Citizen Promaster Mechanical Diver NB6004-08E มีผิดหวังนิดหน่อยแต่โดยรวมสอบผ่าน

ในที่สุด Citizen Promaster Mechanical Diver NB6004-08E ก็เดินทางมาถึงมือจนได้ แน่นอนว่าแม้จะเป็นนาฬิกาที่อยู่ใน Wish List ของปีนี้ แต่ทว่าก็ยังมีบางจุดที่เมื่อได้สัมผัสและลองขึ้นข้อแล้ว กลับไม่ค่อยประทับใจเท่าไร

Citizen Promaster Mechanical Diver NB6004-08E มีผิดหวังนิดหน่อยแต่โดยรวมสอบผ่าน

•  การกลับสู่ตลาดดำน้ำด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ 9051

• ตัวเรือนผลิตจาก Super Titanium ที่มีขนาดถึง 46 มิลลิเมตร และกันน้ำได้ 200 เมตร

• ราคาป้ายในเมืองไทย 38,500 บาท

ตอนที่ Citizen เปิดศักราชใหม่ของนาฬิกาดำน้ำของพวกเขาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมเล็งผลผลิตใหม่จากคอลเล็กชั่นนี้ของพวกเขาอยู่ 2 รุ่นด้วยกัน เรือนแรกปิดจ็อบไปแล้วซึ่งเป็นงาน Re-Issue อย่าง BN0220-16E และผมได้จัดการทำรีวิวไปแล้วหลังจากที่สั่งผ่านทาง eBay ส่วนอีกเรือนคือ Citizen Promaster Mechanical Diver NB6004-08E ถือเป็นการกลับมาสู่ตลาดนาฬิกาดำน้ำกลไกอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ และมาพร้อมกลไกรุ่นใหม่อย่าง Cal.9051 ซึ่งในท้ายที่สุดผมจัดการเก็บเข้ากรุหลังจากที่ได้เห็นตัวเป็นๆ ในบ้านเรา

อะไรทำให้ผมชื่นชอบ Citizen หรือ ?

คำตอบคือ การเป็นนาฬิกาที่ถือว่าเป็น Tool Watch และมีราคาที่จับต้องได้ Citizen มีคอลเล็กชั่นเจ๋งๆ มากมาย และส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในกลุ่ม Promaster ของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกานักบินอย่าง Skyhawk, Nighthawk หรือ Navihawk รวมไปถึงนาฬิกาดำน้ำที่มาพร้อมกับมาตรวัดระดับความลึกอย่างตระกูล Aqualand และนาฬิกาวัดความสูงอย่าง Altichron พวกเขาไม่แคร์คนจากโลกจักรกล และพัฒนานาฬิกาตัวเองด้วยนวัตกรรม และบางรุ่นบอกได้เลยว่าดีไซน์เฉียบ และถูกจริตผมมาก

อย่างไรก็ตาม ด้วยการยึดมั่นในแนวทางลักษณะนี้แหละที่ทำให้บางครั้งพวกเขาต้องเสียลูกค้าที่คลั่งในการนั่งดูความเนียนของเข็มวินาทีที่กำลังเดินของนาฬิกาจักรกลไป เพราะ Eco-Drive ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้ ซึ่งผมคิดว่านั่นคือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Citizen จำเป็นต้องปูทางในการคัมแบ็คสู่ตลาดกลุ่มนี้ด้วยรุ่น Fugu ที่ได้รับการตอบรับที่ดีในระดับหนึ่ง ก่อนที่จะมารุกตลาดอีกระลอกด้วย Citizen Promaster Mechanical Diver NB6004-08E ที่มาพร้อมกลไก In-House รุ่นใหม่ของพวกเขาอย่าง Cal.9051

Citizen Promaster Mechanical Diver มีจำหน่ายอยู่ในตลาดด้วยกัน 3 สี 3 แบบ แต่บ้านเราเลือกนำเข้ารุ่นพื้นฐาน ซึ่งก็คือ NB6004-08E โดยส่วนตัวผมว่าชอบมากกว่ารุ่นตัวเรือนรมดำเข็มนาทีเขียว หรืออีกรุ่นที่เป็นพื้นหน้าปัดเขียวเสียอีก เพราะนาฬิกาดำน้ำกับการใช้โทนสีดำ-ส้มเป็นอะไรที่เข้ากันมากและคลาสสิคสุดๆ โดยในรุ่นนี้ตลาดต่างประเทศจะมีขายพร้อมกับสายโลหะด้วย แต่บ้านเราผมยังไม่เห็น

