Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain ความน่าหลงใหลแห่งสีสัน

0

ทางเลือกใหม่ของคอลเล็กชั่น MTG-B2000 ด้วยรุ่นพิเศษซึ่งนำคาร์บอนไฟเบอร์มาเรียงวางกันเป็นชั้นๆ และให้ความสวยงามตามคอนเซ็ปต์ Rainbow Moutain และแน่นอนว่าสิ่งนี้ย่อมนำมาซึ่งราคาที่แพงขึ้นจากรุ่นปกติ แต่เราคิดว่าเป็นความแพงที่คุ้มค่าสำหรับการจ่ายเพิ่ม

- Advertisement -

Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain

Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain ความน่าหลงใหลแห่งสีสัน

  • การนำเสนอสีสันและคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจผ่านทางงานด้านวัสดุศาสตร์ที่สามารถสร้างสีสันบนกรอบตัวเรือนได้อย่างลงตัว

  • ขนาดตัวเรือน 49.8 มิลลิเมตรถือว่าเป็นขนาดที่สวมใส่ได้อย่างลงตัวกับผู้ที่มีข้อมือบวกลบ 7 นิ้ว

  • ในเมืองไทยนำเข้ามาจำหน่ายเพียง 50 เรือน และมีราคาเรือนละ 50,000 บาท

ในช่วงที่ผ่านมา ประเด็นหนึ่งที่ Casio นำมาเสนอและชูเป็นประเด็นเด่นสำหรับนาฬิการุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะพวกรุ่นพิเศษของ G-Shock นั่นคือ วัสดุ ไม่ว่าจะเป็นความล้ำสมัยของตัววัสดุเอง หรือจะเป็นความเจ๋งในแง่ของกระบวนการผลิตที่นำไปสู่ปลายทางของผลลัพธ์แห่งความสวยที่ไม่เหมือนใคร และตัวอย่างสำหรับประเด็นที่ 2 ก็คือ Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain ที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่นี้

ย้อนความสักนิดสำหรับเวอร์ชัน Rainbow ของ Casio G-Shock ผมคงต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด และทาง Casio พยายามนำเสนอแนวคิดนี้ผ่านทางคอลเล็กชั่นต่างๆ ของพวกเขาทั้งพวกตัวเรือนเรซิน และตัวเรือนแบบ Steel  โดยเฉพาะตัวเรือนแบบ Steel ถือว่าเป็นเรื่องที่ฮ็อต เพราะถูกผลิตออกมาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยการนำเสนอสีสันใหม่บนตัวเรือนนั้นจะเป็นเรื่องของกรรมวิธีการผลิตที่สามารถสร้างสันสีที่แตกต่างจากเวอร์ชันปกติที่เราคุ้นเคยกัน แต่สำหรับ Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain เป็นอะไรที่แตกต่างกว่านั้น เพราะนาฬิกาเรือนนี้มีตัวเรือนที่ผลิตจากมาจากการวางชั้นหรือ Layer ของเส้นใยคาร์บอนไฟเบอร์ ดังนั้น ผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการผลิตย่อมที่จะต้องแตกต่างออกไป

Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain ถูกเปิดตัวออกมาเมื่อไม่นานนี้ ประมาณเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาค่อนมาทางปลายๆ เดือน และบ้านเราต้องบกว่าทาง Casio Thailand นำเข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วเร็วและทันใจ โดยตัวรุ่น Rainbow Mountain เปิดตัวตามหลังรุ่น MTG-B2000 ที่ใช้กรอบตัวเรือนแบบผสมผสานระหว่างสตีลกับคาร์บอนไฟเบอร์ได้ไม่นาน

Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow MountainCasio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain

ไฮไลท์ของนาฬิกาและถือเป็นจุดที่สามารถทำให้ลูกค้าตัดสินใจที่จะซื้อหรือไม่ซื้อนั่นคือความเจ๋งและเรื่องเล่าที่จะทำให้ตัวนาฬิกาเรือนนี้น่าสนใจและยอมจ่ายเงินที่สูงกว่ารุ่นปกติในระดับหนึ่ง และสิ่งที่ MTG-B2000XMG มีคือ ความล้ำสมัยในด้านวัสดุศาสตร์

กรรมวิธีในการผลิตกรอบตัวเรือนและผลลัพธ์ที่ได้มา ต้องบอกว่ากรอบตัวเรือนรุ่น MTG-B2000XMG ผ่านกระบวนการผลิตแบบใหม่ โดยนำวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์หลากสีมาวางเรียงกันเป็นชั้นซ้อนกันเพื่อให้ได้ความงามแบบธรรมชาติของภูเขาสายรุ้ง (นั่นคือที่มาว่าทำไมถึงเรียกว่า Rainbow Mountain) แล้วจึงนำวัสดุที่ได้มาตัดให้เป็นกรอบตัวเรือนนาฬิกา

วิธีนี้เป็นผลมาจากการได้รับแรงบันดาลใจจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของแร่ธาตุต่าง ๆ ตามธรรมชาติหลังจากผ่านการระเบิดของภูเขาไฟ และการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก นอกจากนั้นนาฬิกาแต่ละเรือนที่ผลิตในรุ่นนี้จะมีความต่างเฉพาะตัวจากลวดลายและสีสันของกรอบที่เป็นเอกลักษณ์อย่างโดดเด่น

เรียกว่าเป็นการสร้างสีสันและความน่าสนใจให้กับตัวนาฬิกาผ่านทางองค์ความรู้ในด้านวัสดุศาสตร์ได้อย่างสวยงาม จนทำให้ MTG-B2000XMG สามารถสร้างความโดดเด่นเวลาสวมอยู่บนข้อมือคุณได้

Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain
Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain
Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain

อีกจุดที่ผมค่อนข้างชอบสำหรับนาฬิการุ่นนี้คือ เรื่องการเลือกใช้โทนสีตามจุดต่างๆ บนตัวนาฬิกา และทำให้ดูสวย กลมกลืน แถมยังมีความโดดเด่นมากขึ้นด้วย ถ้าสังเกตดูดีๆ จะพบว่าตามจุดต่างๆ บนตัวนาฬิกาจะมีการใช้สีสันที่แตกต่างกันออกไป เช่น ขอบด้านในของตัวเรือนด้วยสีรุ้ง ตัวล็อคและห่วงรัดสายด้วยสีโรสโกลด์ ไปจนถึงสกรูส่วนหน้า ปุ่มกด และตัวเม็ดมะยมด้วยสีม่วงและสีฟ้าอ่อน และเสริมด้วยการเคลือบไอออนประดับส่วนประกอบต่าง ๆ ของตัวเรือน

ทุกอย่างดูกลมกลืนและเข้ากันได้เป็นอย่างดี

ส่วนหนึ่งที่ผมค่อนข้างปลื้มนาฬิกาในตระกูล MTG รุ่นใหม่ๆ คือ ความเพรียวและการสวมใส่ที่สบายขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น MTG-B1000 ที่ผมค่อนข้างชอบเป็นพิเศษ และสำหรับ MTG-B2000 นั้นได้รับการถ่ายทอดแนวคิดในการปรับปรุงลักษณ์และรูปแบบเฉพาะของตัวนาฬิกาให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย และไม่ดูเทอะทะจนเกินไปเวลาอยู่บนข้อมือ

