Casio เผยโฉมนาฬิกา MT-G รุ่นใหม่ โดดเด่นด้วยกรอบตัวเรือนคาร์บอนหลากสี เจิดจรัสดั่งภูเขาสายรุ้ง เตรียมเปิดตัวในไทย ธันวาคม 2021 นี้
Casio G-Shock MTG-B2000XMG ความงามจากคาร์บอนสีรุ้ง
บริษัท คาสิโอ คอมพิวเตอร์ จำกัด เผยโฉมนาฬิกา Casio G-Shock MTG–B2000XMG รุ่นใหม่ล่าสุด ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์นาฬิกาที่ทนทานต่อแรงกระแทก โดดเด่นด้วยดีไซน์ของกรอบตัวเรือนวัสดุคาร์บอนและไฟเบอร์กลาสหลากสีสันดั่งภูเขาสายรุ้งที่เจิดจรัสและสะกดทุกสายตา โดยนาฬิการุ่นล่าสุดนี้ เป็นหนึ่งในนาฬิกาจากกลุ่มพรีเมี่ยม MT-G ซึ่งมีลักษณะเฉพาะในด้านโครงสร้างตัวเรือนที่ผสมผสานวัสดุโลหะ และเรซินรวมเข้าด้วยกัน
กรอบตัวเรือนรุ่น Casio G-Shock MTG-B2000XMG ผ่านกระบวนการผลิตแบบใหม่ โดยนำวัสดุคาร์บอนและไฟเบอร์กลาสหลากสี มาทำเป็นลวดลายเป็นชั้นเพื่อให้ได้ความงามแบบธรรมชาติของภูเขาสายรุ้ง แล้วจึงนำวัสดุมาตัดให้เป็นกรอบตัวเรือนนาฬิกา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของแร่ธาตุต่าง ๆ ตามธรรมชาติหลังจากผ่านการระเบิดของภูเขาไฟ และการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก
ทั้งนี้ นาฬิกาแต่ละเรือนที่ผลิตในรุ่นนี้จะมีความต่างเฉพาะตัวจากลวดลายและสีสันของกรอบที่เป็นเอกลักษณ์อย่างโดดเด่น นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มลูกเล่นโดยการใช้สีสัน ผ่านการออกแบบหน้าปัดหลากสี เสริมด้วยการเคลือบไอออนประดับส่วนประกอบต่าง ๆ ของตัวเรือน ตั้งแต่ขอบด้านในของตัวเรือนด้วยสีรุ้ง ตัวล็อคและห่วงรัดสายด้วยสีโรสโกลด์ ไปจนถึงสกรูส่วนหน้า ปุ่มกด และตัวเม็ดมะยมด้วยสีม่วงและสีฟ้าอ่อนเป็นต้น
นาฬิกา G-SHOCK รุ่นนี้ให้เวลาเที่ยงตรงแม่นยำทั่วโลกด้วยระบบรับสัญญาณเทียบเวลามาตรฐานของคลื่นวิทยุ มากไปกว่านั้น ตัวเรือนยังมีฟังก์ชันเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่ช่วยให้นาฬิกาสามารถอัปเดตแบบอัตโนมัติเมื่อมีการปรับเปลี่ยนโซนเวลาหรือปรับเวลาออมแสง (Daylight savings time) เพียงแค่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน รวมถึงยังมีระบบการทำงานอื่น ๆ อาทิ การชาร์จพลังงานผ่านแสงอาทิตย์ และหน้าจอ LED ความสว่างสูง เพื่อความสะดวกสบายและพร้อมต่อการใช้งานอย่างครบครัน
เตรียมสัมผัสกับความงามบนพื้นฐานแห่งความทนทานของอีกหนึ่งรุ่นที่โดดเด่นจากคอลเล็กชั่นMT-G ของ G-Shock ได้ในเดือนธันวาคมนี้
รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-Shock MTG–B2000XMG
โครงสร้าง | Triple G Resist (ทนทานต่อแรงกระแทก ทนต่อแรงเสียดทาน ทนต่อแรงสั่นสะเทือน) | |
การกันน้ำ | สามารถกันน้ำได้ลึก 200 เมตร | |
คลื่นความถี่วิทยุ | 77.5 kHz (DCF77: เยอรมณี); 60 kHz (MSF: สหราชอาณจักร); 60 kHz (WWVB: สหรัฐอเมริกา); 40 kHz (JJY: ฟูกูชิมะ, ญี่ปุ่น) / 60 kHz (JJY: คิวชู, ญี่ปุ่น); 68.5 kHz (BPC: จีน) | |
การรับคลื่นวิทยุ | การรับอัตโนมัติสูงสุด 6 ครั้งต่อวัน (ยกเว้นในประเทศจีน การรับอัตโนมัติสูงสุด 5 ครั้งต่อวัน) หรือการปรับแบบรับด้วยตนเอง | |
การสื่อสารข้อมูลจำเพาะ | การสื่อสารทั่วไป | Bluetooth® พลังงานต่ำ |
ระยะการรับสัญญาณ | รับสูงสุดได้ไกล 2 เมตร (ขึ้นอยู่กับสภาวการณ์รอบตัว) | |
การจับเวลา | 1 วินาที; จับเวลาได้นาน 24 ชั่วโมง | |
การจับเวลาถอยหลัง | หน่วยวัด 1 วินาที (นานสุด 24 ชั่วโมง) | |
ฟังก์ชันอื่น ๆ | การเชื่อมต่อกับมือถือ (การเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติ การปับเปลี่ยนเวลาแบบอัตโนมัติ การปรับเปลี่ยนฟังก์ชันแบบง่าย นาฬิกาโลก: กว่า 300 เมือง การหาเบอร์โทรศัพท์ การแสดงสเตตัสผ่านหน้าจอ การเช็คฟังก์ชันด้วยตนเอง); การตั้งค่าเวลาใหม่; การเปลี่ยนการสวมใส่; การแจ้งเตือนต่อวัน; การบอกเวลสสองช่วง (27 โซนเวลา การเปลี่ยนเวลาตามสถานที่ การปรับเวลาตาม Daylight saving time แบบอัตโนมัติ การสลับเวลา); การออมพลังงาน; การปรับตามปฎิทินแบบอัตโนมัติ; ไฟ LED (เพิ่มแสงและลดแสง); การแสดงวันและวันผ่านหน้าจอ | |
แหล่งพลังงาน | ระบบการใช้พลังแสงอาทิตย์ (การชาร์จพลังงานผ่านแสงอาทิตย์) | |
ระบบปฎิบัติการต่อเนื่อง | สามารถใช้งานได้ราว 29 เดือน โดยเปิดการใช้งานฟังก์ชันออมพลังงานไว้ (power-saving function ON) หลังงานชาร์จพลังงานเต็มที่ | |
ขนาดตัวเรือน | 55.1 × 49.8 × 15.9 มิลลิเมตร | |
น้ำหนักรวม | ประมาณ 121 กรัม |
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/