Casio G-Shock MTG-B2000 มากับ 2 รุ่นใหม่ที่ถูกผลิตด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ในแบบ Multilayer Carbon ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยและความเบาให้กับตัวนาฬิกาอย่างมาก
Casio G-Shock MTG-B2000 เติมความล้ำด้วยวัสดุ Multilayer Carbon
-
การเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับนาฬิกาในตระกูล MTG-B2000 ด้วย 2 รุ่นพิเศษ
-
มีการใช้กรรมวิธีที่เรียกว่า Multilayer Carbon เพื่อใช้ในการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวนาฬิกา
-
เริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นแล้วกับราคา 148,500 และ 159,500 เยน
Casio เพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับนาฬิกาตระกูล MTG-B2000 ซึ่งการมาคั้งนี้ของรุ่น MTG-B2000YBD-1AJF และ MTG-B2000XD-1AJF ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการเพิ่มสีสันใหม่เท่านั้น แต่ยังอยู่ที่การนำเสนอความสวยงาม และลงตัวด้วยการนำวัสดุอย่างคาร์บอนไฟเบอร์มาผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวนาฬิกา ภายใต้กรรมวิธีที่เรียกว่า Multilayer Carbon
แน่นอนว่านาฬิกาทั้ง 2 รุ่นใหม่นี้ยังคงเอกลักษณ์ของดีไซน์และแนวคิดในการพัฒนาของตัวเรือนแบบ Carbon Core Guard ที่กลายเป็นแนวคิดหลักในการพัฒนาตัวเรือนของนาฬิกา G-Shock รุ่นใหม่ๆ แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ การนำคาร์บอนไฟเบอร์มาเรียงเป็นชั้นๆ ซึ่งเรียกว่า Multilayer Cabon จากนั้นนำมาขึ้นรูปโครงสร้างรอบนอกหรือ Bezel Frame ของตัวนาฬิกาของรุ่น MTG-B2000YBD-1AJF ซึ่งชิ้นส่วนนี้จะประกอบไปด้วยชั้นของคาร์บอนและไฟเบอร์กลาสวางเรียงกันมากถึง 235 ชั้นทำให้ชิ้นส่วนนี้มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นปกติถึง 77% เลยทีเดียว
ส่วนรุ่น MTG-B2000XD-1AJF มีความพิเศษกับการนำคาร์บอนไฟเบอร์มาใช้ในการผลิตขอบตัวเรือนที่มีรูปทรงซึ่งซับซ้อน และใช้วิธีในการผลิตใช้แรงดันสูงและการตัดที่เที่ยงตรงในการจัดการแต่งชื้นงานที่เป็นส่วนประกอบของชั้นคาร์บอนไฟเบอร์วางเรียงซ้อนกันให้เป็นขอบตัวเรือนที่สวยและสะดุดตา โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นชั้นสีเขียวในรุ่น MTG-B2000XD-1AJF และสีแดงในรุ่น MTG-B2000YBD-1AJF วางเรียงสลับกับลายสีดำอย่างสวยงาม
สำหรับสายโลหะของทั้ง 2 รุ่นถูกพัฒนาให้สวมใส่ง่ายและลดน้ำหนักที่จะเป็นภาระกับข้อมือด้วยการใช้เรซินแข็งแทรกลงไปบนด้านหลังของข้อต่อสาย ซึ่งตรงนี้ยังคงความแข็งแรงและทนทานแต่มีความเบาขึ้น
นาฬิกาในตระกูลนี้ไม่ได้เน้นในเรื่องการใช้งานภาคพื้นสนาม ดังนั้น ฟังก์ชั่นจึงถือว่าไม่ค่อยมีอะไรที่เด่นหรือแปลกไปจาก G-Shock แบบเดิมๆ ซึ่งก็ส่วนใหญ่จะเน้นไปเรื่อง World Time ที่มีเวลาจากเมืองต่างๆ ทั่วโลกมากถึง 300 เมือง การเชื่อมต่อผ่านบลูทูธไปที่สมาร์ทโฟนทำให้เรื่องของการปรับเซ็ตเวลา และการบันทึกข้อมูลในเรื่องการทำต่างๆ เช่น ตั้งปลุก หรือจับเวลาเดินหน้า-ถอยหลังสามารถทำได้อย่างสะดวก
ส่วนระบบ Tough Solar ในการเปลี่ยนพลังแสงอาทิตย์ให้เป็นไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่นั้นมีความสามารถที่โดดเด่น เช่น เมื่อชาร์จจนเต็มสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 5 เดือนโดยที่ไม่ต้องโดนแสงเลย หรือ 29 เดือนเมื่อวางเอาไว้ในที่มืดและเปิด Power Saving Mode เอาไว้
ในญี่ปุ่นเริ่มทำตลาดแล้ว โดยรุ่น MTG-B2000YBD-1AJF มีราคาอยู่ที่ 159,500 เยน และรุ่น MTG-B2000XD-1AJF มีราคา 148,500 เยน
รายละเอียดทางเทคนิค : MTG-B2000XD-1AJF
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 49.8 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 55.1 มิลลิเมตร
- หนา : 15.9 มิลลิเมตร
- กระจก : Sapphire
- ความสามารถในการกันน้ำ : 200เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/