กับราคา 38,500 บาทผมเชื่อว่าหลายคนสะดุ้งกับราคาป้ายอย่างแน่นอน พร้อมกับต้องมองหาจุดเด่นอะไรสักอย่างที่จะทำให้ตัดสินใจซื้อ Citizen Promaster Mechanical Diver NB6004-08E โดยที่ไม่ต้องเอาคู่แข่งในตลาดมาเปรียบเทียบ และสุดท้ายสิ่งที่นำพาไปสำหรับผมก็คือ ความชอบ

นาฬิกาเรือนนี้มากับตัวเรือนใหญ่เอาเรื่อง และถ้าดูตัวเลขแล้วมิติตัวเรือนแทบจะไม่เป็นมิตรกับขนาดข้อมือเลย เพราะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 46 มิลลิเมตร และ Lug to Lug ถึง 51 มิลลิเมตร และนี่ยังไม่รวมความหนาในระดับ 15.3 มิลลิเมตรเข้าไปด้วยนะ บอกได้เลยว่านี่คือนาฬิกาที่เกิดมาเพื่อคนที่มีข้อมือในระดับ 7 นิ้วขึ้นไป ซึ่งเป็นขนาดที่ใส่แล้วสวย ไม่ล้นออกนอกข้อจนเกินไป

ตัวเรือนและขอบตัวเรือนผลิตจาก Super Titanium ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Citizen พร้อมกับเคลือบ Duratect ที่ช่วยทำให้เกิดรอยขูดขีดบนพื้นผิวยากกว่าไทเทเนียมทั่วไป ตัวเรือนมีการขัดแต่งเงาสลับซาตินซึ่งดูลงตัวและสวยงาม ที่สำคัญคือ นาฬิการุ่นนี้เบามาก เรียกว่าตอนยกออกจากกล่องนี่ อารมณ์ที่ได้เหมือนกับการยกนาฬิกาที่ผลิตจากพลาสติกออกจากกล่องยังไงยังงั้น

สิ่งที่ผมชอบในนาฬิการุ่นนี้คือ เรื่องของการเซ็ตสไตล์ในการสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะในส่วนของพื้นผิว เช่น หน้าปัด ขอบตัวเรือน และเม็ดมะยมที่มีแพทเทิร์นของลายที่คล้ายกันในแบบทรงปิรามิด ส่วนหน้าปัดมีการเล่นโทนสีคล้ายกับ Fume ที่ไล่ความเข้มจากด้านนอกเข้ามาสู่ด้านใน ช่วยทำให้มีเสน่ห์และทำให้หน้าปัดดูมีมิติมากขึ้น

ส่วนอีกจุดที่ถูกใจคือ การเซ็ตชุดเข็มในแบบ Plongeur Hands ที่ใช้โทนสีและสร้างความเด่นด้วยรูปทรงให้กับเข็มนาที ซึ่งจะเป็นเข็มหลักที่นักดำน้ำใช้ในการจับเวลาร่วมกับสเกลบนขอบตัวเรือน นอกจากนั้นเข็มชั่วโมงของนาฬิกาดำน้ำของ Citizen จะมีรูปแบบที่เฉพาะตัวคือเป็นหัวลูกศรและที่ตรงก้านตรงจะมีเส้นแบ่งครึ่งคาดกลางเอาไว้ ซึ่ง Citizen พยายามคงดีไซน์นี้เอาไว้และใช้กับนาฬิกาดำน้ำเกือบทุกรุ่นของพวกเขา

