Casio G-SHOCK กลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งกับนาฬิกาในคอลเล็กชั่น MR-G อย่างรุ่น MRG-B2100B นำรูปทรงในด้านการออกแบบจากอดีตกลับมาตีความใหม่อีกครั้ง พร้อมกับตัวเรือนและสานผลิตจากวัสดุพิเศษอย่าง Cobarian และ DAT55G โดยจะมีราคาอยู่ที่ 649,000 เยน
Casio G-SHOCK MRG-B2100B อีกความประณีตบนงานดีไซน์ดั้งเดิม
-
อีกครั้งที่ Casio G-SHOCK นำรูปทรงในด้านการออกแบบจากอดีตกลับมาตีความใหม่อีกครั้ง
-
MRG-B2100B มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 44.4 มิลลิเมตร พร้อมรูปทรงรี่ถอดออกมาจากรุ่น GA2100
-
ตัวเรือนและสานผลิตจากวัสดุพิเศษอย่าง Cobarian และ DAT55G
การขัดแต่งที่สวยงาม และความละเอียดของชิ้นส่วนตัวเรือนที่ประกอบอยู่บนตัวนาฬิกา พร้อมกับพาทุกคนกลับสู่ความสำเร็จในยุคดั้งเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาประสบความสำเร็จกันมาแล้วกับการนำนาฬิกา MR-G มาผลิตบนตัวเรือนเหลี่ยมของ G-SHOCK รุ่นแรกในปี 1983 ส่วนครั้งนี้ พวกเขาสานต่อความสำเร็จ และเปิดตัว Casio G-SHOCK MRG-B2100B นาฬิกาอีกคอลเล็กชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก G-SHOCK รุ่นดั้งเดิมอย่าง DW-5000C
สำหรับ Casio G-SHOCK MRG-B2100B เป็นการพัฒนาต่อเนื่องในด้านของงานออกแบบที่อ้างอิงมาจากนาฬิการุ่น GA-2000/GA2100 ที่เปิดตัวออกมาเมื่อปี 2019 โดยนาฬิการุ่นนี้นำตัวเรือนทรง 8 เหลี่ยมของ G-SHOCK รุ่นดั้งเดิมอย่าง DW-5000C มาตีความใหม่เพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานที่มีความทันสมัยขึ้น และแสดงผลในแบบ Analog-Digital
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ MR-G ที่นำดีไซน์จากรุ่นดั้งเดิมมาใช้คือ การเติมความสวยงามและความใส่ใจในเชิงรายละเอียดเข้าไปอย่างเต็มที่พร้อมกับใช้เทคนิคการผลิตและการขัดแต่งขั้นสูงจากช่างฝีมือของญี่ปุ่น โดยนาฬิกาเรือนนี้มากับโครงสร้างแบบ Multi-Layer Construction ที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่างๆ บนตัวเรือนมากถึง 27 ชิ้น และแต่ละชิ้นผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกันออกไป และมีการขัดแต่งที่แยกจากกัน ดังนั้น เราจึงได้เห็นความสวยงามและความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ของ Casio G-SHOCK ผ่านนาฬิกาเรือนนี้ได้เป็นอย่างดี
จากการเปิดเผยของ CasioG-SHOCK ระบุว่ากรอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของคอลเลกชัน 2100 ได้รับการรังสรรค์ขึ้นจากชิ้นส่วนเล็ก ๆ มากถึง 27 ชิ้น ซึ่งช่วยให้สามารถขัดเงาได้อย่างแม่นยำเพื่อให้ได้ผิวโลหะที่สวยงาม แม้กระทั่งจุดที่เข้าถึงยากก็สามารถขัดเงาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชิ้นส่วนภายนอกได้รับการขัดเงาทีละชิ้นโดยช่างฝีมือชั้นยอด จากนั้นจะได้รับการประกอบเข้าด้วยกันอย่างพิถีพิถันเฉกเช่นเดียวกับงานไม้คิกุมิ (Kigumi)
ขนาดตัวเรือนมีเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 44 มิลลิเมตร กรอบตัวเรือนด้านบนทำจาก COBARION ซึ่งเป็นโลหะผสมที่มีความแข็งประมาณสี่เท่าของไทเทเนียมบริสุทธิ์ ส่วนสายนาฬิกาทำจาก DAT55G ซึ่งเป็นโลหะผสมไทเทเนียมที่มีความแข็งประมาณสามเท่าของไทเทเนียมบริสุทธิ์ นาฬิการุ่นนี้จึงนับเป็นการผสมผสานระหว่างความงามอันประณีตของโลหะกับความแข็งแกร่งทนทานอันเป็นเอกลักษณ์ของ G-SHOCK จนกลายเป็นดีไซน์ที่คู่ควรกับชื่อของ MR-G อย่างแท้จริง
 |
 |
 |
มาพร้อมหน้าปัดลายตาข่ายสามมิติ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากงานฝีมือชั้นสูงของเทคนิคการต่อไม้แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เรียกว่า คิกุมิ พื้นผิวหน้าปัดได้รับการออกแบบให้เป็นลอนคลื่นพร้อมช่องเปิดเล็ก ๆ ที่ซับซ้อน เพื่อสร้างลวดลายเรขาคณิตที่สื่อถึงโลกทัศน์ของงานโครงตาข่าย Kumiko (เป็นเทคนิคของญี่ปุ่นในการประกอบชิ้นไม้ให้เป็นลวดลายเรขาคณิตโดยไม่ต้องใช้ตะปูยึด) ได้อย่างสวยงาม ลวดลายนี้ไม่เพียงแต่เป็นดีไซน์ที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ช่องเล็ก ๆ ที่ประณีตเหล่านี้ยังช่วยให้แสงผ่านเข้าไปเพียงพอเพื่อผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้อีกด้วย
 |
 |
สำหรับโมดุลเป็นรหัส 5718 สามรถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและผ่านทาง Bluetooth แบบกินไฟต่ำ และเชื่อมต่อได้ในรัศมี 2 เมตรห่างจากโทรศัพท์มือ ฟังก์ชั่นหลักๆ คือ การจับเวลา ตั้งปลุก โดยทุกอย่างสามารถปรับหรือเซ็ตผ่านทางแอพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้ อีกทั้งยังมีระบบ Tough Solar เพื่อช่วยในการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในตัวเก็บประจุ
 |
 |
ราคาของ Casio G-SHOCK MRG-B2100B ในญี่ปุ่นอยู่ที่ 649,000 เยน และเมืองไทยทราบข่าวมาว่าจะเปิดตัวในกลางเดือนกรกฎาคมนี้
รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-SHOCK MRG-B2100B
- เส้นผ่านศูนย์กลาง : 44.4 มิลลิเมตร
- Lug to Lug : 49.5 มิลลิเมตร
- ความหนา : 13.6 มิลลิเมตร
- กระจก : Sapphire
- กลไก : Module 5718 แสดงผลแบบเข็ม
- พลังงาน :เปลี่ยนพลังแสงอาทิตย์มาเป็นกระแสไฟฟ้า / จับเวลา / เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟน
- การกันน้ำ : 200 เมตร
Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/
YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline
