สำหรับสาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่คิดว่า Casio Protrek แบบเดิมๆ ขนาดมันใหญ่ไปหน่อย ตอนนี้ทาง Casio เปิดตัวทางเลือกใหม่ของ Protrek ตระกูล Analogue-Digital ด้วยรุ่น PRW-60 กับการลดขนาดตัวเรือนให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 มิลลิเมตร เพื่อความสะดวกสบายในการใส่ และเริ่มขายในญี่ปุ่นแล้ว
Casio Protrek PRW-60 Series ลดขนาดเอาใจสาว
การเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ในกลุ่ม Protrek ของ Casio ด้วยการลดขนาดตัวเรือนลง ตรงนี้ดูเหมือนจะมีนัยยะบ่งบอกอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะการแสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนไปในกลุ่มของลูกค้าสาวๆ ที่น่าจะเริ่มมองหานาฬิกาในสไตล์แอดเวนเจอร์กันมากขึ้น เพราะในที่สุดทาง Casio ก็เปิดตัว Protrek ไซส์เล็ก โดยเริ่มกับรุ่น PRW-60 ออกสู่ตลาด ด้วยตัวเรือนที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 47.2 มิลลิเมตรเท่านั้น
ใครที่เคนเป็นแฟนของ Protrek คงทราบกันดีถึงขนาดของนาฬิกาตระกูลนี้ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางในระดับเกิน 50 มิลลิเมตรทั้งนั้น แต่สำหรับรุ่นใหม่ในรหัส PRW-60 มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง47.2 มิลลิเมตรเท่านั้น เหมาะกับสาวๆ หรือคนที่มีข้อมือเล็ก แต่มีตัวเลขหน้าขึ้นจากรุ่น PRW-6100 เล็กน้อย โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ การใช้เฟรมตัวเรือนแบบใหม่ที่เรียกว่า Cross Frame Structure ซึ่งทาง Casio บอกว่ามีความแข็งแกร่งขึ้น และทำให้ขาสายหรือ Lug ของตัวเรือนถูกรวมให้เป็นชุดเดียวกับตัวนาฬิกา
เปรียบเทียบขนาด Casio Protrek PRW-60 & PRW-6100
ขนาด | Casio Protrek PRW-60 | Casio Protrek PRW-6100 |
เส้นผ่านศูนย์กลาง (มม.) | 47.2 | 51.6 |
Lug-to-Lug (มม.) | 50.5 | 58 |
ความหนา (มม.) | 13.3 | 12.8 |
โดยงานนี้เมื่อขนาดเล็กลงก็ไม่ต้องห่วงว่าฟังก์ชั่นจะลดลงไปตาม เพราะแม้จะใช้โมดุลคนละแบบกับ PRW-6100 (รหัส 5470) โดยในรุ่น PRW-60 ใช้โมดุลในรหัส 5578 แต่ฟังก์ชั่นก็มากันเต็มพิกัดในแบบ Triple-Sensor ทั้งวันความกดอากาศ วัดความสูง วัดอุณหภูมิ เข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงระบบ Multiband6 การแสดงผลเป็นแบบเข็มและมีหน้าจอ Digital อยู่ข้างล่าง และมีระบบส่องสว่าง 2 แบบ คือ Neon Illuminator ซึ่งเป็นพรายน้ำสำหรับเข็ม และ Double LED ในการส่องสว่างสำหรับหน้าจอดิจิตอล ส่วนสายยางว่ากันว่านิ่มมือมาก เพราะ Casio บอกว่าเป็นแบบ Dura Soft Silicon มีความทนทานแต่นุ่มสบาย
ในช่วงแรกของการทำตลาดจะมีด้วยกัน 3 รุ่นคือ PRW-60-1A สีดำ PRW-60-2A สีน้ำเงิน และ PRW-60-7A สีขาว ส่วนราคาก็ 52,000 เยนสำหรับรุ่นสีขาว และราคา 54,000 เยนสำหรับอีก 2 รุ่นที่เหลือ ในญี่ปุ่นเริ่มขายมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/