Casio G-Shock Seven Lucky Gods Series 7 เทพแห่งความโชคดี

0

Casio ลุยตลาดอีกครั้งกับคอลเล็กชั่นใหม่ คราวนี้หันมาเน้นที่ 7 เทพแห่งโชคในชื่อ Casio G-Shock Seven Lucky Gods Series ซึ่งจะทยอยทำตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้จนถึงเดือนมีนาคม 2019

- Advertisement -

Casio G-Shock Seven Lucky Gods Series 7

Casio G-Shock Seven Lucky Gods Series 7 เทพแห่งความโชคดี

  • คอลเล็กชั่นใหม่ที่จะจำหน่ายด้วยกัน 7 รุ่นจากนาฬิกา 7 เรือน

  • อ้างอิงแนวคิดจาก Celestial Guardian Series ที่เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

  • จะเริ่มขายในเดือนตุลาคม 2018 จนถึงมีนาคม 2019

หลังจากเปิดตัวคอลเล็กชั่นสัตว์เทพผู้พิทักษ์ออกมาเมื่อกลางปีนี้และประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ดูเหมือนว่าทาง Casio จะยังให้ความสำคัญกับเรื่องทำนองนี้ต่อไป เพียงแต่คราวนี้เบนเข็มกลับมาที่บ้านของตัวเอง กับการเปิดตัวคอลเล็กชั่นที่เรียกว่า G-Shock Seven Lucky Gods Series หรือ Shici-Fuku Series ซึ่งจะมีด้วยกัน 7 รุ่น แต่ในตอนนี้บนหน้าเว็บที่เป็นทางการของ G-Shock Japan เปิดเผยออกมาเพียงแค่ 4 รุ่นเท่านั้น

สำหรับคอลเล็กชั่นนี้อ้างอิงความเชื่อตามตำนานโบราณของชาวเอเชียกับเทพแห่งโชคทั้ง 7 ซึ่งเป็นสิ่งที่คนอินเดีย จีน และญี่ปุ่นเชื่อถือมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งทั้ง 7 รุ่นนั้นจะแบ่งออกเป็น 6 รุ่นสำหรับ G-Shock และอีก 1 รุ่นสำหรับ Baby-G โดยจะเปิดตัวทำตลาดในช่วงระหว่างเดือนตุลาคม 2018 จนถึงมีนาคม 2019

โดยผลงานการสร้างสรรค์ลวดลายบนตัวเรือนนาฬิการุ่นต่างๆ นั้นจะเป็นงานของ Toshikazu Nozaka ศิลปินภาพวาดชาวญี่ปุ่น และมีแนวทางในการนำเสนอคล้ายกับคอลเล็กชั่น Celestial Guardian Series ของ Jahan Loh ที่เปิดตัวออกมาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

สำหรับนาฬิกาที่จะทำตลาดมีด้วยกัน 7 รุ่นซึ่งป็นตัวแทนของเทพแห่งโชคองค์ต่างๆ คือ

-G-7900SLG-4 (Ebisu) เป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง ราคา 15,000 เยน

-BGD-560SLG-4 (Benzaiten) เทพแห่งความฉลาด ความงามและดนตรี ราคา 14,000 เยน

-DW-5600SLG-7 (Hotei) เทพแห่งโชคดีที่คอยปกป้องคุ้มครองเด็ก ราคา 16,500 เยน

-DW-6900SLG-1 (Bishamonten) เทพแห่งสงครามและการสู้รบ ราคา 18,000 เยน

-GX-56 model (Daikokuten) เทพแห่งการค้าขาย ราคา 23,000 เยน

-DW-5700 model (Jurōjin) เทพแห่งความยั่งยืน ราคา 17,500 เยน

-GBD-800 model (Fukurokujyu) เทพแห่งปัญญา ราคา 18,500 เยน

โดย 4 เรือนนี้จะเป็นล็อตแรกที่ถูกส่งลงทำตลาด ส่วนอีก 3 รุ่นที่เหลือจะตามมาภายหลัง โดยสิ่งที่แตกต่างจากรุ่นปกติของนาฬิกาเหล่านี้นอกจากลวดลายที่ถูกวาดลงบนตัวเรือนแล้ว ยังอยู่ที่สัญลักษณ์ที่จะปรากฏบนหน้าจอเมื่อมีการเปิดไฟขึ้นมา ว่ากันว่าจะมีการผลิตขายในญี่ปุ่นและตลาดเอเชียบางแห่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะรวมถึงเมืองไทยด้วยหรือไม่