ขนาดตัวเรือนของ MTG-B2000XMG แชร์ร่วมกับ MTG-B2000 รุ่นธรรมดา คือ เส้นผ่านศูนย์กลาง 49.8 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างย่อส่วนลงเมื่อเปรียบเทียบกับนาฬิการุ่นปกติของ G-Shock ที่มักจะมีตัวเลขขยับขึ้นเลข 5 ทั้งนั้น แต่ส่วนของ Lug to Lug อาจจะค่อนข้างยาวนิดนึงและสำหรับคนข้อมือเล็กในระดับต่ำกว่า 6.5 นิ้วอาจจะเจอปัญหาล้นข้อ เพราะตัวเลขในส่วนนี้ค่อนข้างยาวอยู่ที่ 55.1 มิลลิเมตร ซึ่งดูแล้วถ้าข้อมือคุณใหญ่เกิน 7 นิ้ว จะถือว่าลงตัวมาก โดยส่วนหนึ่งที่ทำให้ Lug to Lug ค่อนข้างยาวนั้นเป็นเพราะข้อต่อโลหะที่เชื่อมต่อระหว่างตัวเรือนกับสายยาง ซึ่งพื้นที่ตรงส่วนนี้ถือว่ายาวยื่นออกมาระดับหนึ่งเลย

Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain

อีกจุดหนึ่งที่ผมค่อนข้างชอบเมื่อเปรียบเทียบกับ MTG-1000 คือ การจัดวางเลย์เอาท์ของหน้าปัด โดยเฉพาะในส่วนของหน้าปัดย่อย ซึ่งในรุ่น MTG-B1000 ดูลงตัวระดับหนึ่งแล้ว แต่ดูเหมือนว่าทีมออกแบบ Casio จะรู้ใจผม และเลือกออกแบบหน้าปัดย่อยให้มีขนาดแตกต่างกันไปตามความสำคัญในการมองเห็น เช่น หน้าปัดที่ตามปกติแล้วจะบอก Day หรือวันประจำสัปดาห์ และเมื่อคุณกดปุ่ม Mode เข็มก็จะเลื่อนเพื่อทำหน้าที่บอกฟังก์ชั่นที่อยู่ในตอนนั้น ซึ่งกับรุ่น MTG-B1000 บอกเลยว่าผมแทบมองไม่เห็นเลย แต่ในรุ่น MTG-B2000 ทาง Casio ย้ายหน้าปัดนี้มาอยู่ในตำแหน่ง 3 นาฬิกา และขยายมันให้ใหญ่ขึ้นมาจนเห็นรายละเอียดที่อยู่ข้างในได้ชัดเจน เช่นเดียวกับหน้าปัดที่บอกเวลา UTC ก็มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าหน้าปัดบอก 24H ทำให้ปัญหาในเรื่องการมองลดลงอย่างเห็นได้ชัด และเป็นการใช้ขนาดในการลำดับความสำคัญในการใช้งานของหน้าปัดย่อยได้อย่างถูกต้อง

สำหรับโมดุลที่ใช้อยู่ใน MTG-B2000XMG ก็เหมือนกับรุ่นธรรมดา คือ เป็นรหัส 5636 ซึ่งแตกต่างจากรุ่น MTG-B1000 ที่เป็นรหัส 5544 และยังคงฟังก์ชั่นในการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนผ่านทาง Bluetooth ได้เหมือนเดิม และคุณสามารถปรับหรือตั้งค่าตัวนาฬิกาได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นนี้ได้เลย โดยไม่จำเป็นในการยุ่งกับปุ่มต่างๆ บนตัวนาฬิกา ซึ่งถือเป็นอีกความสะดวกที่ทำให้คนที่อาจจะไม่ค่อยอยากนั่งอ่านแมนนวลสามารถเซ็ตเวลา หรือเปลี่ยนพวก Home time และ World time ในขณะเดินทางข้ามเขตเวลาได้โดยไม่ต้องมานั่งหมุนๆบนตัวนาฬิกา

แต่สุดท้ายถ้าถามผมนะ ทางที่ดียังไงก็ควรนั่งอ่านแมนนวลและทำความเข้าใจเอาไว้ดีกว่า จะได้ใช้งานได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะเมื่อต้องตั้งเวลาหรือทำอะไรกับตัวนาฬิกาในช่วงที่ไม่มีสมาร์ทโฟน

