครั้งต่อชั่วโมง
- ความเที่ยวตรง : -10/+20 วินาที ต่อวัน
- จุดเด่น : หน้าตาดุดัน มีเอกลักษณ์ ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียม
- จุดด้อย : กลไกเก่า นาฬิกาขับซ้ายทำให้ใส่ลำบากเพราะเม็ดมะยมชนกับแขน และตั้งเวลาลำบาก ราคาแพงเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับสเป็กและโอกาสของการใช้งาน
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/