Citizen Promaster Altichron ทำให้ผมยอมสารภาพก่อนว่าผมเป็นแฟนตัวยงของ Citizen โดยเฉพาะนาฬิกาที่มาจากไลน์ Promaster เหตุผลอาจจะเป็นเพราะความหลังสมัยที่ยังเรียนมหาวิทยาลัยกับความประทับใจในการยืนเกาะตู้เพื่อดูนาฬิกาสุดเทพที่หน้ายุ่งโคตรๆ อย่าง Citizen Skyhawk Blue Angle Version แล้วหลงรักมันอย่างหัวปักหัวปำ
Citizen Promaster Altichron เมื่อผมหลงรักความยุ่งเหยิง
ผมไม่ซีเรียสนะว่านาฬิกาที่ตัวเองสนใจจะต้องมีกลไกเป็นอัตโนมัติ หรือควอตซ์ ขอให้มันตอบโจทย์ในด้านความพึงพอใจส่วนตัวได้…เป็นอันจบข่าว และเจ้า Skyhawk มันทำหน้าที่นี้ได้อย่างไม่มีที่ติเหมือนที่ผมหลงรัก Citizen Promaster Altichron
Citizen เป็นแบรนด์ที่มีนาฬิกาดีๆ หลายรุ่น แต่อาจไปไม่ค่อยสวยในแง่ยอดขายในบ้านเรา เพราะทางเลือกที่เน้นไปทางกลไกกินแสงอย่าง Eco-Drive ไม่มีแบบอัตโนมัติให้เลือกมากนัก แถมยังมีราคาที่ค่อนข้างสูง เรียกว่าบางทีพอเจอหน้าคนขายแล้วอยากถามเหมือนกันว่า Citizen ตั้งราคาแบบไม่อยากขายกันหรืออย่างไร ?
อย่าง Altichron ซึ่งเป็นนาฬิกาหน้ายุ่งที่ผมโคตรชอบอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งเมื่อยืนดูหน้าเคาน์เตอร์แล้วกับราคาแบบยังไม่หักส่วนลดที่สูงถึง 37,000 บาทมีทอนนิดหน่อย เปรียบเทียบกับการสั่งเข้ามาเองซึ่งถูกกว่าเกือบครึ่ง เป็นใครก็คงจะตัดสินใจไม่ยากว่าจะไปทางไหน
ไม่ใช่ไม่อยากอุดหนุน Authorized Dealer ของ Citizen นะ เพียงแต่อย่างที่บอกในบรรทัดก่อนหน้านี้ไปแล้ว
เอาเป็นว่าก่อนหน้าที่ Citizen Thailand จะนำ Altichron เข้ามาขายอย่างเป็นเรื่องเป็นราวในบ้านเรา ผมชิงตัดหน้าสั่งมันเข้ามาใส่ก่อนจากญี่ปุ่นกับราคาบวกกับค่าดำเนินการที่นำหน้าด้วยเลข 2 สำหรับรุ่น BN4021-02E ตัวเรือนสีเงิน
เหตุที่ผมเลือกสั่งจากญี่ปุ่นแทนที่จะเดินเข้าอีอ่าวเพื่อมองหา US Version ที่มีราคาหมื่นกลางๆ ก็เพราะว่ารายละเอียดเล็กน้อยที่ใครอาจจะไม่สนใจ นั่นคือ หน่วยวัดของมัน เพราะในสหรัฐอเมริกา ใช้หน่วยฟุต หรือ ft ในการวัด แต่บ้านเราและญี่ปุ่นใช้หน่วยเมตรหรือ m … เรื่องมันแค่นี้จริงๆ
50% Off คือ คำศักดิ์สิทธิ์ และเป็น Offers you cannot refuse ที่จำได้เพราะน้องที่สนิทกันคนหนึ่งกัน Capture หน้าจอแล้วส่งมาให้ทาง Line ว่า Citizen กำลังลดราคา Altichron แถมยังเป็นรุ่น BN4026-09E ที่กำลังสนใจอยู่ แน่นอนว่าผมนี่รีบบึ่งไปที่เซ็นทรัล รามอินทราซึ่งเป็นจุดที่จัดงาน Watch Fair และเป็นสถานที่จัดโปรโมชั่นนี้อย่างรวดเร็ว
18,000 บาทนิดๆ คือ ค่าตัวของมันที่ผมรับได้และตัดสินใจไม่ยาก เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับหลายๆ แง่มุม ซึ่งถ้าผมสั่งเข้ามาเอง ราคาอาจจะถูกกว่านี้แต่ก็ไม่มาก แถมยังต้องเสี่ยงหลายต่อหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของทั้งภาษีและการรับประกัน ที่สำคัญก็แค่อยากสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อแสดงให้เห็นว่าถ้าเขาสามารถตั้งราคาที่สมเหตุสมผล และแม้จะแพงกว่าของหิ้วหรือสั่งเองนิดหน่อย ผมเชื่อว่าใครๆ ก็อยากอุดหนุน
BN4026-09E คือ รุ่นที่ผมเลือกในคราวนี้ ทั้งที่เมื่อถามพนักงานขายแล้ว เธอบอกว่าลดทุกรุ่น แน่นอนว่า เมื่อมองในแง่ของความลงตัวและการหาสายหนังมาจับคู่แล้ว BN4021-02E นั้นดูลงตัวและง่ายกว่าเพราะไม่มีการเล่นสีสันกับขอบวงข้างในเหมือนกับรุ่นนี้ และอีกรุ่นที่เป็นขอบส้มนั่นคือ BN4026-09F แต่สุดท้ายผมก็เลือก BN4026-09E ด้วยเหตุผล 2 ข้อด้วยกัน คือ เราจะไปซ้ำของเดิมกันทำไม และอีกข้อคือ รุ่นนี้มีขายเฉพาะในประเทศที่ใช้หน่วยวัดเป็นเมตร ไม่มีหน่วยเป็นฟุต เรียกว่ามีความพิเศษนิดๆ
สิ่งหนึ่งที่ผมชอบแบบรักแรกพบสำหรับ Altichron คือ ความยุ่งของหน้าปัดและลูกเล่นที่มีอยู่ในนาฬิกา แน่นอนว่าผมไม่ใช่นักปีนเขาตัวยง ดังนั้น ฟังก์ชันทั้งหลายลืมไปได้เลยว่า คงไม่ได้ใช้ แต่ในแง่ของดีไซน์ และการทำให้ความยุ่งออกมาดูดีนั้น ถือเป็นสิ่งที่ Citizen ทำได้ดีมาก
ตัวเข็มมีทั้งหมด 5 เข็ม โดยเป็น 3 เข็มในชุดบอกเวลา และ 2 เข็มสำหรับฟังก์ชั่นวัดความสูงและเข็มทิศ แถมยังมีวงย่อยตรงตำแหน่ง 9 นาฬิกาซึ่งทำหน้าที่ทั้งเป็นตัว Indicator บอกพลังงานที่เหลืออยู่ของระบบ Eco-Drive และเป็นตัวบอกความสูงในระดับ 1,000-9,000 เมตร แต่ถ้าจะอยากวัดละเอียด เข็มเหลืองก็จะบอกหน่วยความสูงในช่วงหลักสิบ คือ 0-99 เมตร และเข็มแดงจะบอกสเกลในหน่วยหลักร้อย 100-900 เมตร
โดยการทำงานของเข็มสีต่างๆ จะสัมพันธ์กับปุ่มกดที่มีสีตรงกัน เรียกว่าถ้าไม่อ่านแมนนวลที่หนาพอๆ กับ Yellow Pages คุณก็จะทราบได้ว่าเมื่อกดปุ่มนี้แล้วเข็มไหนจะกระดิกได้โดยอาศัยการสังเกต
ขณะที่อีก 2 ปุ่มทางฝั่งขวาเป็นแบบเม็ดมะยมขันเกลียว โดยปุ่มในตำแหน่ง 4 นาฬิกา คือ เม็ดมะยมปรับเวลา ส่วนในตำแหน่ง 2 นาฬิกา คือ การหมุนขอบวงสเกลข้างในสำหรับการปรับทิศ