สำหรับฟังก์ชั่นที่มีอยู่ในนาฬิกาเรือนนี้นั้นไม่ได้มีอะไรมาก หลักๆ คือ Worldtime ที่แสดงเวลาโลกได้มากกว่า 300 เมือง การจับเวลาเดินหน้าและถอยหลัง การตั้งปลุก ฯลฯ ซึ่งถือเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานของนาฬิกาจาก G-Shock ถ้าคุณเป็นพวกบ้าฟังก์ชั่นแบบปกติ ถือว่านาฬิกาเรือนนี้ตอบสนองได้ครบครัน แต่ถ้าต้องการมากกว่านั้น อาจจะต้องมองหานาฬิกาที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะทางของคุณไปแทน แต่แน่นอนว่าคุณก็จะพลาดกับความงามและความพิเศษที่นาฬิกาเรือนนี้มีให้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อาจจะทำให้หลายคนชะงักสักนิดคือ ความต่างในด้านราคาที่รุ่น MTG-B2000 ขยับขึ้นจากรุ่นธรรมดาค่อนข้างเยอะเหมือนกัน โดยในรุ่นนี้อยู่ที่ 50,000 บาท ส่วน MTG-B2000 รุ่นพื้นฐานเลยจะอยู่ที่ 37,000 กว่าบาท ซึ่งงานนี้ส่วนต่างกันที่ 13,000 บาทอาจจะทำให้หลายคนลังเล

แต่ส่วนตัวผมเชื่อว่าด้วยความพิเศษของวัสดุ บวกกับความแรร์ของตัวนาฬิกาที่เข้ามาขายในบ้านเราเพียง 50 เรือนเท่านั้น  ตัวเลขความต่างที่เกิดขึ้นในระดับนี้ไม่น่าจะสร้างความหนักใจให้กับลูกค้าสายตรงของพวก MTG ซึ่งถือเป็น Hi-Level Collection ของ Casio G-Shock อย่างแน่นอน และยิ่งถ้าเทียบกับ MTG-B2000XD และ MTG-B2000YBD ที่มีลักษณะของการผลิตขอบตัวเรือนที่คล้ายกันแล้ว ถือว่าราคาต่างกันแทบไม่เยอะเลย เพราะทั้ง 2 รุ่นนี้จะอยู่ที่ 42,000-48,000 บาท

เอาเป็นว่าถ้าคุณชอบในตัวนาฬิกาอยู่แล้ว แต่ติดที่เรื่องของการจ่ายแพงขึ้นจากรุ่นปกติค่อนข้างเยอะ ตรงนี้ผมว่าผมหาเหตุผลมาสนับสนุนให้ข้างบนแล้วนะ และถือเป็นการจ่ายเพิ่มที่คุ้มค่านะ…ในมุมมองของผมนะ

ข้อมูลทางเทคนิค : Casio G-Shock MTG-B2000XMG Rainbow Mountain

  • เส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน : 49.8 มิลลิเมตร
  • Lug to Lug : 55.1 มิลลิเมตร
  • ความหนา : 15.9 มิลลิเมตร
  • กระจก : Sapphire
  • กลไก : ควอตซ์โมดุล 5636 Tough Solar / Multiband 6 / Bluetooth Connected
  • ความเที่ยงตรง : +/- 15 วินาทีต่อเดือน
  • อายุแบตเตอรี่ : เมื่อมีการชาร์จจนเต็ม จะใช้งานได้ 5 เดือนโดยไม่โดนแสง และ 22 เดือนเมื่ออยู่ในโหมด Power Saving และไม่โดนแสง
  • การกันน้ำ : 200 เมตร
  • ประทับใจ : ความล้ำสมัยของวัสดุในการผลิตกรอบตัวเรือน การจัดวางหน้าปัดย่อยบนหน้าปัด
  • ไม่ประทับใจ : ฟังก์ชั่นที่ใกล้เคียงกับนาฬิการุ่นรองๆ ของ Casio G-Shock