MTG-B นาฬิกาสุดเจ๋งของ Casio G-Shock มีการปรับปรุงครั้งใหม่ เมื่อทางแบรนด์เปิดตัวเจนเนอเรชั่นที่ 3 ในรหัส B3000 Series ออกสู่ตลาดพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ
Casio G-Shock MTG-B3000 Series ความโดดเด่นแห่งนวัตกรรม
-
รุ่นใหม่ที่มีการออกแบบใหม่ทั้งเรือน โดยจะเริ่มจำหน่าย 3 รุ่นย่อย
-
มากับโครงสร้าง Dual Core Guard ทำให้ตัวเรือนมีขนาดบางลง
-
เริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นเดือนพฤษภาคมนี้ กับราคา 121,000-137,500 เยน
นับจากการเปิดตัว MTG-B ตั้งแต่ซีรีส์ 1000 ในช่วงปลายทศวรรษที่ 2010 จนได้รับรางวัลมากมาย ในตอนนี้ดูเหมือนว่า MTG-B จะกลายเป็นนาฬิการุ่นหลักที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งนำไปสู่การเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่ที่มีรหัสว่า Casio G-Shock MTG-B3000 Series พร้อมความเปลี่ยนแปลงมากมาย ซึ่งก็รวมถึงโครงสร้างตัวเรือนที่เปลี่ยนมาเป็นโครงสร้างแบบใหม่
MTG หรือ Metal Twisted G-Shock เป็นคอลเล็กชั่นนาฬิกาของ Casio G-Shock ที่เปิดตัวออกสู่ตลาดมานานหลายปีแล้วด้วยแนวคิดในการนำวัสดุอย่างโลหะและพลาสติกคอมโพสิตมาผสมผสานกัน แต่ในตอนนั้น Casio ยังไม่ได้วางแผนหรือกำหนดระดับตลาดให้มีความชัดเจนเท่าไร
จนกระทั่งการมาถึงของรุ่น MTG-G และ MTG-S ในช่วงประมาณปี 2014 ที่มีความเปลี่ยนแปลงในแง่ของตัวเรือนและตลาดที่มีความชัดเจนขึ้นด้วยการกำหนดตลาดให้เป็นทางเลือกที่อยู่ต่อจากรุ่นท็อปของ G-Shock อย่าง MR-G จากนั้นในช่วงปี 2018 Casio พา MTG เข้าสู่ยุคของการเชื่อมต่อหรือ Connected และได้นำไปสู่การเปิดตัวรุ่น MTG-B1000 Series ในที่สุด จากนั้นในปี 2020 ก็เปิดตัว MTG-B2000 ที่มีการปรับรูปลักษณ์ใหม่ตลอดทั้งเรือน และในปี 2022 กับรุ่น MTG-B3000
ใน Casio G-Shock MTG-B3000 Series ทาง Casio ได้หันมาใช้โครงสร้างตัวเรือน Dual Core Guard ที่เปิดตัวออกมากับนาฬิการุ่นใหม่ๆ หลายรุ่น ซึ่งจุดเด่นของโครงสร้างแบบนี้คือ ทำให้ตัวเรือนบางลง สวมใส่สบาย และในทางกลับกันคือเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องโมดูลภายใน โดยตัวเรือนจะถูกขึ้นรูปในแบบชิ้นเดียวและไม่มีฝาหลังเหมือนกับนาฬิการุ่นก่อนๆ และเป็นตัวเรือนที่ขึ้นรูปด้วยวัสดุอย่างคาร์บอนคอมโพสิตที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง
อีกหนึ่งสิ่งที่ Casio ได้พัฒนาในนาฬิกา MTG-B3000 คือโมดูลระบบป้องกันแรงสั่นสะเทือน โดยออกแบบเลย์เอาท์ของแผงวงจรใหม่ให้มีความบางและเล็กลงกว่าที่เคย ส่งผลให้เรือนเวลารุ่นนี้มีขนาดตัวเรือนที่บางลงกว่ารุ่นก่อนๆ อย่าง MTG-B1000 ถึง 2.0 มิลลิเมตร และ 3 มิลลิเมตรโดยประมาณเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น MTG-B2000 โดยมีขนาดตัวเรือน 51.9 มิลลิเมตร หนา 12.1 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำได้ 200 เมตร
ในเรื่องของ Module ก็มีการเปลี่ยนแปลงทุกรุ่นแต่ในแง่ของการทำงานยังค่อนข้างคล้ายกัน ในรุ่น Casio G-Shock MTG-B3000 Series จะเป็นรหัส 5672 แบบ Maultiband6 สามารถเปลี่ยนแสงอาทิตย์ให้เป็นกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ โดยเมื่อชาร์จจนเต็มและอยู่ในโหมด PS หรือ Power Saving อยู่ในที่มืดและไม่โดนแสง จะสามารถอยู่ได้นาน 18 เดือน ส่วนการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ยังทำได้เหมือนเดิม และสามารถสั่งงานผ่านทางแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการปรับเวลาตามเขตเวลาที่ครอบคลุม 300 เมืองทั่วโลก การตั้งปลุก 5 ครั้งต่อวัน หรือการจับเวลาเดินหน้า-ถอยหลัง
สำหรับช่วงแรกของการทำตลาดจะมีด้วยกัน 3 รุ่น คือ
- MTG-B3000B-1A ในโทนสีดำตลอดทั้งตัวเรือนจับคู่กับสายยูริเธนสีเทา ราคา 121,000 เยน
- MTG-B3000BD-1A สายแบบ Layered Composite และหน้าปัดรวมถึงข้อกลางของหัวสายมากับสีแดง ราคา 137,500 เยน
- MTG-B3000BD-1A2 สายแบบ Layered Composite และหน้าปัดรวมถึงข้อกลางของหัวสายมากับสีเขียว ราคา 137,500 เยน
ข้อมูลทางเทคนิค : Casio G-Shock MTG-B3000 Series
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 50.9 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 51.9 มิลลิเมตร
- ความหนา : 12.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 148 กรัม
- โมดุล : 5672 Multiband 6 Tough Solar
- การกันน้ำ : 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline