หลังจากเปิดตัวต้นแบบออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ในตอนนี้ Casio ยืนยันการผลิต Rangeman เทพออกมาแล้ว โดยจะขายในชื่อ Casio G-Shock Rangeman GPR-B1000-1 และ GRPB1000-1B ด้วยราคา 800 เหรียญสหรัฐฯ และจะเริ่มลงตลาดในเดือนเมษายนนี้
Casio G-Shock Rangeman GPR-B1000 ผ่าสเป็ก-ขายเม.ย.นี้
หลังเขย่าอารมณ์แฟนๆ G-Shock ด้วยการเผยต้นแบบในงานฉลอง 35 ปีที่นิวยอร์ก ในที่สุด Casio ก็ยืนยันแล้วว่าจะส่ง Rangeman ใหม่ในรหัส GRP-B1000 ลงสู่ตลาดในเดือนเมษายนนี้ด้วยราคา 800 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 25,000 บาท พร้อมสเปกสุดล้ำชนิดที่ใครๆ ก็อยากลอง
รายละเอียดนี้ได้รับการเปิดเผยในงาน CES2018 ที่กำลังจัดขึ้นในวันที่ 9-12 มกราคมนี้ที่นครลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสิ่งที่มีการยืนยันออกมาแล้วในตอนนี้คือ
รุ่นย่อย : Casio G-Shock Rangeman GPR-B1000 มี 2 รุ่นย่อย คือ GPRB1000-1 สีดำ และ GRPB1000-1B เรือนดำสายเขียวขี้ม้า
ขนาด : 57.7 มิลลิเมตรสำหรับเส้นผ่านศูนย์กลาง Lug-to-Lug 60.3 มิลลิเมตร และหนา 20.2 มิลลิเมตร
หน้าจอ+ตัวเรือน : หน้าจอของ Casio G-Shock Rangeman GPR-B1000 เป็นแบบดิจิตอล LCD ซึ่งถือเป็นครั้งแรกสำหรับ G-Shock และตัวนาฬิกาหลักผลิตจากเซรามิกที่มีความหนา 2 มิลลิเมตรและมีเกราะเรซินหุ้ม
กระจก+สาย : Sapphire และสายคาร์บอนไฟเบอร์แบบมีเรซินหุ้ม
ความอึด : Casio G-Shock Rangeman GPR-B1000 กันน้ำระดับ 200 เมตรตามมาตรฐาน G-Shock ทนต่ออุณหภูมิต่ำสุด -20 องศาเซลเซียส และทนต่อโคลน
ความสามารถด้าน GPS : Casio G-Shock Rangeman GPR-B1000 รับสัญญาณ 1575.42 MHz สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบอัตโนมัติและแมนนวล ส่วนการระบุตำแหน่งของตัวเองต้องแบบแมนนวลอย่างเดียว สามารถบันทึกได้ 20 Log ในการนำทางผ่านทาง GPS Navigator โดยถือเป็นนาฬิกา G-Shock รุ่นแรกที่มีระบบ navigation System สามารถแสดงเส้นทางแบบ Real-Time และสามารถบันทึกจุดพัก หรือ Point Memory พร้อมกับชุดข้อมูลอย่างละเอียด เช่น วัน/เวลา ละติจูด/ลองติจูด ระดับความสูง ความกดอากาศ และอุณหภูมิ แถมในระบบนำทางยังมีฟังก์ชั่น Backtrack ในการนำทางกลับไปยังจุดเริ่มต้นได้ด้วย แสดงผลแผนที่ได้ทั้งแบบ 2D และ 3D
การเชื่อมต่อ : Casio G-Shock Rangeman GPR-B1000 ผ่าน Bluetooth กับ SmartPhone ออกแบบระบบให้มีการกินไฟต่ำ และมีระยะการเชื่อมต่อไม่เกิน 2 เมตร โดยตัวนาฬิกาสามารถ Sync เวลาได้ทั้งผ่านทาง GPS และ Server Time
ระบบพลังงาน : แน่นอนว่าใช้พลังงานแสงอาทิตย์ หรือ Tough Solar เป็นหลัก แต่ทว่าในรุ่นนี้ยังมีระบบชาร์จแบบไร้สาย หรือ Wireless Charging มาให้ด้วย โดยในการชาร์จจะใช้เวลา 5 ชั่วโมงจนเต็ม ซึ่งสามารถใช้ GPS ติดต่อกันได้นานถึง 33 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จผ่านระบบ Tough Solar นั้น เมื่อคุณยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดด (ที่มีค่า Lux อยู่ที่ 50,000 Lux) นานติดต่อกัน 4 ชั่วโมงจะสามารถสร้างพลังงานให้ใช้ GPS ได้นาน 1 ชั่วโมง แต่ถ้าคุณไม่เปิด GPS ใช้ และใช้แค่ระบบฟังก์ชั่นต่างๆ ก็ไม่จำเป็นต้องพึ่ง Wireless Charger เพราะแค่แสงอาทิตย์ก็เพียงพอสำหรับการสร้างกระแสไฟฟ้าสำหรับการใช้งานแล้ว
เซ็นเซอร์ : ระบบเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งใน Casio G-Shock Rangeman GPR-B1000 เป็นแบบ Triple Sensor สามารถทำหน้าที่ได้ 4 แบบเหมือนกับนาฬิกาทั่วไปของ Casio ที่มีระบบนี้ นั่นคือ วัดความสูง โดยอยู่ในระดับ -700 จนถึง 10,000 เมตร แสดงค่าทีละ 1 เมตร ส่วนเข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์แสดงผลตั้งแต่ 0-359 องศา ส่วนการวัดอุณหภูมิอยู่ที่ -10 จนถึง 60 องศาเซลเซียส และการวัดความกดอากาศอยู่ที่ 260-1,100 hPa พร้อมการแจ้งเตื่อนเมื่อระดับความกดอากาศลดต่ำลงกะทันหัน
ฟังก์ชั่นเพิ่มเติม : แสดงผลระดับน้ำขึ้น-น้ำลง และ Moonphase จับเวลาเดินหน้า 999 : 59’89 และนับเวลาถอยหลังสูงสุด 24 ชั่วโมง ตั้งปลุก 4 ครั้งต่อวัน
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigiwatch/
