ตอนที่ Casio เปิดตัว Protrek WSD-F30 คำถามแรกของใครหลายคนที่ไม่มีภาพของ F-20 อยู่ในหัวอาจจะเกิดข้อสงสัยว่ามันต่างกันอย่างไร และเข้ามาทำตลาดแทนหรือไม่ โอเค…วันนี้เรามีคำตอบ
Casio Protrek WSD-F30 กับ WSD-F20 ต่างกันตรงไหน
- ดูเผินๆ อาจจะคล้ายกันแต่ Casio Protrek WSD-F30 กับ WSD-F20 เป็นคนละรุ่น
- ขนาดของ WSD-F30 เล็กลงแต่แบตฯ อึกขึ้น
- ใช้ OS ใหม่ที่เรียกว่า Wear OS by Google
ขณะที่บ้านเราเพิ่งมีการเปิดตัว WSD-F20 ที่เป็น Smartwatch ของค่าย Casio ที่ทำตลาดผ่านทางซับแบรนด์อย่าง Protrek ในเมืองนอกแบรนด์ดังแห่งญี่ปุ่นจัดการส่งทางเลือกใหม่ในรหัส WSD-F30 ออกขายในตลาด พร้อมกับเกิดคำถามว่ามันคือรุ่นที่จะเข้ามาทดแทนหรือเปล่า…โอเควันนี้เรามีคำตอบเกี่ยวกับข้อข้องใจในเรื่องนี้มาฝากกันครับ
1.ไม่ได้ทดแทน แต่มาเพิ่มทางเลือก เหมือนกับที่พวกเขาทยอยเปิดตัว Protrek เพียงแต่รุ่นใหม่ไม่ใช่การผลิตนาฬิกาไซส์เล็กมาเพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้หญิง หรือผู้ชายที่มีข้อมือเล็กเท่านั้น แต่ยังมีเหตุผลอื่นๆ อีก สำหรับในเรื่องขนาดเมื่อเปรียบเทียบกับ WSD-F20 แล้ว ในรุ่นนี้จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางลดลง 3.9 มิลลิเมตร และบางขึ้น 0.4 มิลลิเมตร ซึ่งเมื่อดูตัวเลขจริงๆ ก็ไม่คิดว่าสาวๆ น่าจะใส่ได้อย่างพอดีมืออย่างแน่นอน เพราะตัวเลขยังค่อนข้างเยอะอยู่
ส่วนหน้าและรูปทรงของนาฬิกาก็แตกต่างกันอย่างชัดเจน แม้ว่าการวางปุ่มกด หรือเซ็นเซอร์จะอยู่ในตำแหน่งใกล้เคียงกันก็ตาม
| WSD-F30 | WSD-F20 | |
| เส้นผ่านศูนย์กลาง (มม.) | 53.8 | 57.7 |
| Lug to Lug (มม.) | 60.5 | 61.7 |
| หนา (มม.) | 14.9 | 15.3 |
| น้ำหนัก (กรัม) | 83 | 94 |
| ราคา | 61,000 เยน | 51,000 เยน |
2.เหนือระดับขึ้นด้วยการปรับอัลกอริทึ่มในการทำงานของระบบ โดยเฉพาะในเรื่องของการเพิ่มโหมด Extend ขึ้นมาเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน เพราะสามารถโหลดแผนที่สีเข้ามาเก็บในเครื่องเพื่อดูแบบ Offline โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ GPS และถ้าจะต่อ GPS ก็สามารถเชื่อมต่อได้นานถึง 3 วัน โดยเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมงในการทำงาน แต่ถ้าใช้โหมดปกติ คือ Standard และมีการเชื่อมต่อ Bluetooth ก็จะใช้งานได้เพียง 1 วันครึ่งเท่านั้น แต่ถ้าเอาแบบประหยัดสุดๆ คือ Multi Timepiece Mode แสดงผลในแบบสีเดียวหรือ Monochrome ก็จะอยู่ได้นานถึง 1 เดือน
3.ต่างกันที่ OS เพราะรุ่น WSD-F20 เปิดตัวออกมาก่อน ระบบปฏิบัติการของตัวนาฬิกาจะเป็น Android Wear 2.0 ส่วน WSD-F30 เป็นของใหม่ที่เรียกว่า Wear OS by Google ที่พวกเขาประกาศใช้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2018 ส่วนโหมดแผนที่ Offline นอกจากจะโหลดเข้ามาเก็บในตัวนาฬิกาได้เหมือนกันแล้ว อีกสิ่งที่เพิ่มขึ้นของบันทึกแผนที่ได้ถึง 5 สถานที่เข้ามาเก็บในตัวนาฬิกา
4.ขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น ในรุ่น WSD-F20 จะใช้หน้าจอสี Color Organic EL ขนาด 1.2 นิ้วแบบ 2 เลเยอร์แสดงผลด้วยความละเอียด 390X390 พิกเซล แต่ในรุ่น WSD-F30 จะมากับเทคโนโลยี TFT ขนาด 1.32 นิ้วและเป็นแบบ 2 เลเยอร์ แต่ความละเอียดจะอยู่ที่ 320X300 พิกเซล
5.สามารถแสดงข้อมูลในโหมดขาวดำของรุ่น WSD-F30 จะสามารถแสดงฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งก็รวมถึงการแสดงระดับความดันอากาศ ความสูง และเข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์
6.เพียบไปด้วยฟังก์ชั่นที่เชื่อมต่อกับ App ต่างๆ เช่น ViewRnager สำหรับนำทาง Hole19 สำหรับกอล์ฟ Glassy สำหรับกีฬาทางน้ำและการเซิร์ฟ Fishbrain สำหรับการตกปลา MySwimPro Equilab สำหรับการขี่ม้า และSki trak รวมถึงเกมออกกำลังกายอื่นๆ เช่น Zombie Run Exercise Timer
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/