ที่สำคัญคือ Citizen Promaster Mechanical Diver NB6004-08E เป็นนาฬิกาที่สวยเวลาวางอยู่ตามปกติ แต่พอขึ้นข้อมือแล้ว ผมกลับไม่ค่อยชอบกับสายยางของมันที่ออกแบบข้อย่นให้ดูบานออกจนทำให้นาฬิกาดูกางและเทอะทะ ซึ่งเป็นอารมณ์เดียวกับที่ได้รับตอนคาด Solarzilla หรือ BN7020-09E พร้อมสายยางเดิมบนข้อมือ

ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องออกแบบบให้ข้อย่นบนสายมันกางออกขนาดนั้น เพราะถ้าจะบอกว่าเผื่อเอาไว้สำหรับใช้กับ Wet Suit ก็คงต้องถามต่อว่า ทำไม ? เพราะพวกเขาก็มีสายต่อ หรือ Extended Strap มาให้อยู่ในเซ็ตอยู่แล้ว

สุดท้ายผมจัดการแก้ปัญหานี้ด้วยการหาสายหนังสวยๆ 24 มิลลิเมตรมาจัดการสลับแทนซะเลย ตรงนี้สามารถขจัดปัญหาเรื่องอาการที่ดูเหมือนกับมีการกางออกเพราะดีไซน์ข้อย่นของสายยาง เช่นเดียวกับการทำให้ตัวนาฬิกาดูเทอะทะอันมาจากการออกแบบหัวสายให้นูนสูงเพื่อแนบและยาวต่อเนื่องกับตัวเรือนส่วนบนใกล้กับขอบตัวเรือน

ขณะที่อีกสิ่งที่ค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อยคือ ความสว่างของพรายน้ำที่ทั้งไม่ฉับไวในการรับแสงและความต่อเนื่องในการเรืองแสง จริงอยู่ที่แม้ว่าจะมีลูกเล่นในการเคลือบสารเรืองแสงบนตัวอักษร Citizen ที่อยู่บนตัวรัดสายมาให้ด้วย แต่ส่วนตัวคิดว่า Citizen น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เพราะพรายน้ำที่สว่างทั้งในแง่ประสิทธิภาพและความต่อเนื่องที่ยาวนานถือเป็นความคาดหวังปกติจากคนรักนาฬิกาดำน้ำที่นาฬิกาประเภทนี้ควรจะต้องมี

สิ่งที่ถูกพูดถึงเสมอสำหรับ Citizen Promaster Mechanical Diver NB6004-08E คือ การใช้กลไกใหม่ที่เป็น In-House ของ Citizen โดย Cal.9051 เดินด้วยความถี่ 4Hz หรือ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านั้นในราวเดือนมีนาคม ได้ถูกเปิดตัวออกมาแล้วก่อนหน้านั้นกับรุ่น Series 8 ของ Citizen

ตัวกลไกได้รับการพัฒนาให้มีความต้านทานต่อสนามแม่เหล็ก และทาง Citizen กล้าเคลมเลยว่านาฬิกายังทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมแม้ว่าจะวางอยู่ในใกล้กับอุปกรณ์ที่ปล่อยสนามแม่เหล็กในระดับ 16,000 A/m ในระยะห่างเพียง 1 เซ็นติเมตร เรียกว่าเกิดมาเพื่อการใช้ในงานชีวิตประจำวันที่จะต้องเจอกับอุปกรณ์พกพาต่างๆ ที่ชอบปล่อยสนามแม่เหล็ก เช่นเดียวกับการให้ความสำคัญสำหรับนักดำน้ำมืออาชีพที่จะต้องอยู่ใกล้เครื่องไม้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานของพวกเขา

ส่วนในเรื่องกำลังสำรองอยู่ที่ 42 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าต่ำไปหน่อยสำหรับการที่จะชูให้กลไกนี้มีความน่าสนใจ ซึ่งถ้าไม่ได้แคร์ในเรื่องตรงนี้มากนักถือว่า Cal.9051 เป็นกลไกที่มีความโดดเด่นในระดับหนึ่งในแง่ของการใช้งาน

ดูเหมือนนาฬิกาเรือนนี้จะมีแต่สิ่งที่น่าชื่นชม แต่เอาเข้าจริงๆ หลังจากที่ใช้ไปได้สักระยะ ผมกลับไม่ถูกใจในบางสิ่งบางอย่างที่เคยชอบในครั้งแรก เช่น สเกลบนขอบตัวเรือนที่เป็นแบบสลักและมีสีของเนื้อโลหะซึ่งเมื่อต้องใช้งานจริงๆ แล้วดูยากมาก และมักจะละลานตาไปกับลายแบบพิรามิดที่อยู่บนพื้นของขอบตัวเรือน กระจกแบบทรงโดมที่อาจจะเจ๋งเวลาอยู่ในน้ำ และเมื่อเป็นพวกชอบ แต่ชีวิตไม่เคยดำน้ำ ผมว่ามันหลอกๆ ตายังไงพิกล

แล้วทั้งหมดจะลดทอนความชอบของผมที่มีต่อ Citizen Promaster Mechanical Diver NB6004-08E ?

คำตอบคือ นิดนึงแต่ก็ไม่ได้ถึงกับมากมายอะไร เพราะส่วนตัวผมถูกโฉลกกับหน้าตาและรูปทรงของนาฬิการุ่นนี้ในการเป็นนาฬิกาดำน้ำที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานอย่างจริงจังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พูดง่ายๆ คือ เทใจไปให้เกินครึ่งแล้ว ส่วนจุดที่บ่นก็เป็นแค่สิ่งที่ผิดหวังเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เพราะเมื่อมองในแง่ของภาพรวมแล้วถือว่า Citizen Promaster Mechanical Diver NB6004-08E สอบผ่านในแง่การตอบสนองต่อความคาดหวังของผมเมื่อได้สัมผัสนาฬิกาตัวเป็นๆ แถมแพ็คเกจก็ยังทำได้อลังการงานสร้าง มากับถังดำน้ำไซส์ย่อมๆ ตามแบบฉบับของ Citizen

ที่เหลือก็คือเรื่องของราคาแล้วละครับ เพราะตัวเลขตามป้ายที่ขายในไทยคือ 38,500 บาท ดูแล้วไม่สูง (สำหรับคนที่หลงใหลในนาฬิกาเรือนนี้ และสเป็กที่มีอยู่ของตัวนาฬิกา) แต่สำหรับขาจร ถือว่าทางเลือกในการตัดสินใจเพื่อใช้จ่ายเงินก่อนนี้ถือว่ามีเยอะมากในตลาด และแต่ละตัวก็ถือว่ามีจุดแข็งและจุดเด่นที่ไม่แพ้กับ Promaster Mechanical Diver NB6004-08E

ส่วนตัวผมว่าโอกาสที่ขาจรจะเลือกไปชอยส์อื่นๆ ก็มีมาก นอกเสียจากว่าจะได้รับดีลที่ดีและพิเศษมากๆ เข้ามาช่วยทำให้การตัดสินใจในการเป็นเจ้าของ Promaster Mechanical Diver NB6004-08E นั้นง่ายขึ้น และถ้าคุณได้เป็นเจ้าของ และมีโอกาสสวมนาฬิกาเรือนนี้อยู่บนข้อนานๆ คุณจะพบกับความสวยและความน่าหลงใหลที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

รายละเอียดทางเทคนิค : 

• เส้นผ่านศูนย์กลาง : 46 มิลลิเมตร
• Lug to Lug : 51 มิลลิเมตร
• ความหนา : 15.3 มิลลิเมตร
• ความกว้างขาสาย : 24 มิลลิเมตร
• วัสดุตัวเรือนและขอบตัวเรือน : Super Titanium
• กระจก : Sapphire ทรงโดม เคลือบสารกันการสะท้อนแสง
• กลไก : อัตโนมัติ Calibre 9051
• ความถี่ : 4 Hz / 28,800 ครั้งต่อชั่วโม
• การสำรองพลังงาน : 42 ชั่วโมง
• ความเที่ยงตรง : -10 ถึง +20 วินาทีต่อวัน
• การกันน้ำ : 200 เมตร

• ประทับใจ : งานออกแบบ และตัวเรือนที่เบา
• ไม่ประทับใจ : กลไกที่สำรองพลังงานต่ำไปนิดเมื่อเทียบกับราคา สายยางที่บานออกเวลาสวมนาฬิกาอยู่บนข้อมือ

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/