ตัวเรือนของ Altichron ทำออกมาได้อย่างลงตัว และแม้ว่าขนาดของนาฬิกาจะค่อนข้างใหญ่ในแง่เส้นผ่าศูนย์กลาง เพราะมีตัวเรือนแบบไม่รวมพวกเม็ดมะยมต่างๆ อยู่ในระดับ 49 มิลลิเมตร และหนา 16 มิลลิเมตร แต่ด้วยการออกแบบขาตัวเรือนให้สั้น ทำให้ไม่ค่อยกางเมื่อสวมใส่กับข้อมือ 7 นิ้วของผม แถมยังเบา เพราะว่าตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียม
เพียงแต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การหาสายหนังมาจับคู่ อาจจะต้องมองหาสายที่ช่วงหูสายมีความหนาไม่มากนัก แต่ถ้าไม่อยากซนสายยางแบบ Liquid Rubber ก็โอเคมาก มีความนุ่มและสวมใส่ได้สบายมาก
ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียม แต่ในรุ่น BN4026-09E และ BN4026-09F เป็นสีดำเคลือบด้วย Carbon Coated ส่วนฝาหลังเป็นแบบเม็ดมะยมขันเกลียว และกันน้ำในระดับ 200 เมตร แต่ในเมื่อมันไม่ใช่นาฬิกาดำน้ำ ความหมายตรงนี้คือ อย่าเสี่ยงเอาลงไปดำน้ำหรือกดปุ่มใต้น้ำเลยเชียว แต่สามารถใส่อาบน้ำหรือว่ายน้ำได้
ตัวนาฬิกาใช้แสงอาทิตย์ในการชาร์จไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ซึ่งแนวคิดของ Eco-Drive ของ Citizen ถือเป็นไอเดียที่แจ่มมาก แต่ติดอย่างเดียวตรงที่ว่าถ้าใครมีนาฬิกาหลายเรือน ตรงนี้อาจจะลำบากนิดหน่อยในการที่จะต้องใส่เพื่อนำออกมาตากแสงแดดหรือแสงไฟเพื่อประจุไฟฟ้ากลับเข้าไป โดยเมื่อชาร์จจนเต็มแล้ว (สังเกตจาก Indicator ตรง 9 นาฬิกา) จะสามารถอยู่ได้นานราวๆ 6 เดือน
ถ้ามองในแง่ของฟังก์ชั่น มันคือนาฬิกาอีกเรือนของ Citizen ที่เทพมากเมื่ออยู่ Outdoor แต่ถ้าต้องคาดบนข้อมือสำหรับพนักงานออฟฟิศอย่างผม หน้าที่หลักของมันคือ บอกเวลา กับหาเพื่อนใหม่ให้ผม เพราะเวลาใส่ทีไร มักจะต้องมีคนมอง และบางคนเดินเข้ามาถามว่ามันคือนาฬิกาอะไร ? ผมว่าเท่านี้มันก็คุ้มค่ามากแล้วละ
คุณสมบัติของ : Citizen Promaster Altichron
- กลไก : J280
- สำรองพลังงาน : Eco-Drive 6 เดือน
- กันน้ำ : 200 เมตร
- เส้นผ่าศูนย์กลางไม่รวมเม็ดมะยม : 49.5 มิลลิเมตร
- หนา : 16 มิลลิเมตร
- Lug-Lug : 47.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 184 กรัม
- ความกว้างขาสาย : 22 มิลลิเมตร
- จุดเด่น : ฟังก์ชั่นเพียบ ดีไซน์สวย ใช้งานได้ทุกวัน ไม่ต้องเสียเวลาตั้งเวลา
- จุดด้อย : หน้าตายุ่งเหยิงดูยาก ราคาสูง (ถ้าไม่ลดราคาแบบ 50%) Eco-Drive ต้องตากแดดบ่อยๆ อาจไม่เหมาะกับคนมีนาฬิกาหลายเรือน
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/