Casio G-SHOCK GW-5000HS ขยายซีรีส์ใหม่ให้ 5000 Series

GW-5000 ถือเป็นทายาทสายตรงที่สานต่อแรงบันดาลใจและสเป็กมาจาก DW-5000C นาฬิกาเรือนแรกของ Casio G-SHOCK แต่มีการปรับแต่งรายละเอียดให้ทันสมัยใหม่ ซึ่งที่ผ่านมามีจำหน่ายเพียงแค่รุ่นเดียว คือ GW-5000U-1JF แต่ตอนนี้ทางแบรนด์ได้เพิ่มอีก ซีรีส์เข้ามา นั่นคือ HS Series ในแบบ Monochrome ดำ-ขาว

Casio G-SHOCK GW-5000HS ขยายซีรีส์ใหม่ให้ 5000 Series

• เพิ่มซีรีส์ใหม่ให้กับสายพันธ์ GW-5000 ซึ่งเป็นนาฬิกาทรงแปดเหลี่ยมตัวท็อปของแบรนด์

• มีจำหน่าย 2 สีตัวเรือนในแบบ Monochrome ดำ-ขาว

• โครงสร้างตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีลเคลือบด้วย DLC

ผลผลิตที่ต่อเนื่องมาจากแนวคิดของนาฬิกาเรือนแรกของ G-SHOCK ซึ่งประเดิมตลาดไปแล้วกับรุ่น DW-5000R โดยคราวนี้มากับตระกูล GW-5000 ซึ่งตามปกติแล้วจะมีขายในญี่ปุ่นและประเทศที่มีเสาวิทยุซึ่งรับระบบ Multiband ได้ โดยทาง Casio จะจำหน่ายนาฬิการุ่นใหม่นี้ในชื่อ HS Series ซึ่งมี 2 รุ่นย่อย คือ Casio G-SHOCK GW-5000HS-1JF และ Casio G-SHOCK GW-5000HS-7JF

สำหรับ RY Series ซึ่งย่อมาจาก Rescue Team Yellow ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีเหลืองของทีมกู้ภัยภาคพื้นดิน ซึ่งมีความโดดเด่นและชัดเจนในการมองเห็น โดยสีนี้มักจะถูกใช้ในอุปกรณ์ของทีมกู้ภัยและเครื่องบิน เพื่อเป็นสีเตือนเพื่อบ่งชี้ถึงการมีอยู่ของคุณในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น สภาพอากาศเลวร้ายและทัศนวิสัยไม่ดี

ทาง Casio G-SHOCK ได้นำมาสร้างสรรค์ด้วยการนำเสนอแนวทางของการตัดกันอย่างลงตัวของคู่สีเหลืองมะนาวสำหรับสาย รวมถึงฟอนต์ตัวหนังสือของคำว่า G-SHOCK และ Protection ขณะที่ตัวเรือนที่เป็นสีดำ โดยวัสดุในการผลิตตัวเรือนจะผลิตจาก BioMass Plastic เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

สำหรับนาฬิกาบนตัวเรือนทรง 8 เหลี่ยมที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก DW-5000C แต่ใช้โมดุล 3495 โดยมีทั้งระบบ Multiband 6 และ Tough Solar ในการเปลี่ยนพลังงานแสดงเป็นพลังงานไฟฟ้านั้น จะมีการแยกทำตลาดออกมา 2 รุ่น คือ เป็น Made in Japan อยู่ที่โรงงาน Yamagata ที่ประเทศญี่ปุ่น และโครงสร้างตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีล

ซึ่งมีราคาแพงกว่าอีกรุ่นประมาณเท่าตัว ซึ่งที่ผ่านมาจะมีรหัสว่า GW-5000 ส่วนอีกรุ่นจะมีราคาถูกกว่า และใช้โครงสร้างตัวเรือนที่ผลิตจากเรซิน มีรหัสว่า GW-M5600 ส่วนฐานการผลิตอยู่นอกญี่ปุ่น ซึ่งที่ผ่านมาจะใช้โรงงานที่ประเทศไทย

นอกจากนั้น GW-5000 จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางแค่ 42.8 มิลลิเมตร (เท่ากับ DW-5000R ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา) ขณะที่ GW-M5600 จะอยู่ที่ 43.2 มิลลิเมตร

กลับมาที่ GW-5000HS ถือเป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในตลาดหลังจากที่ Casio G-SHOCK มีแค่รุ่น GW-5000U-1JF อยู่ในตลาดมานานร่วม 3 ปี โดยคอนเซ็ปต์ของซีรีส์ HS คือ การนำเสนอตัวเรือนในแบบ Monochrome แบบสีเดียวตลอดทั้งเรือน โดยเน้นไปที่โทนขาว-ดำ ซึ่งรุ่นที่ทำตลาดมี 2 รุ่นย่อย คือ

• GW-5000HS-1JF ตัวเรือนสีดำ
• GW-5000HS-7JF ตัวเรือนสีขาว

ทั้ง 2 รุ่นจะใช้โครงสร้างตัวเรือนที่หุ้มโมดุลที่ผลิตจากสเตนเลสสตีลและเคลือบ DLC (Diamond-Like Carbon) สีดำ พร้อมกับฝาหลังแบบขันเกลียว ส่วนโมดุล 3495 มีฟังก์ชั่นใช้งานแบบมาตรฐาน ซึ่งมีทั้งการแสดงเวลา World Time ได้ 5 เขตเวลา และสามารถสลับการแสดงเวลาระหว่าง Home Time และ Local Time ได้ การจับเวลาเดินหน้าและถอยหลัง

การตั้งปลุก สามารถเปลี่ยนภาษาสำหรับแสดงวันประจำสัปดาห์ หรือ Day ได้ 6 ภาษา คือ อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส รัสเซีย เยอรมนี และอิตาลี คล้ายกับของรุ่น GMW-B5000 แต่เป็นคนละโมดุลกัน เพราะในนาฬิการุ่นนี้จะเป็นโมดุลรหัส 3459 และเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ด้วย Bluetooth

Casio G-SHOCK GW-5000HS-1JF และ Casio G-SHOCK GW-5000HS-7JF จะทำตลาดญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ และมีราคาอยู่ที่ 46,200 เยน

#CASIO #CasioG-SHOCK #G-SHOCK #GW-5000HS #DW-5000C #5000Series

รายละเอียดทางเทคนิค : Casio G-SHOCK GW-5000HS

• เส้นผ่านศูนย์กลาง: 42.3 มิลลิเมตร
• Lug to Lug: 48.9 มิลลิเมตร
• ความหนา: 13.5 มิลลิเมตร
• กระจก:Mineral
• ฝาหลัง: ขันเกลียว
• โมดุล :รหัส 3495 Multiband 6 / Tough Solar
• ฟังก์ชั่น: แสดงเวลา World Time จับเวลาเดินหน้า จับเวลาถอยกลัง ตั้งปลุก การแสดงเวลา 12/24H
• ไฟส่องสว่าง: LED
• การกันน้ำ: 200 เมตร

Fanpage : https://www.facebook.com/anadigionline/

YouTube Channel : https://www.youtube.com/channel/anadigionline