ย้ายฝั่งมาดูความเคลื่อนไหวของ Protrek ของค่าย Casio กัน มากับรหัส PRT-B50 ที่มีขายรุ่นธรรมดา 3 แบบ และอีก 1 รุ่นพิเศษแถมสายผ้าใบ โดยใช้โมดุล 5601 แบบเดียวกับ G-Shock Mudmaster รุ่นใหม่ พร้อมเชื่อมต่อ Bluetooth กับสมาร์ทโฟนได้
Casio Protrek PRT-B50 รุ่นใหม่ 4 เซ็นเซอร์เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้
-
ครั้งแรกที่ Protrek ใช้โมดุลแบบมี Bluetooth
-
โมดุล 5601 มากับเซ็นเซอร์ 4 ตัว และเป็นโมดุลเดียวกับ Mudmaster รุ่นล่าสุด
-
มีขาย 3 รุ่นปกติ และ 1 รุ่นพิเศษ โดยมีราคา 30,000 และ 35,000 เยน
ถ้าไม่นับตัวที่เป็นสมาร์ทวอทช์แล้ว ถือว่านี่คือครั้งแรกสำหรับ Protrek ไลน์อัพนาฬิกาเอาท์ดอร์ชื่อดังของ Casio ที่จะมาแบบครบเครื่อง ทั้งการติดตั้งเซ็นเซอร์ 4 ตัว หรือ Quad Sensor และฟังก์ชั่นเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หรือ Smartphone Link ผ่านทาง Bluetooth โดยเตรียมจำหน่ายด้วยกัน 4 รุ่นย่อยในรหัส PRT-B50
งานนี้ต้องบอกว่าเป็นรุ่นใหม่แบบแกะกล่อง เพราะตัวนาฬิกาได้รับการออกแบบใหม่ และแสดงผลในแบบ Ana-Digi คือ มีทั้งเข็มและหน้าจอดิจิตอลขนาดเล็กที่วางอยู่ในตำแหน่ง 6 นาฬิกา โดยตัวนาฬิกาจะมากับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 50.8 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับ Protrek รุ่นปกติที่มีขายอยู่ในตลาด ส่วน Lug to Lug อยู่ที่ 57.5 มิลลิเมตร และหนา 15.8 มิลลิเมตร
แม้ว่าจะเปิดตัวออกมา 4 รุ่นย่อย แต่รุ่นที่พิเศษสุดคือ PRRT-B50FE-3 ที่จะมากับกล่องแบบพิเศษ พร้อมกับสายผ้าใบเพิ่มในชุดอีก 1 เส้น พร้อมกับสีสันบนตัวเรือนที่แตกต่างจากเพื่อนร่วมสายพันธุ์ ซึ่งทุกรุ่นจะสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Application ที่ชื่อว่า Protrek Connected ซึ่งสามารถหาดาวน์โหลดได้จาก App Store และ Play Store ได้เลย
สำหรับโมดุลใหม่ที่นำมาใช้จะเป็นรหัส 5601 ซึ่งเป็นโมดุลชุดเดียวกับที่ใช้ใน G-Shock Mudmaster ตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวขาย โดยจะมีความสามารถเพิ่มขึ้นจากโมดุลรุ่นก่อนๆ ของ Protrek ซึ่งที่เพิ่มขึ้นมาอย่างชัดเจนอย่างแรกคือ การเพิ่มจำนวน Sensor จากเดิมเป็น Triple Sensor หรือเซ็นเซอร์ 3 ตัวมาเป็น Quad Sensor หรือเซ็นเซอร์ 4 ตัว ทำให้สามารถวัดระดับได้ทั้งความสูง/ความกดอากาศ เข็มทิศ อุณหภูมิ และที่เพิ่มเข้ามาคือเซ็นเซอร์วัดอัตราเร่ง หรือ Accelerometer Sensor สำหรับใช้ในการนับก้าว เพื่อเอาข้อมูลมาใช้ในการคำนวนการเผาผลาญแคลอรี่ในกิจกรรมนั้นๆ โดยนับได้สูงสุด 999,999 ก้าว แถมยังมีโหมดแสดงช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น-ตกได้ด้วย
ในกรณีที่มีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านทาง Application ตัวนาฬิกาสามารถใช้สัญญาณ GPS ของสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นในการใช้งานมากขึ้น เช่น การบันทึกเส้นทางในโหมด Trekking Log และการระบุพิกัดหรือตำแหน่งที่อยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการปรับเวลาให้อัตโนมัติตามพิกัดที่อยู่หากมีการเดินทางข้ามโซนเวลา
สำหรับรุ่นธรรมดาอย่าง PRT-B50-1, PRT-B50-2 และ PRT-B50-4 จะมีราคาอยู่ที่ 30,000 เยนหรือ 8,400 บาท ขณะที่รุ่น PRT-B50FE-3 จะมากับความพิเศษของแพ็คเกจที่แตกต่างจากรุ่นทั่วไป และมีสายผ้าใบแถมมาให้อีกเส้น แต่จะมีราคาขายขยับขึ้นเป็น 35,000 เยน หรือ 9,800 บาท
รุ่นย่อย |
สีตัวเรือน |
PRT-B50-1 |
|
PRT-B50-2 |
|
PRT-B50-4 |
|
PRT-B50FE-3 |
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/